สรุปงบล่าสุด TFM
บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท ไทยยูเนียน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) (TFM) ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 : เติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ รายงานยอดขายไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 1,389.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากยอดขายอาหารกุ้งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 29.4% จากทั้งการขายในประเทศไทย จินโดนีเซีย และการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ขณะที่ยอดขายอาหารปลาปรับตัวลดลง 18.3% ซึ่งส่วนมากมาจากยอดขายอาหารปลากะพงที่ลดลง และยอดขายอาหารสัตว์บกปรับตัวลดลง 25.0% เป็นผลจากการปรับกลยุทธ์การขายอาหารสัตว์บก บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 19.2% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 11.1% เนื่องจากบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การขายสินค้าโดยมุ่งเน้นสินค้าในกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไร และการบริหารต้นทุน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น กําไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 151.0 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 187.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้และยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นในอนาคต
## TFM เป็นโอกาสการลงทุนหรือไม่?
TFM มีผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น สะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 12.6% และล่าสุดในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.2% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์การขายสินค้าและการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของกำไรสุทธิ บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิที่เฉลี่ย 4.2% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และล่าสุดในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.7% แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรสุทธิได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าราคาเฉลี่ยของหุ้น TFM ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคาเฉลี่ยล่าสุดอยู่ที่ 7.87 บาท แต่ P/E ของหุ้น TFM อยู่ที่ 14.3 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อหุ้น TFM และ P/BV อยู่ที่ 1.78 โดยเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.72 และ YIELD อยู่ที่ 1.51 โดยเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.83 และ D/E อยู่ที่ 0.35 โดยเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.44 แสดงให้เห็นว่า TFM มีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในอนาคต
## โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน
**โอกาส**
* ผลประกอบการที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
* อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น สะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุน
* ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง ทำให้ P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เป็นโอกาสในการลงทุน
* D/E ต่ำกว่า 1 แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการกู้เงิน
**ความเสี่ยง**
* ความผันผวนของราคาอาหารสัตว์
* การแข่งขันในตลาดที่รุนแรง
* ความเสี่ยงด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
TFM เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่มีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว เพื่อรอการเติบโตของผลประกอบการและรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน TFM ก่อนตัดสินใจลงทุน
(6.92%)
(6.49%)
(9.53%)
(84.19%)
(2.43%)
(72.93%)
(16.52%)
(29.89%)
(16.72%)
(187.75%)
(44.12%)
(293.39%)