TEKA
บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

TEKA เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าและรักษาอัตรากำไร

สวัสดีค่ะ ท่านผู้ถือหุ้นและท่านนักลงทุนทุกท่าน ในวันนี้เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือผลประกอบการของบริษัท ที.เค. เอส. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประจำไตรมาสที่ 3 ปีพุทธศักราช 2568 โดยดิฉัน อังคณา ทองสมัคร ผู้จัดการส่วนงานบัญชีและการเงิน เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้มาเป็นผู้ให้ข้อมูลในวันนี้ค่ะ

โดยในหัวข้อที่เราจะนำมานำเสนอในวันนี้นะคะ แบ่งออกเป็น 5 หัวข้อใหญ่ๆ ได้แก่:

  1. Business Overview โดยรวมของบริษัท
  2. Construction Progress ความคืบหน้าของงานโครงการต่างๆ ของบริษัท
  3. Financial ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
  4. Business Plan หรือแผนธุรกิจค่ะ
  5. ช่วงของการถามตอบ

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

บริษัท ที.เค. เอส. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างมานานกว่า 41 ปี มีความโดดเด่นในงานอาคารขนาดใหญ่และอาคารสูงทุกประเภท โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยโครงการคอนโด รวมถึงอาคารหรือตึกสูงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล อาคารเรียน มิกซ์ยูส หรือ Shopping Center

กลุ่มลูกค้าของบริษัทจะเป็น Developer ชั้นนำ อาทิเช่น แสนสิริ อนันดา Noble MQDC SC Asset และ MIDA Asset เป็นต้น

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

ปัจจุบันโครงการที่บริษัทดำเนินการอยู่มีทั้งหมด 8 โครงการ และมีอีก 1 โครงการที่ส่งมอบแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว โครงการแรกจะเป็นโครงการใหม่ที่เพิ่งได้รับความไว้วางใจจากทางบริษัท ศิริ TK7 จำกัด ภายใต้ชื่อโครงการ ไวเด้น บาย แสนสิริ และมีมูลค่างานอยู่ที่ 700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทก็ได้แจ้งข่าวให้ตลาดหลักทรัพย์ไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยโครงการ ไวเด้น บาย แสนสิริ เป็นอาคารคอนโดมิเนียมสูง 34 ชั้น รวมชั้นดาดฟ้า ตั้งอยู่บนถนนนางลิ้นจี่ โดยบริษัทได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานก่อสร้างครอบคลุมงานเสาเข็ม งานวิศวกรรมโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานภูมิสถาปัตย์ และงานภายนอก ระยะเวลาการก่อสร้างอยู่ที่ 34 เดือน โดยได้เริ่มทำการก่อสร้างไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาค่ะ

โครงการที่สองชื่อโครงการ SKV51 เป็นของบริษัท ศิริพัฒน์เทน จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลในเครือของบริษัท แสนสิริ มหาชน มูลค่างาน 379.5 ล้านบาท ลักษณะของโครงการเป็นคอนโดมิเนียมที่มีความสูง 22 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 11 ห้อง ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ ระยะเวลา ก่อสร้างรวม 31 เดือน ปัจจุบันอยู่ในส่วนของงาน ดีวอร์ ผนังคอนกรีตชั้นใต้ดินค่ะ

โครงการที่ 3 นะคะ ชื่อโครงการ Reference เอกมัย เป็นงานของบริษัท SCCD จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลในเครือของบริษัท SC Asset Corporation จำกัด มหาชน โดยมูลค่างานที่ได้รับในครั้งนี้นะคะ เท่ากับ 528 ล้านบาท โครงการนี้เป็นอาคารชุดพักอาศัย ที่มีความสูง 44 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนน สุขุมวิท 63 ลักษณะงานที่ได้รับนะคะ จะเป็นงานวิศวกรรมโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม และงานภายนอกนะคะ ซึ่งโครงการนี้เริ่มทำการก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มีระยะเวลาการก่อสร้างรวมทั้งหมด 27 เดือนค่ะ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเทพื้นชั้น 4 นะคะ

โครงการที่ 4 และโครงการที่ 5 นะคะ เป็นโครงการของบริษัท แสนสิริ จำกัด มหาชน ค่ะ โครงการที่ 4 นะ คะ เป็นโครงการชุดพักอาศัย ชื่อว่า The Standard Resident หัวหิน ค่ะ ตั้งอยู่บนถนน หัวถนน 23 ค่ะ บ้านแก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ติดกับชายทะเลนะคะ มีลักษณะของโครงการ เป็นคอนโดมิเนียม ความสูง 7 ชั้น และคอนโดมิเนียม สูง 4 ชั้น รวม 8 อาคาร อาคารจอดรถ ใต้ดิน 1 ชั้น พร้อม สระว่ายน้ำ 3 อาคาร อาคารพาณิชย์ 1 ชั้น 4 อาคาร และอาคาร อเนกประสงค์ 3 ชั้น โทษ ค่ะ และอาคารอเนกประสงค์ 1 1 ชั้น 3 อาคารนะคะ โดยทั้งหมดนี้นะคะ แบ่งออกเป็น ห้องชุดพัก อาศัย ทั้งหมด 251 ห้อง ห้องชุด พาณิชย์ จํานวน 3 ห้อง ค่ะ

ซึ่งงาน รับเหมา ก่อสร้าง ใน ส่วน ของ พระ ของ The Standard Resident หัวหิน นะ คะ เรา ได้ รับ ส่วน งาน เสา เข็ม งาน วิศวกรรม โครง สร้าง และ งาน สถาปัตย์ รวม มูลค่า งาน รับ เหมา ก่อสร้าง ใน ครั้ง นี้ คือ 640 ล้าน บาท ค่ะ มี ระยะ เวลา ก่อสร้าง ทั้ง หมด 24 เดือน ค่ะ ปัจจุบัน อยู่ ระหว่าง โครง สร้าง อาคาร เอ ชั้น 1 และ 2 และ ได้ มี การ ส่ง งาน สถาปัตย์ ให้ กับ ทาง QC ตรวจ สอบ เรียบร้อย แล้ว นะ คะ ส่วน สระ ว่าย น้ํา อยู่ ระหว่าง ทํา ผนัง สระ เป็น งาน วิลล่า +LMN ค่ะ

ต่อ ไป เป็น โครง การ ที่ 5 นะ คะ ก็ เป็น ของ แสน สิริ เช่น กัน ค่ะ คือ โครง การ เวียร์ สุขุมวิท 61 ตั้ง อยู่ บน ถนน สุขุมวิท 61 คลองตัน เหนือ โดย ลักษณะ ของ โครง การ นะ คะ จะ เป็น คอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น และ ชั้น ใต้ ดิน 2 ชั้น พร้อม สระ ว่าย น้ํา จํานวน 1 อาคาร และ บริษัท เป็น ผู้ ดู แล ใน ส่วน ของ งาน เสา เข็ม งาน วิศวกรรม โครง สร้าง งาน สถาปัตยกรรม และ งาน วิศวะ ระบบ ประกอบ อาคาร โดย มูลค่า รวม ของ งาน อยู่ ที่ 260 ล้าน บาท ค่ะ มี ระยะ เวลา การ ก่อสร้าง ทั้ง หมด อยู่ ที่ 20 เดือน ค่ะ ปัจจุบัน นะ คะ ตัว อาคาร เสร็จ เรียบร้อย แล้ว ค่ะ อยู่ ระหว่าง เก็บ ความ เรียบร้อย ภาย ใน ห้อง พัก และ อยู่ ระหว่าง งาน โครง สร้าง ของ สระ ว่าย น้ํา ค่ะ และ ทั้ง 2 โครง การ นี้ นะ คะ ได้ แก่ โครง การ เวียร์ สุขุมวิท 61 และ The Standard Resident หัวหิน บริษัท คาด ว่า จะ เสร็จ และ ส่ง มอบ ได้ ภาย ใน ไตรมาส ที่ 1 และ ไตรมาส ที่ 2 ปี 69 ตาม ลําดับ ค่ะ

โครงการ The Panorama บ้าน อําเภอ นะ คะ เป็น โครง การ ที่ 6 ที่ ดําเนิน การ อยู่ ใน ปัจจุบัน นี้ นะ คะ ตั้ง อยู่ นา จอม เทียน สัตหีบ ชลบุรี เป็น งาน ที่ ทาง บริษัท ได Asset จํากัด มหาชน ได้ มอบ ความ ไว้ วางใจ ให้ กับ ทาง พีคา ดําเนิน การ ใน งาน ก่อสร้าง วิศวกรรม โครง สร้าง และ งาน สถาปัตยกรรม รวม มูลค่า งาน อยู่ ที่ 728 ล้าน บาท ค่ะ เป็น โครง การ คอนโดมิเนียม นะ คะ ที่ มี ความ สูง 7 ชั้น จํานวน 4 อาคาร ได้ แก่ อาคาร A B C และ D ตาม ลําดับ ค่ะ ปัจจุบัน นะ คะ อาคาร ทั้ง 4 เรียบร้อย แล้ว อยู่ ใน ระยะ เวลา เก็บ ภาย ใน ห้อง พัก และ งาน ภาย นอก อยู่ ระหว่าง การ ดําเนิน การ ให้ แล้ว เสร็จ คาด ว่า จะ เสร็จ และ ส่ง มอบ ได้ ภาย ใน สิ้น ปี 68 นี้ ค่ะ

โครงการ ที่ 7 นะ คะ ชื่อ โครง การ ราชเทวี ซึ่ง เป็น งาน ของ บริษัท แสนสิริ จํากัด มหาชน ค่ะ ตั้ง อยู่ บน ถนน พญา ไทย ลักษณะ ของ งาน ก่อสร้าง ที่ ได้ รับ จะ เป็น งาน เสา เข็ม และ งาน ผนัง ไดอาเฟรม นะ คะ งาน ฐาน ราก งาน วิศวกรรม โครง สร้าง งาน วิศวกรรม ระบบ ประกอบ อาคาร พร้อม งาน สถาปัตย์ ซึ่ง มูลค่า รวม ของ งาน อยู่ ที่ 1,098 ล้าน บาท ค่ะ และ ลักษณะ เป็น อาคาร ที่ อยู่ อาศัย คอนโดมิเนียม ความ สูง 32 ชั้น มี ชั้น ใต้ ดิน 4 ชั้น ระยะ เวลา การ ก่อสร้าง อยู่ ที่ 37 เดือน ค่ะ และ ใน ปัจจุบัน ทํา ถึง ชั้น ที่ 24 นะ คะ

ต่อ ไป เป็น โครง การ ที่ 8 ค่ะ คือ โครง การ ไปโอ รามคําแหง ลํา สาลี สเตชั่น นะ คะ เป็น งาน ของ บริษัท ACJV 21 ค่ะ เป็น นิติ บุคคล ใน เครือ ของ บริษัท อนันดาvelopment จํากัด มหาชน เป็น คอนโด คอนโดมิเนียม ความ สูง 35 ชั้น นะ คะ มูลค่า งาน ใน ครั้ง นี้ เท่า กับ 749 ล้าน บาท และ ปัจจุบัน บริษัท ได้ ส่ง มอบ งาน เป็น ที่ เรียบร้อย แล้ว นะ คะ

และ โครง การ สุด ท้าย คือ โครง การ ที่ 9 ของ สําหรับ ไตรมาส นี้ นะ คะ คือ โครง การ โรง เรียน นานา ชาติ ราเฟิล อเมริกัน สคูล ค่ะ เป็น อาคาร เรียน ที่ มี ความ สูง 6 ชั้น และ อาคาร อเนกประสงค์ ความ สูง 6 ชั้น เช่น กัน ค่ะ มี ระยะ เวลา การ ก่อสร้าง ทั้ง หมด 18 เดือน มูลค่า งาน ทั้ง หมด 312.6 ล้าน บาท ค่ะ ลักษณะ งาน ก่อสร้าง เป็น งาน วิศวกรรม โครง สร้าง งาน สถาปัตย์ และ วิศวกรรม ระบบ ประกอบ อาคาร ค่ะ ปัจจุบัน พื้น โครง สร้าง ชั้น 1 และ ชั้น 2 แล้ว เสร็จ สมบูรณ์ แล้ว 100% นะ คะ

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

Financial Performance นะคะ เกี่ยว กับ ผล การ ดําเนิน งาน ประจํา ไตรมาส ที่ 3 2568 นี้ ค่ะ โดย ส่วน แรก นะ คะ จะ พูด ถึง งบ ฐานะ การ เงิน นะ คะ เริ่ม จาก สิน ทรัพย์ รวม ณ 30 กันยายน ปี นี้ นะ คะ อยู่ ที่ 1,896 ล้าน บาท ค่ะ จะ เห็น ได้ ว่า มี ยอด ที่ เพิ่ม สูง ขึ้น คิด เป็น 8.91% เมื่อ เทียบ กับ กันยายน ปี 67 ที่ ผ่าน มา ซึ่ง สิน ทรัพย์ รวม ของ บริษัท ส่วน ใหญ่ ประกอบ ไป ด้วย เงิน สด และ ราย การ เทียบ เท่า เงิน สด ลูก หนี้ การ ค้า ลูก หนี้ เงิน ประกัน ผล งาน ที่ ดิน อาคาร และ อุปกรณ์ และ สิน ทรัพย์ หมุน เวียน อื่น ไม่ หมุน เวียน อื่น ค่ะ ซึ่ง ภาพ รวม ของ สิน ทรัพย์ ที่ สูง ขึ้น นะ คะ มา จาก บริษัท มี เงิน สด และ ราย การ เทียบ เท่า เงิน สด รวม กับ สิน ทรัพย์ ทาง การ เงิน หมุน เวียน อื่น รวม กัน กว่า 769 ล้าน บาท ค่ะ หรือ คิด เป็น 40 กว่า เปอร์เซ็นต์ ของ ยอด สิน ทรัพย์ รวม ทั้ง หมด นะ คะ ซึ่ง ถือ ว่า เป็น ความ แข็ง แกร่ง และ มั่น คง ทาง การ เงิน ที่ สําคัญ อย่าง หนึ่ง ของ บริษัท ค่ะ

หนี้ สิน รวม ปี นี้ นะ คะ เท่า กับ 1,016 ล้าน บาท สูง ขึ้น 144 ล้าน บาท คิด เป็น 16.5% เมื่อ เทียบ กับ ปี ที่ ผ่าน มา ค่ะ โดย สาเหตุ หลัก ๆ ของ การ เพิ่ม ขึ้น ของ หนี้ สิน จะ เป็น หนี้ สิน ตาม สัญญา ที่ ได้ รับ เงิน รับ ล่วง หน้า จาก ลูก ค้า สําหรับ งาน ก่อสร้าง ตาม มูลค่า งาน ตาม สัญญา ที่ เกิด ขึ้น นะ คะ และ ส่วน ที่ 3 คือ ส่วน ของ ผู้ ถือ หุ้น สิ้น สุด ไตรมาส 3 มี มูลค่า เท่า กับ 880 ล้าน บาท สูง ขึ้น 11 ล้าน บาท ซึ่ง มา จาก ผล ประกอบ การ ของ บริษัท ที่ สามารถ ทํา กําไร ได้ ตาม ปกติ นะ คะ

ต่อ ไป จะ เป็น ใน ส่วน ของ งบ กําไร ขาด ทุน สําหรับ 3 เดือน ของ ปี 68 เทียบ กับ ปี 67 นะ คะ และ เทียบ กับ ช่วง ไตรมาส 2 ของ ปี 68 เดียว กัน ค่ะ โดย บริษัท มี ราย ได้ จาก งาน ก่อสร้าง ไตรมาส 3 นะ คะ 68 เท่า กับ 468 ล้าน บาท และ มี ราย ได้ อื่น เท่า กับ 6.68 ล้าน บาท ต้น ทุน ก่อสร้าง เท่า กับ 401 ล้าน บาท นะ คะ ส่ง ผล ให้ มี กําไร ขั้น ต้น เท่า กับ 67 ล้าน บาท คิด เป็น 14% ของ ราย ได้ รวม ทั้ง หมด ของ บริษัท ซึ่ง จะ เห็น ว่า อัตรา กําไร ขั้น ต้น สูง ขึ้น จาก ไตรมาส ที่ 3 ปี 67 ถึง 19 ล้าน บาท หรือ คิด เป็น 41% นะ คะ และ มี กําไร ขั้น ต้น ที่ สูง ขึ้น เท่า กับ 28 ล้าน บาท คิด เป็น 70% เมื่อ เทียบ กับ ที่ ผ่าน มา 6 เดือน ของ ปี 68 เดียว กัน ค่ะ และ ปี 68 นี้ นะ คะ บริษัท มี กําไร สุทธิ ใน ช่วง 3 เดือน เท่า กับ 29 ล้าน บาท คิด เป็น 6% โดย สูง กว่า ปี 67 ถึง 10.81 ล้าน บาท ค่ะ หรือ คิด เป็น 58% และ มี กําไร สุทธิ เพิ่ม ขึ้น 9 ล้าน บาท คิด เป็น 44% เมื่อ เทียบ กับ 6 เดือน ของ ปี 2568 เช่น เดียว กัน ค่ะ

ทั้ง หมด นี้ นะ คะ เกิด มา จาก งาน โครง การ ใหม่ ที่ บริษัท ได้ รับ ก็ คือ โครง การ ไวเด้น บายสิริ ที่ เริ่ม รับ รู้ ราย ได้ เมื่อ เดือน สิงหาคม และ กันยายน ที่ ผ่าน มา ทํา ให้ มี ราย ได้ และ กําไร เพิ่ม ขึ้น ซึ่ง เป็น ไป ตาม คาด หมาย ของ ทีม ผู้ บริหาร ที่ ได้ ให้ ข้อ มูล ไว้ ใน ไตรมาส 2 ที่ ผ่าน มา ค่ะ ต่อ ไป ก็ จะ เป็น งบ กําไร ขาด ทุน รวม 9 เดือน ของ ปี 2568 เทียบ กับ 9 เดือน ของ ปี 2567 นะ คะ โดย ราย ได้ จาก งาน ก่อสร้าง เท่า กับ 1,137 ล้าน บาท ราย ได้ รวม เท่า กับ 1,214 ล้าน บาท ค่ะ มี ยอด ลด ลง 278 ล้าน บาท หรือ ลด ลง 18% ค่ะ บริษัท มี กําไร ขั้น ต้น เท่า กับ 104 ล้าน บาท กําไร สุทธิ เท่า กับ 53 ล้าน บาท คิด เป็น อัตรา กําไร ขั้น ต้น ที่ 9% และ อัตรา กําไร สุทธิ อยู่ ที่ 4% ซึ่ง จะ เห็น ว่า กําไร ขั้น ต้น ลด ลง เท่า กับ 137 ล้าน บาท และ กําไร สุทธิ ลด ลง 53 ล้าน บาท หรือ ลด ลง คิด เป็น 57% และ 50% นะ คะ ถ้า เทียบ กับ ช่วง 9 เดือน ของ ปี 2567 ค่ะ ซึ่ง การ ลด ลง ของ ราย ได้ จาก การ รับ เหมา ก่อสร้าง และ กําไร สุทธิ นั้น นะ คะ มา จาก ปี 68 นี้ ใน ช่วง ครึ่ง ปี แรก บริษัท ได้ มี การ ส่ง มอบ โครง การ ที่ แล้ว เสร็จ ไป แล้ว จํานวน 2 โครง การ ได้ แก่ New Connect ดอนเมือง และ up พ บางนา นะ คะ และ อีก ทั้ง ใน ไตรมาส ที่ 3 นี้ นะ คะ ได้ มี การ ส่ง มอบ ไป อีก 1 โครง การ คือ โครง การ ไอโอ รามคําแหง ลํา สาลี สเตชั่น ประกอบ กับ งาน โครง การ ใหม่ ๆ นะ คะ ไม่ ว่า จะ เป็น โครง การ เด้น บาย แสนสิริ โครง การ SKV 51 โครง การ Reference เอกมัย และ โครง การ โรง เรียน นานา ชาติ เฟ อเมริกัน สคูล นะ คะ ซึ่ง อยู่ ใน ช่วง เริ่ม ต้น ของ การ รับ รู้ ราย ได้ ตาม ความ คืบ หน้า ของ โปรเกส งาน จึง ส่ง ผล ต่อ ราย ได้ และ กําไร ตาม ที่ ได้ กล่าว มา แล้ว เมื่อ สัก ครู่ ค่ะ

ใน ส่วน นี้ จะ เป็น กราฟ แสดง ข้อ มูล ของ ไตรมาส ที่ 3 ปี 68 เทียบ กับ ไตรมาส ที่ 3 ปี 67 นะ คะ จะ เห็น ได้ ว่า อัตรา กําไร ขั้น ต้น สูง ขึ้น 3.88 และ กําไร อัตรา กําไร สุทธิ นะ คะ สูง ขึ้น 2.25 ค่ะ เมื่อ เทียบ กับ ปี 67 นะ คะ กราฟ นี้ จะ เป็น เปรียบ เทียบ สะสม 9 เดือน ของ ปี 68 เปรียบ เทียบ กับ ปี 67 ค่ะ ซึ่ง จะ เห็น ว่า อัตรา กําไร ขั้น ต้น ลด ลง 7.45% และ อัตรา กําไร สุทธิ ลด ลง 2.77% นะ คะ แต่ ตาม ที่ ได้ กล่าว มา แล้ว นะ คะ การ ลด ลง ของ อัตรา กําไร ขั้น ต้น และ อัตรา กําไร สุทธิ เกิด มา จาก ตาม ที่ ได้ แจ้ง มา ก็ คือ บริษัท มี การ ส่ง มอบ งาน ไป แล้ว ทั้ง หมด 3 โครง การ ใน 3 ไตรมาส นี้ นะ คะ ซึ่ง การ รับ รู้ ราย ได้ ใน ช่วง ท้าย ๆ ของ โครง การ ก่อน จะ ส่ง มอบ มัน จะ ลด ลง ตาม โปรเกส งาน ที่ เรา ได้ ทํา เสร็จ เรียบ ร้อย ซึ่ง เป็น ไป ตาม ปกติ ธุรกิจ ของ ธุรกิจ รับ เหมา ก่อสร้าง ค่ะ

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

ต่อไป จะ เป็น ใน ส่วน ของ backlog นะ คะ จะ เห็น ได้ ว่า ณ 30 กันยายน 2568 มี มูลค่า อยู่ ที่ 2,988 ล้าน บาท มา จาก โครง การ เดิม ที่ มี อยู่ แล้ว นะ คะ จํานวน 5 โครง การ เท่า กับ 1,699 ล้าน บาท ประกอบ ด้วย โครง การ ราชเทวี 500 590 ล้าน บาท โครง การ Reference เอกมัย 417 ล้าน บาท โครง การ The Panorama 233 ล้าน บาท โครง การ The Standard Resident หัวหิน 299 ล้าน บาท และ โครง การ เวียร์ สุขุมวิท 61 160 ล้าน บาท ค่ะ และ มา จาก backlog ใหม่ ที่ เพิ่ม ขึ้น อีก 3 โครง การ เท่า กับ 1,288 ล้าน บาท ประกอบ ด้วย โครง การ SKV 51 326 ล้าน บาท โครง การ โรง เรียน นานา ชาติ เฟ อเมริกัน สคูล 276 ล้าน บาท และ โครง การ ไวเด บาย แสนสิริ อีก 700 ล้าน บาท ซึ่ง ถือ ว่า เป็น การ เพิ่ม ความ แข็ง แกร่ง ใน ด้าน ราย ได้ และ การ ประกอบ ธุรกิจ ธุรกิจ ของ บริษัท อย่าง ต่อ เนื่อง ค่ะ

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ต่อไป จะ เป็น ใน หัว ข้อ ที่ 4 นะ คะ จะ พูด ถึง Business Plan หรือ แผน ธุรกิจ ของ ปี 68 และ ใน ไตรมาส 4 ค่ะ ซึ่ง บริษัท คาด ว่า ใน ไตรมาส ที่ 4 นี้ นะ คะ บริษัท มี แนว โน้ม จะ มี การ ปรับ ตัว ที่ ดี ขึ้น จะ เห็น ได้ จาก ว่า บริษัท ยัง คง ได้ รับ ความ ไว้ วางใจ จาก Development ชั้น นํา ให้ มี ส่วน เข้า ไป ร่วม ทํา งาน ด้วย อย่าง ต่อ เนื่อง เสมอ มา โดย บริษัท ของ เรา นะ คะ จะ มุ่ง เน้น กลยุทธ์ ของ คุณภาพ งาน ที่ ดี ที่ สุด และ การ ส่ง มอบ งาน ที่ ตรง ต่อ เวลา เพื่อ สร้าง ความ พึง พอ ใจ ที่ สูง สุด สําหรับ ลูก ค้า อีก ทั้ง บริษัท ยัง ขยาย กลุ่ม ลูก ค้า ออก ไป ไม่ ว่า จะ เป็น กลุ่ม โรง งาน อุตสาหกรรม กลุ่ม ธุรกิจ โรง แรม หรือ กลุ่ม โรง พยาบาล เพื่อ เพิ่ม ช่อง ทาง ใหม่ ๆ ให้ กับ บริษัท และ บริษัท ยัง คง รักษา อัตรา กําไร ขั้น ต้น ไม่ ให้ ต่ํา กว่า 10% หรือ ไม่ ต่ํา กว่า 5% ค่ะ

บริษัท ยัง ให้ ความ สําคัญ กับ การ บริหาร จัด การ ต้น ทุน อย่าง มี ประสิทธิภาพ ควบ คุม ค่า ใช้ จ่าย ให้ อยู่ ใน งบ ประมาณ ที่ วาง ไว้ รวม ถึง บริษัท ให้ ความ สําคัญ ใน การ สร้าง และ พัฒนา คน ระบบ และ เทคโนโลยี ตลอด จน งาน บริการ ทุก ด้าน ให้ มี ประสิทธิภาพ มี นวัตกรรม เพื่อ สร้าง ความ มั่น ใจ และ ที่ สําคัญ คือ การ มี สภาพ คล่อง ที่ แข็ง แกร่ง อย่าง ต่อ เนื่อง ซึ่ง จะ เห็น ได้ จาก ที่ บริษัท ไม่ มี ดอก เบี้ย ที่ จะ ต้อง จ่าย ชําระ ให้ กับ สถา สถาบัน การ เงิน ใด ๆ เลย จาก ที่ ผ่าน มา นะ คะ และ ปัจจุบัน บริษัท ยัง มี งาน ก่อสร้าง ที่ อยู่ ระหว่าง รอ ผล การ ประมูล อีก จํานวน หนึ่ง เพื่อ เป็น การ ช่วย สนับสนุน ราย ได้ และ ผล กําไร ของ บริษัท ให้ มี ความ เติบ โต อย่าง ต่อ เนื่อง ต่อ ไป ใน อนาคต ค่ะ และ ใน ปี นี้ นะ คะ บริษัท ของ เรา ได้ รับ การ ประเมิน การ กํากับ ดู แล กิจการ บริษัท จด ทะเบียน ประจํา ปี 2568 หรือ ที่ เรียก อีก อย่าง ว่า CGR อยู่ ใน ระดับ 5 ดาว หรือ ดี เลิศ นะ คะ จาก สมาคม ส่ง เสริม สถาบัน กรรมการ บริษัท ไทย โดย การ สนับสนุน จาก ตลาด หลัก ทรัพย์ แห่ง ประเทศ ไทย และ สํานัก งาน คณะ กรรมการ กํากับ หลัก ทรัพย์ และ ตลาด หลัก ทรัพย์ ค่ะ

ส่วน ใน ด้าน ของ ESG ที่ บริษัท กําลัง จัด ทํา อยู่ นะ คะ บริษัท มี แผน ใน การ ขับ เคลื่อน เพื่อ ความ ยั่ง ยืน อยู่ 4 ส่วน ด้วย กัน ค่ะ คือ 1 ให้ ความ รู้ กับ พนักงาน ทุก คน ใน องค์ กร เพื่อ สร้าง การ ตระหนัก รู้ อย่าง ยั่ง ยืน 2 สร้าง กลไก ของ การ ขับ เคลื่อน โดย จัด ตั้ง คณะ กรรมการ และ ติด ตาม ผล เป็น ประจํา อย่าง ต่อ เนื่อง 3 จัด ทํา แผน งาน และ ส่ง ต่อ ไป ยัง ผู้ มี ส่วน ได้ เสีย เพื่อ ให้ การ ดําเนิน งาน บรรลุ ตาม เป้า หมาย ที่ กําหนด และ 4 จัด ทํา แผน กลยุทธ์ ให้ สอด คล้อง กับ หลัก การ ของ ความ ยั่ง ยืน โดย ทั้ง 4 ส่วน ที่ กล่าว มา นั้น นะ คะ จะ ทํา ให้ เกิด กิจกรรม ของ บริษัท แบ่ง ออก เป็น 3 กิจกรรม ดัง นี้ ค่ะ 1 กิจกรรม ด้าน สิ่ง แวด ล้อม ซึ่ง บริษัท จัด ให้ มี ถัง บําบัด น้ํา เสีย ก่อน ปล่อย น้ํา สู่ ธรรมชาติ จัด ให้ มี น้ํา สะอาด ที่ เพียง พอ ต่อ การ อุปโภค และ บริโภค จัด ให้ มี ห้อง น้ํา ที่ ถูก สุขลักษณะ การ นํา ของ เสีย น่ะ กลับ มา ใช้ ใหม่ และ เปลี่ยน ไป ใช้ หลอด ไฟ LED เพื่อ เป็น การ ประหยัด พลัง งาน และ เปลี่ยน รถ ไฟ ฟ้า แป๊ะ เปลี่ยน การ ใช้ รถ น้ํา มัน มา เป็น รถ ไฟ ฟ้า แทน นะ คะ และ กิจกรรม ที่ 2 นะ คะ คือ กิจกรรม ด้าน สังคม และ ชุม ชน บริษัท ได้ มี การ จัด อบ รม ความ รู้ การ ใช้ เครื่อง มือ งาน ก่อสร้าง การ ปฏิบัติ ตน เมื่อ อยู่ ใน พื้น ที่ ที่ มี งาน ก่อสร้าง เพื่อ ช่วย ลด อุบัติเหตุ บริจาค ห้อง สมุด ชุม ชน ให้ กับ นัก เรียน ที่ ด้อย โอกาส และ อยู่ ใน พื้น ที่ ที่ ห่าง ไกล และ กิจกรรม สุด ท้าย นะ คะ กิจกรรม ที่ 3 คือ กิจกรรม ด้าน การ กํากับ ดู แล โดย บริษัท จัด ให้ มี การ ซัก ซ้อม แผน ความ ต่อ เนื่อง ทาง ธุรกิจ และ มี โครง สร้าง พื้น ฐาน ไว้ สําหรับ รอง รับ การ เปลี่ยน แปลง หรือ ส่ง เสริม ธุรกิจ ของ บริษัท อย่าง ต่อ เนื่อง มี การ จัด ประกวด นวัตกรรม พนักงาน ใน ทุก ๆ ปี และ สร้าง การ ตระหนัก รู้ ให้ กับ พนักงาน ใน ส่วน ของ การ ต่อ ต้าน คอร์รัปชั่น ทุก ประเภท นะ คะ

และจากข้อมูลที่ได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น จะเห็นได้ว่าจากผลประกอบการหรือผลการดำเนินงานของบริษัทที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่องอันเกิดมาจากบริษัทมีการควบคุมต้นทุน อาทิเช่น ทบทวนงบประมาณโครงการที่กำลังดำเนินงานอยู่ในทุกๆเดือน ไม่ว่าจะเป็นราคาของวัสดุหรือการใช้แรงงานให้เป็นปัจจุบัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดต้นทุนบานปลาย การลดของเสียที่หน้างาน การติดตามบริหารการจ่ายชำระของลูกหนี้และการวางแผนการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามกระแสเงินสดของบริษัท รวมถึงบริษัทก็ได้มีการขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ สถานการศึกษา หรือกลุ่มลูกค้าอื่นๆ เพื่อเพิ่มการเติบโตของรายได้และที่สำคัญคือบริษัทมีสภาพคล่องและมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินซึ่งจะเห็นได้จากมูลค่าเงินสดและสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่นที่มีอยู่กว่า 769 ล้านบาท นะคะ ซึ่งจากทั้งหมดที่พูดมาในวันนี้นะคะเพื่อให้ท่านผู้ถือหุ้นและท่านนักลงทุนทุกๆท่านมีความเชื่อมั่นกับบริษัท ที.เค.เอส. คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเติบโตไปพร้อมๆกันค่ะ

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 39:45]

คำถามแรก: ตอนนี้สถานการณ์แข่งขันการประมูลเป็นอย่างไรบ้าง คาดการณ์ GP จากนี้จนถึงปีหน้าจะอยู่ในประมาณกี่เปอร์เซ็นต์คะ

คำตอบ: ตอนนี้นะคะด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงแล้วก็รุนแรงโดยเฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปัจจุบันนะคะ ซึ่งปัจจุบันโครงการที่เราประมูลอยู่ก็มีอยู่หลายงานซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการประมูลส่วน GP แล้วก็แผนธุรกิจที่เราวางไว้คือบริษัทยังคงที่จะรักษา GP ให้อยู่ในระดับที่ที่ค่อนข้างค่อนข้างสูงก็คือ 5% ถึง 10% ค่ะ

คำถามต่อไป: แรงงานกัมพูชาหายมีผลต่อต้นทุนแรงงานของเราเยอะไหมคะ

คำตอบ: แรงงานกัมพูชาที่หายไปนะคะก็จะมีผลกระทบกับบริษัทบ้างแต่ไม่ได้กระทบถึงขั้นวิกฤตหรือรุนแรงมากนักนะคะเพราะเนื่องจากบริษัทนะคะมีการเพิ่มทักษะและให้ความรู้กับแรงงานที่มีอยู่แล้วเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถทำให้ทำงานได้หลากหลายแล้วก็ชดเชยแรงงานที่ขาดไปในบางช่วงที่ขาดแคลนค่ะแล้วก็อีกอย่างนึงก็คือบริษัทมีการจ้างแรงงานทดแทนไม่ว่าไม่ว่าจะเป็นแรงงานพม่าหรือแรงงานอื่นๆที่สามารถทดแทนได้ค่ะ

คำถามสุดท้าย: มุมมองของบริษัทจะเติบโตไปในทิศทางไหนจากนี้ คาดว่าน่าจะโตได้ปีละกี่ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ

คำตอบ: บริษัทก็จะมีการวางแผนการเติบโตนะคะด้วยการขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มสถานการศึกษา โรงแรมหรือโรงงานอุตสาหกรรมระดับพรีเมี่ยม นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดิมที่มีอยู่แล้วนะคะ แล้วก็เพิ่มงานในกลุ่มเทิร์นคีย์เพื่อผลักดันรายได้และกำไรเพื่อขยายมูลค่างานและบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า 10% ต่อปีค่ะ

ตอนนี้ตอบคำถามครบถ้วนแล้วค่ะ จากๆที่ได้พูด Opportunity Day ของวันนี้นะคะ ก็ขอจบการให้ข้อมูลแต่เพียงเท่านี้ค่ะ

โดยสรุปแล้ว TEKA ประสบความสำเร็จในการสร้างกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การขยายฐานลูกค้า และการบริหารจัดการสภาพคล่องที่ดี นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยี รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตของบริษัทในระยะยาว