TCMC
บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

TCMC Oppday Q3/2568: จุดเปลี่ยนท่ามกลางความท้าทาย

สวัสดีค่ะ ดิฉันปรียาพร พรรณเชษฐ์ CEO ของบริษัท TCMC Corporation จำกัด และดิฉันน้องภาภร อภิวัฒนกูล กรรมการบริหารด้านการเงิน กราบขอต้อนรับนักลงทุนทุกท่านเข้าสู่งาน Opportunity Day ไตรมาส 3 ปี 2568 ของบริษัท TCMC Corporation จำกัด

เรามาดูผลประกอบการในไตรมาสนี้ ซึ่งต้องเรียนว่าเป็นไตรมาสที่เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับเราทีเดียว ถ้าจากสีของ Operation ทั้ง 3 อัน จะเห็นได้ว่าตัว Surface, ตัว Automotive เนี่ย perform กันได้ดี ต่อให้บาทค่อนข้างแข็งมาก Surface เองก็ปรับตัว คุมทางด้านรายได้ รายได้ก็โอเคเลย แล้วก็คุมด้านค่าใช้จ่ายให้เป็นไปใน Line ด้วยกัน ก็ Maintain ความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องมา ส่วน Automotive เอง ไตรมาสนี้ก็ perform ดีขึ้นจากเวลาเดียวกันของปีก่อน ค่อนข้างดีขึ้นมา 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ แล้วก็ไปด้วยกันทั้งกำไรทั้งรายได้

อันที่จะเป็นประเด็นทีเดียวก็คือ เป็นประเด็นที่สำคัญก็คือ TCMLiving สิ่งที่ Surface กับ Automotive ดีขึ้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะไปชดเชยกับสิ่งที่ TCMLiving ต้องเจอ Industry เนี่ยยังไหลลงอย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดที่เราคิดว่าต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง เพื่อจะต้องปกป้องผู้ถือหุ้นของ TCMC เองด้วย เราก็ตัดสินใจปิดโรงงานนึง ซึ่งก็แปลว่า 2 แบรนด์ Ashley Manor กับ Alexander & James ก็เข้าไปใน Process ของ Pre-Pack ด้วย ซึ่งอันนี้ก็จะกระทบเข้ามาที่งบ เคยเรียนในไตรมาสที่แล้วแล้วว่าสิ่งนี้จะมีความกระทบต่องบ แต่หนนี้จะเห็นภาพเต็มๆ ก็ทำให้ภาพรวมของ TCMC ทั้งหมดในไตรมาสนี้ เป็นผลประกอบการที่มีทั้งดีและไม่ดีรวมกัน แต่ภาพรวมที่เป็น Non-Cash ของการปิดกิจการของ TCMLiving บางส่วน จะทำให้มีผลกระทบกับตัว Performance ค่อนข้างจะเยอะ

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
    • ผลกระทบเชิงบวก: Surface และ Automotive ยังคงทำผลงานได้ดี แม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่า
    • ผลกระทบเชิงลบ: TCMLiving ประสบปัญหาอุตสาหกรรมซบเซา ทำให้ต้องตัดสินใจปิดโรงงาน
    • ตัวเลขทางการเงิน: ยอดขายลดลงประมาณ 20%, Gross Profit และ EBITDA ลดลงเล็กน้อย, Net Profit ลดลงมากเนื่องจากการตัด Goodwill และ Investment จากอังกฤษ (Non-Cash)

ภาพผลประกอบการ ไตรมาส 3 ก็จะเห็นได้ว่าตัว Sales ลดลงประมาณใกล้ๆ 20% ขณะที่ Gross Profit เองก็ไหลลงเล็กน้อย EBITDA เช่นเดียวกัน ไหลลงเล็กน้อย แต่ตัว Net Profit ที่ลงไปเยอะมากถึง 600 กว่า เกิดจากการตัด Goodwill ตัด Investment ที่เกิดจากที่อังกฤษ เป็น Non-Cash แต่ก็กระทบกับตัว Equity Part ถ้าเกิดดูงบ 9 เดือน จะเห็นได้ว่าถ้าดู 9 เดือน ยอดขายเองก็ไหลลงเล็กน้อย ส่วนมากก็เกิดจากอังกฤษ แต่ Gross Profit ก็มีการบริหารจัดการ ก็แสดงว่าสิ่งที่เราทำในการควบคุมต้นทุนก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ทำให้ Gap ของตัว Gross Profit น้อยลง และ EBITDA เองยังเพิ่มขึ้นด้วยใน 9 เดือน จาก 127 ล้าน ขึ้นมาที่ 205 แต่ขณะเดียวกันตอนนี้ก็คือเมื่อมีผลจากตัว Investment ที่เป็น Non-Cash ทั้งหมด ก็ยังดึงภาพรวมทั้งหมดให้ 9 เดือนลงไปค่อนข้างเยอะ

อันนี้ภาพให้เห็นระยะยาว เทียบจากก่อนโควิดมาเลยจากปี 2562 จะเห็นได้ว่ายอดรายได้ไหลลงมาต่ำกว่าช่วงนั้นอีก ก็อันนี้จะ เดี๋ยวจะมีเรื่องเล่าภาพฉายภาพทั้งหมดให้ฟังอีกทีนึง จะได้เห็นภาพว่าทำไมมันไหลมาขนาดนี้ แล้วก็ผลของ Impairment เองก็ทำให้เกิดตัวที่เป็น Goodwill Impairment ประมาณ 614 ล้าน ดึงตัว Performance ลงมา ตัว Performance เองก็จะลบนิดหน่อยใกล้เคียงกับจริงๆ Same Quarter Last Year แต่ว่าตัว Non-Cash Amortization Goodwill Provision ทั้งหลายแหล่ก็ทำให้ตัวนี้ลงมา เดี๋ยวจะมีรายละเอียดทีหลัง

อันนี้ภาพให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของรายได้และการเปลี่ยนแปลงของกำไรมาจากส่วนไหนบ้าง จะเห็นได้ชัดว่าตัวหลักๆ ที่ Contribute สิ่งนี้คือ TCMLiving แล้วก็ตัวกำไรเองเช่นเดียวกัน TCMLiving Contribute เยอะมาก ส่วนที่ดีขึ้นส่วนอื่นๆ เป็นขนาดคนละขนาดกัน ก็ทำให้ชดเชยกันไม่ได้

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
    • (ต่อ) งบ 9 เดือน: ยอดขายลดลงเล็กน้อย, Gross Profit ลดลงไม่มากเนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่ดี, EBITDA เพิ่มขึ้น, แต่ Net Profit ลดลงจากผลกระทบของ Investment ที่เป็น Non-Cash
    • เปรียบเทียบระยะยาว: รายได้ลดลงต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด, Goodwill Impairment ดึง Performance ลง

อันนี้ก็แสดงถึง Ratio ของสถานะการเงินของภาพรวมของบริษัท ถึงแม้เราจะมีการปิดบริษัทในส่วนของ UK แต่สถานะการเงินของเราในเรื่องของสภาพคล่องก็ยังยังดีอยู่ ยังไม่ขัดสนเนื่องจากยังมี Segment ของ Surface กับของ Automotive ที่ยังยังประคองตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ว่าในส่วนของ Ratio เนี่ย เราค่อนข้างสูงแต่ว่าไม่ได้เป็นกระทบกับภาพรวมของบริษัทเนื่องจากเราอยู่ในช่วงระยะเวลาที่เจรจา กับธนาคารเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และบริษัทก็จะจัดการให้เหมาะสมที่สุดที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปได้

  1. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
    • อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูง แต่บริษัทกำลังเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร

ทีนี้อยากจะขอฉายภาพเต็มๆ นะคะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพื่อเราจะได้เห็น ทางด้านนักลงทุนจะได้เห็นภาพชัดเจน ก็ของอันนี้ก็คือมีการปิด Ashley Manor กับ Alexander James ในคราวนี้ จะเห็นได้ว่านี่คือแบรนด์ดั้งเดิม ซึ่ง AM Exit ไปก่อนแล้ว เดี๋ยวจะอยู่ในภาพนี้ด้วย แล้วคราวนี้ก็คือ Ashley Manor, Alexander & James ในคราวนี้ แล้วก็ The Austin อยู่ ก็กับโรงงานที่อังกฤษของ Austin อันนี้คือภาพจากการที่เราเข้าไปลงทุนที่ จริงๆ ตอนนั้นคือลงทุนใน DM Midland ในปี 2559 ซึ่งเราเข้าไปลงทุนตอนที่เริ่มมีการโหวตที่จะออกจาก Brexit แต่ยังไม่ได้ออกนะคะ อันนี้ โดยการที่เค้าก็ เราใช้วิธี Leverage Buyout นะคะ จากนั้นเนี่ยมันก็เป็นช่วงเติบโตของธุรกิจ ยอด แล้วก็เริ่มตั้ง Establish แบรนด์ Alexander James ทั้งในเมืองไทยและก็ตลาด Export ทั่วโลก จากนั้นเนี่ย MU เองก็ MU คือ Ashley Manor ก็คือมีการขยาย ในปี 2561 ก็มีการไปซื้อ Woodmill เพิ่มขึ้นสำหรับการขยาย แล้วก็มีเปิดร้าน AJ ที่เมืองไทยด้วยความตั้งใจว่าจะให้ Investor ให้ให้ลูกค้าเนี่ยแทนที่จะต้องรอไป Trade Show ปีละ 2 ครั้งเนี่ย สามารถจะบินมาเมืองไทย แล้วก็มาดูได้ Anytime นะคะ แล้วก็มาเที่ยวเมืองไทยด้วย ซึ่งด้วยการเติบโตก็ดูดี ในปี 2562 เราก็มีการเตรียมตัวเข้าตลาดเพื่อหา วิธี Exit จากตรงนี้ จากนั้นเนี่ยก็เริ่มเข้ามาในโควิดแล้ว ในการ ซึ่งเราก็ยังที่ที่อังกฤษเนี่ยพอเมื่อช่วงที่เกิดโควิดก็คือช่วงแรกๆ มีการล็อกดาวน์ปิดเปิดอะไรอย่างเงี้ยค่ะ ก็ก็จะเริ่มมีมีการชะลออยู่บ้าง แต่คนอังกฤษเนี่ยเวลาอยู่บ้านเนี่ย เขายังได้รายได้มากกว่าที่รัฐบาลไทย ซับซิไดซ์กลุ่มล่าง ของอังกฤษเนี่ย ซับซิไดซ์ถึงระดับ Director เพราะคนมีรายได้อยู่ ที่บ้าน ไม่ได้ท่องเที่ยวไม่ได้ ก็ซื้อเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างเยอะมากก็จะเห็นว่าตามมาด้วยออเดอร์ค่อนข้างจะตามเข้ามา แต่ความที่ระบบ Logistic ทั้งหมดในโลก ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนเนอร์ขาดแคลน พอร์ตปิดอะไรก็แล้วแต่มันสะดุดมาก การซื้อเฟอร์นิเจอร์ช่วงนั้นน่ะรอกันประมาณครึ่งปีปีหรือกว่าครึ่งปีด้วยซ้ำกว่าจะได้รับการส่ง ดังนั้นเนี่ยออเดอร์มันก็จะเข้ามาแน่นอยู่ในช่วง 2563-2564 เต็มไปหมด แต่ต้นทุนทั้งหมดในการในการ Operate สูงขึ้น อย่าง อย่างมีนัยยะสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่งซึ่งตอนแรกๆ เนี่ย 2,000 ต่อคอนเทนเนอร์ขึ้นไปเป็น 20,000 นะคะยังไม่นับว่าความขาดแคลนในสิ่งต่างๆคนงาน อะไรก็แล้วแต่นะคะมากมายซึ่งทำให้หรือว่าเจ้าที่เราเคยสั่ง จากประเทศนี้ให้ส่งไปไม่มีคอนเทนเนอร์ส่งไม่ได้ต้องไปหาเจ้าที่แพงมาส่ง มันก็ทำให้ตัวกำไรไม่ได้เป็นทิศทางเดียวกัน แต่โอเคถึงนั้นก็ ก็คือเราก็ยังเดินหน้าในการพยายามจะโอเคทำ IPO มีการ Restructure เอาดีลแรกก็คืออสตันกับดีลของ DM Midland รวมกันเข้ามาใต้ ร่มเดียวกันคือ TCML นะคะจากนั้นก็มีการเพิ่มมีการไปซื้อโรงงาน J28 แล้วก็มีการ Create Brand ขึ้นมานะคะไปซื้อเข้าไปซื้อมาจากพรีแพ็ค ซึ่งซื้อถูกทั้งคู่เลยนะคะแล้วก็ ก็มีการเตรียมตัวเข้าตลาด Build Volume ขึ้นนะคะ

ต่อมาในปี 2565 เนี่ย เราก็เริ่มแบบ เข้ามาดูเรื่องของการทำ คิดว่า Aloja กับตัว J28 อาจจะไม่ใช่แล้ว เพราะเราเริ่มมี Signal บางอย่าง เราก็ Trim โดยการที่หยุดตรงนั้นไป แล้วก็มีการทำเตรียมตัวเข้าตลาดต่อนะคะ IFA ก็เข้ามาดูแล ขณะเดียวกันน่ะ ขณะนั้นน่ะในธุรกิจทั่วๆ ไปเนี่ย ก็จะเป็นช่วงที่เริ่มจากว่า หลัง คือหลังจากโควิดนิดนึง สิ่งที่เกิดขึ้นของฝั่งอังกฤษเนี่ยก็คือ นอก จากว่า เกิด Inflation ขึ้นไปถึงประมาณ 11% นะคะ ซึ่งดอกเบี้ยก็วิ่งตามด้วย 11% ด้วยนะคะ จากนั้นเนี่ยก็มีสงครามรัสเซีย ยูเครน สิ่งที่เกิดขึ้นคืออังกฤษเนี่ยได้รับ พลังงานถูกๆ จากรัสเซียมาตลอด พอเกิดเข้าสงครามปั๊บรัสเซียหยุดขายให้ พลังงานของอังกฤษเนี่ยขึ้นไป 10 เท่า นะคะ คอร์สทั้งหมดขึ้นหมดคอร์ส Living ชำระบ้านเนี่ยเคยจ่ายค่าไฟเท่าไหร่เนี่ยเมื่อก่อนจ่ายอยู่ 300 กลายเป็นจ่าย 3,000 อย่างเงี้ยค่ะ ดังนั้นเนี่ยเค้าก็ซัฟเฟอร์มาก ค่าแรงขึ้นด้วย รัฐบาลประกาศขึ้นค่าแรง นะคะทุกอย่างก็คือคอร์สทุกอย่างขึ้นไปด้วยกัน นะคะ ทีนี้เราก็รู้เราเอ่อดูๆ ดูบรรยากาศดูค่อนข้างจะตึงเครียดนิดนึง นะคะแล้วช่วงนั้นเราก็มีการปรับ Leadership ว่าเห้ยเราเอามาเน้นเซลล์ดีกว่าเพราะรู้ว่าเรื่องการขายเนี่ยจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น นะคะแล้วเราก็มี Operation Restructure บางอย่างให้กระชับมากขึ้นเพื่อให้รับสิ่งนี้นะคะจากนั้นนะถ้าเห็นจากยอดขายข้างล่างเนี่ยกราฟที่เป็นเส้นจะเห็นได้ว่ามันเป็นของ Ashley Manor กับของ Alexander James จะเห็นว่ามันจะเริ่มมีการแบบสไลด์เล็กน้อยนะคะเอิ่มแล้วจากนั้นเนี่ยก็เริ่มเข้ามาที่ Landscape มาดูที่ Landscape ของ Industry นะคะพอดอกเบี้ยขึ้นสูงเนี่ยลูกค้าของลูกค้าของเราเนี่ยจะมี 2 กลุ่ม กลุ่มนึงคือ Group Group เนี่ยคือร้านที่มีเป็น 100 ล้านเลยทั่วอังกฤษนะคะร้านใหญ่ๆ เป็น Chain กับ Independent Independent คือเป็นร้านย่อยๆ นะคะร้านร้านย่อยๆ เนี่ยจะขายคนที่ ไปขายของของแพงขึ้นนิดนึง ขายให้กลุ่มคนที่มีฐานะนิดนึงไม่ต้อง ไม่ต้อง Financing กลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มซึ่งได้รับผลกระทบน้อยจากการที่ดอกเบี้ยขึ้นขนาดนี้ แต่กลุ่มที่เป็น Group เนี่ย ที่อังกฤษเค้าซื้อเฟอร์นิเจอร์ด้วยเงินผ่อน ดังนั้นเนี่ยเชนเราเนี่ย ปกติได้รายได้จากการที่ปล่อยเงินกู้ เหมือนกับปล่อย ปล่อยเงินผ่อนให้อ่ะนะคะ ซื้อซื้อเฟอร์นิเจอร์ 2,000 ปอนด์ ผ่อนเดือนละ 30 ปอนด์ไป 4 ปีอย่างเงี้ยค่ะ ดังนั้นเนี่ยพอดอกเบี้ยขึ้นจาก 0.5 เป็น 5.5% ขึ้นแรงมากเมืองไทยก็ไม่ได้ขึ้นเยอะขนาดนี้ กลุ่มนี้ก็จะเริ่มมีการดิ้นรนแล้วจะต้องหาวิธีที่ทำยังไงให้ฉันจะต้องอยู่รอดได้ นะคะก็เป็น จุดชนวนของการที่เริ่มเปลี่ยน Landscape ของ Supply Chain ของเค้านะคะเริ่มจากกลุ่มที่เป็นกรุ๊ปใหญ่ๆ ก็เริ่มมาตั้งแต่หนึ่งบางคนก็ไม่ไหวเริ่มเปลี่ยนเจ้าของนะคะบางคนก็ใช้วิธีว่าฉันขอสั่งตรงที่ที่นู่นเลยเมื่อก่อนเคยซื้อผ่านเราบอก เอ่อใช้ Expertise เราในการ Sourcing ของบอกไม่ได้ละถึงวันเวลานี้ฉันตาจนละฉันต้องไปหาซื้อตรงนะคะก็เลยทำให้เราต้องแบบ AM เนี่ยก็จะเจอปัญหานี้นะคะก็เลยทำให้สุดท้ายเนี่ย AM ซึ่งเคย Sourcing ของจากเอเชียเนี่ยส่งมาให้เค้าเนี่ยก็ก็ก็ก็มีปัญหาแล้วนะคะก็คือทำให้สุดท้ายต้องมาที่เราต้องปิด AM ไปนะคะแล้วก็บางเจ้าก็คือดึงออเดอร์จากโรงงานทั่วไปเนี่ยเอาเข้าโรงงานตัวเอง อันนี้ก็จะมี 2-3 Chain ใหญ่ๆ ที่มีโรงงานตัวเองก็ดึงออเดอร์ทั้งหมดเข้าโรงงานตัวเองให้เต็มนะคะเพื่อเอากำไรจากโรงงานชดเชยรายได้ที่ขาดไปนะคะเอ่อออเดอร์ก็ไหลลงอยู่ในในใน ทุกๆ คนน่ะนะคะถ้าเจ้าที่ส่งให้กรุ๊ปเนี่ยก็จะไหลแรงนะคะแล้วก็เป็นมากกว่าคนอื่นนะคะซึ่งอันเนี้ยก็กระทบทุกคนเอ่อเดี๋ยวจะก็จะมีสไลด์ให้ดูเพราะว่าอย่างเราเนี่ยอย่างลูกค้าบางบางที่ที่กระทบกับ AM เอง ก็ซื้อจากเจ้าอย่าง Lazy Boy เค้าบอกกระทบเช่นเดียวกันกำไร โรงงานเหมือนกันนะคะ เราก็ทำทันทีก็คือทำ Profit Improvement Plan ทำตั้งแต่ปีเอ่อต้นปี 2567 ทำมาทั้งหมดประมาณ 8 แผนที่เรียนว่ามันทำ ให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้ประมาณเอิ่ม 8 ล้านกว่าๆนะคะเอ่อ 9 ล้าน 9 ล้านกว่านะคะแล้วก็แต่ขณะเดียวกันเนี่ยการที่ลดสิ่งเหล่านั้นน่ะเป็นที่ถูกต้อง แต่ว่าการไหลลงของเศรษฐกิจเนี่ยยิ่งแรงเอ่อก็ยังเหลือแรงมากนะคะจนไม่สามารถจะชดเชยได้ นะคะก็ต้องเรียนว่าในปี 2568 เองเนี่ยก็ยังไหลอยู่นะคะแล้วก็เอ่อลูกค้าเองคือเศรษฐกิจโลกเป็นแบบนี้เขาก็ยิ่งขาดความมั่นใจนะดังนั้นเนี่ยเขาก็จะแล้วเขาก็เพิ่งซื้อเฟอร์นิเจอร์กันหนักๆไปช่วงโควิดเนี่ยดังนั้นน่ะสิ่งเหล่า นี้คือเขาก็จะฟรีซหมดนะคะก็ทำให้ยอดการขายก็แย่จนเราบอกว่าถึงจุดนึงเราอาจจะต้องดูแล้วว่าในกลุ่มเราตัวไหนที่ลูกค้าเป็นกลุ่มเยอะจะได้รับผลกระทบเยอะเนี่ยเราอาจจะต้องหาวิธีปกป้องส่วนที่เหลือเพื่ออันนี้คือปกป้องผลประโยชน์ กับผู้ถือหุ้นด้วยนะคะที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เราก็เลยตัดสินใจเอา A กับ AJ เนี่ยเข้าในแพคนะคะในปีนี้ค่ะค่ะอันนี้เป็นภาพที่เราจะฉายให้ดูทั้งหมดนะคะค่ะอันนี้ค่ะภาพให้เห็นว่าตอน Inflation ขึ้นอ่ะนะคะว่ามันขึ้นไปแรงขนาดไหนนะคะขึ้นไปถึงประมาณ 11%นะคะแล้วก็ขณะเดียวกันเนี่ยยอดขาย Retail Furniture จะเห็นได้ว่าในเวลาช่วงเดียวกันน่ะพอขึ้นไปปั๊บคนก็เริ่มชะลอการซื้อเฟอร์นิเจอร์ทันทีนะคะก็มีการกังวลกันว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็มีการชะลอทันทีนะคะ ผลกระทบจากดอกเบี้ยขึ้นเนี่ยมันก็จะ Impact 4 อย่างเลยนะคะอันแรกก็คือเอ่อลูกค้าขายความมั่นใจก็คือยอดขายตกทันทีนะคะจากนั้นอันที่ 2 ก็คือที่บอก Group Customer นะคะก็คือเปลี่ยน Supply Chain เลย นะคะเราก็ Shut Down ด้วยแล้ว เอ จริงๆกระทบทุก แบรนด์แต่ AM โดนหนักที่สุด เพราะว่าเค้า Trading เค้ากลุ่ม กลุ่มลูกค้า Group ซึ่งซึ่งกระทบแล้วเปลี่ยนคนเลย 4 เต็มๆ นะคะส่วน เอ่อตัวอื่นก็กระทบนะคะส่วนหนึ่งที่ที่รายได้ลดลงมาเนี่ยเพราะว่ากรุ๊ป ซึ่งเราก็มีกรุ๊ปหลายเจ้า แต่เป็นทุกเจ้าเลยนะคะ ค่ะแล้วอันที่ 3 ก็คือเนื่องจากว่าเราเองก็มีลักษณะของการ Leverage Buyout มา เราก็จะมีเรื่องของดอกเบี้ยจะกระทบกระทบเป็นภาระเรามากขึ้น ตอนแรกเราจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่แบบไม่ จะสมมติเนี่ย 0.5 เนี่ย based based on บวกแล้วนะคะขึ้นมาเป็น 5.5% ดังนั้นดอกเบี้ยเราขึ้นมาถึง 5% นะคะ ดังนั้น ใน ในสภาวะที่รายได้เองก็ลดลงนะคะก็ทำให้เป็น เป็นแรงที่กดดันค่อนข้างสูงมากนะคะก็ขณะเดียวกันเนี่ย เอ่อสินค้าที่เราทำขายเองก็มีคอร์สพชมีทุกอย่างนะคะแล้วลูกค้าบางกลุ่มที่เป็นกลุ่มใหญ่เนี่ยก็มีการแบบ เอ่อมีมีประเด็นเรื่องการจ่ายช้าเราก็ต้องไปฟ้องร้องไปทำอะไรกันไปนะคะก็มีประเด็นนี้ แต่การเก็บหนี้โดยทั่วไปกลุ่มอื่นไม่ มี ไม่มีปัญหาค่ะ นะ คะแต่ก็ เรียนให้ทราบว่าผลกระทบ 4 อย่างที่มันกระทบเข้ามาในภาพรวมทั้งหมดของ ของของ ของกิจการฝั่ง England MH เนี่ย เป็น ต้องเรียกว่า Perfect Strong คือมันหนักมากและหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันนะคะ เราก็พยายามทำอย่างดีที่สุดที่จะ เอ่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นนะคะแล้วก็ เอ่อลดทุกอย่างทำทุกอย่างให้ Lean แล้วก็เหมาะสมกับสภาพการที่เปลี่ยนแปลงไปนะคะแต่ว่าความที่ Strong มาหลายเรื่องพร้อมๆ กันนะคะสิ่ง ที่ทำอยู่ถึงจะดีนะคะแต่ว่ามันอาจจะไม่เพียงพอที่จะชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปนะคะก็เลยก็เลยคิดว่าต้อง ต้องตัดสินใจเป็น Heart Decision ที่จะต้องทำในการที่จะรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นค่ะ

  1. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
    • การตัดสินใจปิดโรงงาน Ashley Manor และ Alexander & James เพื่อปกป้องผู้ถือหุ้น
    • การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร
    • การเน้นการทำตลาดในอังกฤษต่อไป
    • การสร้าง Culture องค์กรที่สามารถ Adapt to Change และเติบโตได้
    • การพัฒนาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความแตกต่าง
    • การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
    • การพยายามบุกตลาดใหม่ๆ เช่น ตลาดออนไลน์
    • การสร้าง Circular Economy ที่เข้มแข็ง
    • การ Exploratory มองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่ใช้ความสามารถในการออกแบบและเทคโนโลยี

ต่อค่ะ ค่ะอันนี้ภาพให้เห็นว่าเอ่อเศรษฐกิจอันนี้ภาพ Industry โดยรวมมันเป็นยังไงอ่ะนะคะอันนี้ช่วงเริ่มตั้งแต่ช่วงประมาณเดือน July นะต้นๆ จะเห็นได้ว่าเนี่ยก็มีพูดถึงว่า SCS ก็คือลูกค้าอันนี้เป็น Group เจ้าใหญ่ที่โดน Italian ซื้อไปนะคะเปลี่ยน Policy หมดนะคะรวมถึงการจัดซื้อทั้งหมดนะคะเขาก็เปลี่ยนหมดเลย Mark Spencer ก็ปิดเลย Department นี้ มีอีกโรงงานนึงก็ซัฟเฟอร์มากจาก ที่ Mark and Spencer ปิดปิด Department ที่เป็นโซฟาไปเลยนะคะแล้วก็ Wellfield Group เองก็เนี่ยก็ต้องมีการขายเปลี่ยนอันนี้ก็เป็นแบรนด์ใหญ่ๆ มีชื่อเสียงของอังกฤษนะคะก็ต้องขายเข้าเข้าเอ่อเหมือนกันนะคะต่อค่ะ

ค่ะอันนี้คน ละ 3 นะคะในเตอร์นี้ที่ผ่านมาก็จะเห็นได้ว่า เอ่อก็ยังมีเอิ่ม สถานการณ์ยังยากลำบากอยู่นะคะแล้วก็ขณะเดียวกันเนี่ยเอ่อก็จะมีบางคนต้องเข้า มีปัญหา อินซีด้วยนะคะแล้วก็อย่างSCS ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่เอ่อมี Investor ใหม่แล้วเนี่ยก็ต้องตัดสินใจปิดบางกิจการไปว in the box นะของสำนักเนี่ยเขาก็ปิดไปเลยนะคะค่ะต่อค่ะ ค่ะ ก็ต้องเรียนว่าเอิ่ม ก็มีการที่เข้า Administrator กันนะคะแล้วก็ Boy เองเนี่ยเขาก็มีการ ไรดาวน์เอ่อ Goodwill ของเค้าในตัวโรงงานนะคะแล้วรู้สึกเค้ามีปิดด้วย ข่าวหนึ่งจะ อัน อันที่เค้าปิดด้วยนะคะแล้วก็ขณะเดียวกันก็เนี่ยค่ะทุกคนก็มี Asset Buy Out นะคะเข้าไปใน Deal นะคะต่อเลยค่ะ ต้องเรียนว่าสาหัสมากอ่ะนะคะในใน Industry นะคะก็ค่ะ ก็ต้องเรียนว่าเนี่ยค่ะหลายๆ อันก็เข้าไปในเอ่อเนี่ยที่ เว้นวัดกันเยอะมากนะคะอันนี้ก็คือBoy เองก็เตรียมปิด เอ่อโรงงานที่อังกฤษแล้วนะคะแล้วก็อัน อันอื่นๆ ก็จะมีเอ่อเนี่ยก็ต้องมีตัดคอร์สกันมีเอิ่มนะคะก็ก็ต้องต้องเรียกร้องเรียก ว่าพยายามดิ้นรนกันอย่างมากค่ะ ขณะเดียวกันมันก็จะเริ่มมีการเอ่อการ Recovery นิดหน่อยนะคะที่ขึ้นมาเข้านะคะเริ่มมี Good Sign นะคะก็เริ่มมีการดู Supplier มากขึ้นอะไรมากขึ้นแต่ต้องเรียนว่าเอิ่ม ขณะเดียวกันเนี่ยตัว Import จากจีน จีนเองก็หาตลาดใหม่จากสงคราม ทาริฟเนี่ยก็บุกเข้าไปในใน UK เยอะนะคะแล้วขณะเดียวกัน Eastern Europe เองเนี่ยถ้าทั้งโลก เอ่อมันมีเศรษฐกิจไม่ค่อยดีซึ่งเขาก็มีเป็นการผลิตเฟอร์นิเจอร์อยู่ในแถว Eastern Europe บางอันเช่นอย่างแถบ โปแลนด์ ก็มีการชิปเหล่าเนี้ยเข้ามาในอังกฤษด้วยนะคะก็เป็นตัวที่เข้ามาเบียดตลาดของเอ่อโรงงาน Manufa ที่อังกฤษเลยนะคะค่ะ อันนี้ก็เล่าให้เห็นภาพว่าสิ่งที่ ที่เป็นน่ะมันค่อนข้างจะ Perfect Strong มากหนักมาก แล้วก็สิ่งที่เราพยายามทำอ่ะนะคะก็สรุปภาพให้ดูอ่ะนะคะว่าเราเองก็พยายามจะ Trim หลักๆ ก็คือพยายามจะ Trim เอิ่ม ตัว Operation เรา ให้มันเหมาะกับยอดเอ่อขายที่มันลดลงนะคะก็ปรับ ต้องเรียกว่ามีการปรับปรับโครงสร้างกันนะคะต้อง ต้องจากลากันอยู่หลายรอบนะคะทุก Level เลยตั้งแต่ Level โรงงานจนถึงระดับ Management ในระดับ Corporate Office นะคะมี แล้วก็ในปี 2565-2566 เนี่ย เราก็ เราเริ่มทำตั้งแต่ช่วงนั้น มีการปรับ CEO ให้เป็น Sales นะคะ Background เพราะว่ากลุ่มนี้จะสามารถจะไปบุกตลาดเจาะตลาดอะไรกันได้เก่งกว่า Background อื่นนะคะมีการพยายามมีการทำคอลเล็กชั่นใหม่ๆ มีการลดเอิ่ม Property สิ่งใดๆ ก็ตามที่เรามีอยู่เพื่อลด Fix Cost ตั้งแต่แบบอันที่มันมี Facilities อันนี้เป็น R&D เป็น Workshop ที่เราทำอยู่เนี่ยอันนั้นก็ปิดนะคะแล้วก็สุดท้ายก็คือเนี่ยเอ่อเรา ก็ปรับลดคนนะคะแล้วก็เพิ่มมีประสิทธิภาพโรงงานนะคะแล้วก็รวมถึงพยายามบุกตลาดใหม่ๆ เช่นตลาดที่ลูกค้าซื้อออนไลน์บ้างนะคะอย่างเช่น โซฟาคลับอย่างเงี้ยนะคะแล้วก็เอิ่มขณะเดียวกันเนี่ยยอดขายก็ยังไหลลงอีกนะคะทำให้เราเองก็ก็เรียกว่าต้องตัดลีกันเองอะนะคะเอ่อเอ่อขณะเดียวกันก็คิดว่าจนถึงที่สุดแล้วเราก็มองว่ายัง ยังไหลลงอีกเนี่ยก็น่าจะเป็นจุดที่เราจะต้องเอ่อ เอ่อก็คือต้องหยุดเลือดแล้วค่ะก็คือต้องต้องing Bad after Bad แล้วนะคะเราก็เลยตัดสินใจว่าด้วยการปีที่จะตัดสินใจว่าจะต้องAJ เข้า เข้าไปในแพคนะคะซึ่งตอนนี้ก็คือจะมีการขาย Non-Core Asset ทั้งหมดนะคะที่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Operation เอ่อของเฟอร์นิเจอร์เนี่ยนะคะแล้วก็ คือเป็นตึกโบราณที่เป็นถิ่นที่เขาขายเฟอร์นิเจอร์กันเรามี Property อยู่ก็ Exit อันนั้นไปนะคะแล้วก็ เอ่อส่วนที่เป็นตัว Corporate ของ TCMC Group เพิ่มขึ้นไปอีกนะคะดังนั้นเนี่ยก็คือตัดคนไปทั้งหมดเนี่ย เอ่อเค้าเรียกว่าเกิน เกินครึ่งนะคะแล้วก็เอิ่มน่าจะได้ จริงๆ ซึ่งเห็นในงบแล้วอ่ะนะคะเดี๋ยวคิดว่าเห็นผลทั้งหมดจริงๆอ่ะก็คงจะเต็มๆ ก็คือประมาณใกล้ๆ 10 ล้านแล้วนะคะซึ่งจะเห็นชัดเจนทั้งหมดในปี 2569 เพราะว่ามีทยอยทำมาตลอด

  1. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
    • (ต่อ) สภาพเศรษฐกิจโลกและไทยยังคงเป็นปัจจัยกดดัน โดยเฉพาะในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และยอดขายรถยนต์
    • การบุกตลาดของจีนอาจส่งผลกระทบต่อ Margin

นี่เป็นภาพทั้งหมดอ่ะนะคะที่เกิดขึ้นของตัวเอ่อแบรนด์ Under DM Midland นะคะก็คือ AMX Ashley Manor แล้วก็ Alexander James นะคะ กลับมา กลับมาที่ Performance ของ TCMLiving ใน Quarter 3 ตอนนี้แบรนด์ที่จะเหลืออยู่ก็คือ Austin นะคะ เน้นพวก Independent ค่อนข้างเยอะนะคะมีเพราะเขามีระบบการจัดการขนส่งเองนะคะ ก็จะทำให้เขาเข้าไปหาลูกค้ารายย่อยเนี่ยได้เก่งกว่าคนอื่นนะคะอันนี้ต้องเรียนว่าค่ะ ก็ภาพนะคะเช่นเดียวกันว่ายอดขายก็หายไปประมาณ 47% นะคะในขณะที่ Gross Profit เองก็ลงไปนะคะ 53 ต้องเรียนว่าตอนนี้เค้าเริ่มรันใน Level ที่อาจจะต่ำกว่าเอ่อ optimal event point เล็กน้อยนะคะมันจะทำให้ตัว Fix ถึงดูเยอะนิดนึงนะคะแต่ Gross Profit เองนะคะเขาก็ก็เอ่ออันนี้ก็จะมีผลกระทบลงมานะคะจากการที่รัน Below Minimum นะคะ แต่ต้องเรียนว่าในยอด 4 ยอดของการจองเขา เอ่อบุกกิ้งเข้ามาดูดีขึ้นนะคะนะคะ ค่ะตัว เองนะคะก็ไหลลงไปนะคะแล้วก็ส่วนภาพรวมทั้งหมด Profit เรียนว่าหลักๆ ก็คือมันจาก Goodwill นะคะเขา Loss Profit Loss อยู่ที่ 16.4.74 นะคะหลักๆ Goodwill Amortization มาที่ 15.37 แล้วนะคะแล้วก็ One Time Expense ดังนั้นอ่ะถ้าเอา 2 ตัวนี้ Remove ออกเนี่ยจริงๆก็ยังพอพอจะมีบุคอยู่บ้างนะคะค่ะ นี่ Performance ให้เห็นเทียบกับก่อนโควิดนะคะก็เป็นตัวหลักที่ดึงภาพของ TCMC ทั้งหมดนะคะจะเห็นได้ว่ายอดขายเขาลดลงไปเยอะมากนะคะแล้วก็ขณะเดียวกันเนี่ยยอด เอ่ออื่นๆ ทั้งหมดอ่ะนะคะก็ก็ก็ไปทิศทางเดียวกันแล้วก็จะหนักนิดนึงก็คือ ตอนตัด การตัด Goodwill นะ คะ 16 ค่ะ อ่าอันนี้ไหลจาก EBITDA มาที่ Net Profit อย่างไร นะฮะ ก็จะเห็นได้ว่าก้อนที่ใหญ่ที่สุดคือ Amortization อันนี้เป็นบาทแล้ว 623 ล้านบาท นะฮะ อ่า ซึ่ง หลักๆ ก็คือใน 623 ล้าน หลักๆ ก็คือ 614 จากการตัดสิ่งนี้นะคะ ก็คือตัดอะไรบ้าง ก็หนักๆ ก็คือ ค่า ค่าความนิยมนะคะถ้าเป็นบาทก็คือ 446 ล้านนะคะแล้วก็มีการในการที่ทำอ่าขายขายกิจการไปเนี่ยก็มีการ Lost จากการตัดขาย Asset อยู่ 80 กว่าล้านบาทนะคะนอกจากนั้นก็มีการตัดหนี้ระหว่างกันทั้งหลายแหล่ในกลุ่มอีก 200 กว่าล้านบาทนะคะ ซึ่ง ทั้งหมดเนี่ยคือ เอ่อรวมแล้วเนี่ยก็คือเอ่อ 763 ซึ่งใน 2 เราตั้งไว้แล้ว 149 ที่เคยเรียนใน 2 ว่าจะต้องมีตั้งมา ก้อนใหญ่ใน 3 นะคะก็คือกลับมาตั้งตอนเนี้ยที่ประมาณ 614 นะคะส่วนการเอ่อเฉพาะกิจการเนี่ยไม่ได้คอนโทรลเข้ามาหมด นะคะดังนั้น บางอย่าง ยัง ยังค้างอยู่ อยู่ที่ฝั่งของเอ่อTCML อยู่นะคะดังนั้น ก็จะมีการด้อยค่าจากการลงทุนเนี่ยอยู่ที่ 310 นะคะ ของเนอร์นะคะเนอร์เป็นตัวที่เราใช้ กู้เพื่อเข้าไปซื้อของ DMland นะคะแล้วก็ ค่ะแล้วก็อันนั้นทำตาม เอิ่มมาตรฐานการบัญชีTFRS9 นะคะ ปัด 14 ล้านนะคะส่วนก็มีที่เหลือก็คือมีเงิน Advance ที่ให้เค้าไปด้วยใน TCML นะคะ หมด ค่าใช้จ่ายบางอย่างนะคะที่เราจ่ายให้เค้าแทนเค้าแล้วก็มีอ่า หนี้ระยะสั้นออกดอกเบี้ยเงินกู้ก็คือมี บ้างนะคะก็ตัดตรงนี้ทั้งหมดของในแง่ของ ค่ะงบเดียวก็จะหายไปประมาณตอน 341 3 ก 3 30 กว่านะคะ อ่ะมาดูที่ TCMC Surface ค่ะเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะคะนะคะ ค่ะอันนี้เป็นแบรนด์ของ TCMC Surface เดิมนะคะค่ะ Cap อีกทีนึงนะคะ ต้มรินว่าในไตรมาสเนี้ยเอ่อมันจะมีเรื่องของเงินอัตรา FXเรทอะนะคะบาทแข็งมากนะคะแล้วก็คาดว่าคือเราดูเวลาดูตัวเลขเป็นดอลลาร์เนี่ยเขาก็ Line กันนะคะพอมาดูเป็นบาทเดี๋ยวจะลงมาเล็กน้อย แต่ต้องเรียนว่ารายได้หายไปนะคะ Gross Profit หายไป 11 เนี่ย แต่เค้าเองก็พยายามจะดึงดู ควบคุมค่าใช้จ่ายมันก็ทำให้การลดลงไป Profit เนี่ยมันน้อยกว่านะคะลงมาที่ 8 นะคะซึ่งถ้ามาดูว่าเอ๊ะแล้วธุรกิจมันยังยังเข้มแข็งอยู่หรือเปล่าเราไปดูที่กล่องสีส้มข้างบนจะเห็นได้ว่าด้วยอันนี้คือออเดอร์ใน ในที่ที่ Confirm เรียบร้อยแล้วอยู่ในกระเป๋านะคะออเดอร์ตรงเนี้ยเมื่อปีที่แล้วมีอยู่ 89% นะคะ อ่าใน ช่วงเนี้ยอยู่มีอยู่ถึง 92% นะคะไม่เชื่อดูบัตรเจ็ดดังนั้นก็ดูว่าออเดอร์ในกระเป๋ายังแข็งแรงดีอยู่นะคะ ต่อค่ะ นะคะภาพใหญ่ๆ นะคะตัว Product หลักนะคะก็ยัง ยังเป็นของตัว Xwinster ก็คือพรมของโรงแรมศูนย์ประชุมหรือพรมพรม พรม แบบนี้นะค่ะก็ยังทำได้ดีนะคะแล้วก็ตัวอื่นๆ เองก็ก็เป็นสัดส่วนกันลงไปอะนะคะค่ะ by Region นะคะก็จะเห็นได้ว่า Region ที่เติบโตนะคะขยับของ USA เองขยับขึ้นเล็กน้อยอันนี้อาจจะ 2 Contribute เยอะหน่อยนะคะแล้วก็เอ่อขณะเดียวกันเนี่ยตัวอื่น ๆ เองของไทยของอะไรของ ของเอเชียเนี่ยนะคะก็ยังตาม ตามมาอยู่อ่ะนะคะไทยยังอาจจะลงไปบ้างเล็กน้อยคิดว่าเป็นซีซั่นนะคะแต่ก็ออเดอร์ที่ในline ก็ใช้ได้ดีนะคะ ของเอเชียดีค่ะ ภาพให้ดูจากก่อนโควิดอะนะคะก็เรียกว่า อันเนี้ยฟื้นคืนชีพนะคะก็ไปได้ดีนะคะกำไรเองเขาก็ เอ่อรักษาระดับจากเซมสเตียร์กันได้ดีนะคะ ค่ะ กำไร GP เองก็ 40.27 แข็งแรงดีนะคะอันนี้ให้ดูว่าจาก EBITDA กลับมาที่ Net Profit เป็นอย่างไร อ่าก็มีดอกเบี้ยเล็กน้อยนะคะก็อยู่ในวิสัยที่สบายๆ ดูได้ค่ะ Project reference นะคะสิ่งที่เราทำไปใน 4 นี้ โครงการใหม่ๆ นะคะ ก็มี Point ภูมิพี เมื่อกี้ในรูปแรกก็มีนะคะ อันนี้ที่ลาวนะคะฮลเดย์อินนะคะก็สวยสดงดงามนะคะอันนี้แอร์พอร์ตนะคะเราเป็นได้มีโอกาสได้ทำฉางอีหลายอันเลยนะคะอันนี้เป็นอัน อัน อันนี้เป็นส่วนใหม่ที่ทำเพิ่มเติมเข้ามาแล้วก็สอินที่ซียาเทิลที่อเมริกานะคะอันนี้ ซีเนียร์ลฟิ่งนะคะที่ที่อเมริกาเราพยายามจะเข้าซีเนียร์ลฟิ่งเยอะขึ้นเพราะพวกนี้ต้องการความความนุ่มความ อันนี้ก็เป็นมมพคที่กรุงเทพฯเนี่ยค่ะ อ่าค่ะของมัน ในเลิศนะคะ อันนี้เป็น Student Dom นะคะที่นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เราทำ Student Dom ค่อนข้างเยอะนะคะ อันนี้ก็เป็นไทยที่เข้าไปทำในนั้น ค่ะ Automotive นะคะค่ะใน 4 3 ค่ะ Automotive นะคะ perform ได้ดีมากนะคะต้องอาจจะเซมเตอร์รัสเซียเขาจะแบบเป็นช่วงที่เขาสะดุดนิดนึงนะคะเอ่อเตอร์นี้ก็เลยฟื้นขึ้นมาได้แบบดีมาก 48% Gross Profit ขึ้นถึง 67% นะคะแล้วก็ทำให้ EBITDA ขึ้นได้อย่างสวยงามนะคะ 220% ด้วยแล้วก็ในเองก็ดีแต่ถ่านเล็กนะคะค่ะ แต่ว่าก็ทำได้ สวยมากค่ะ อันนี้ต้องเรียนว่าภาพ ตลาดทั้งหมดเนี่ยยังยังก็คือจำนวนรถที่ผลิตในประเทศไทย อันนี้ก็ยังไม่ได้สูงมากนะคะเอ่อจำนวนรถ ก็ยังรักษาคงระดับเดิมอยู่นะคะคือปี 2.4 ล้าน คัน นะ คะ 2 ล้านกว่าคัน ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ ล้าน นะคะเราก็พยายามจะดูเรื่องตลาดที่ส่งออกด้วยอะไรด้วยเพื่อชดเชยกรณีที่ที่ตลาดไทยอาจจะแบบว่ามีการชะลอบ้างนะคะ Product หลักๆ ของเราก็ยังเป็นตัวรม ของรถยนต์ แต่เราก็ยังมีตัวทั้งผ้า หุ้มเบาะรถยนต์ PVC นะคะก็มีทั้งหมดนะคะ ค่ะแล้วก็ตลาด Export เองนะคะก็ต้องเรียนว่าอ่าเนี่ยก็ มีทั้งอ่าทั้งตลาดสติกเป็นหลักนะคะ 70 ประมาณ 80 กว่าเปอร์เซ็นต์นะคะแล้วก็มีตลาด Export อยู่ประมาณเอ่อ 10 กว่า 20% นะคะเอาไว้ช่วยกันบาลานซ์ลดความเสี่ยงนะคะ ค่ะภาพของ การอ่าการผลประกอบการตั้งแต่ก่อนโควิดก็จะเห็นได้ว่า เอ่อฟื้นมาเจ้าแรกๆ โอเคตที่แล้วอาจจะมีชะลอไปบ้าง เอ้ยตที่แล้ว Same Quarter Last Year อาจจะมีชะลอไปบ้างนะคะตอนนี้ก็กลับมาละนะคะกลับมาเป็นปกตินะคะแล้วก็GP เองก็ทำได้ถึง 21.63 นะคะรักษาระดับได้นะคะทีเดียว นะคะดีขึ้นจากจาก Same Quarter Last Year นะคะ คำถามคือเราจะโตยังไงนะคะจะ วิ่งไปข้างหน้านะคะ แต่หลังจากที่เจอเอ่อศึกหนักมาได้ยังไรนะคะนี่ก็ต้องเรียนว่าเราเองก็ตั้งใจที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องนะคะแล้วก็ในช่วงนี้เนี่ยโฟกัสเราจะดูที่การทำเรื่องของ Financial resilience นะ ก็คือมีการคุยกับธนาคาร เรื่องการปรับเอ่อโครงสร้างหนี้นะคะคือ Engine เรา อ่าอาจจะลดไปบ้าง แต่ก็ยัง Engine ที่มีอยู่ก็เป็น Engine ที่ดีนะคะเราก็มีการคุยกับแบงค์ซึ่งแบงค์เองก็เข้าใจนะคะระดับนึงนะคะแต่ไม่มีรายละเอียดที่ยังต้องคุยกันอยู่ยังไม่ ได้เสร็จสมบูรณ์นะคะค่ะแล้วก็เราพยายามจะหลีกเลี่ยงการที่จะต้องเพิ่มทุนใดๆนะคะเอ่อ going forward จะเป็นอะไรนะคะเราก็มองถึงว่าการเติบโตโดยการใช้ light นะคะก็ใช้ สิ่งที่เราเก่งนะคะ ข้อ 4 เลยนะคะสิ่งที่เราเก่งเอ่อ เอ่อคอร์ส ของเรานะคะในแง่ของการที่เราเข้าไปถึงชน บางอย่างได้ อย่างดีงามต้องเรียก ว่ามี Coverage อยู่แล้วการที่จะ Product เพิ่มไปหรือการที่จะไปเอาอันนี้ไปมีการเอ่อ ร่วมมือกับท่าน กับที่อื่นเนี่ยน่าจะน่าจะทำให้มีcontributions ลงไปในเอ่อการดู การร่วมมือได้ อย่างดีนะคะซึ่งอันนี้ก็จะ ไม่ต้องใช้เยอะมากนักนะคะ ค่ะแล้วก็ ตังต ต้องเรียนว่าเอ่อ เราเนี่ยก็ว่าโฟกัส Strength เราว่าอะไรที่ Exand จาก Strength ตรงนี้ได้บ้างนะคะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรื่องของการ uh finishing Product ต่างๆนะคะไม่ว่าจะเป็นโรงแรมจะเป็นบ้านจะเป็นอะไรก็แล้วแต่เนี่ย เราเข้าไปใน Channel นั้นได้ดีเราเข้าไปในกลุ่มที่เป็น เนอร์กลุ่มดีไซเนอร์ได้ดีนะคะแล้วก็เราเองก็มีความ Trust นะคะจากแบรนด์นะคะที่คนมั่นใจว่า ใช้ของเราแล้วจะไม่ จะแบบสบายใจได้ไม่มีปัญหา Service ดีนะคะเราก็ดีไซน์ออกมาได้สวยงามนะคะก็คือจะเอาสิ่งเหล่านี้นะคะเข้าไปดูว่าด้วยเหล่า นี้เราจะทำอะไรได้บ้างนะคะซึ่งเราก็มองเล็งๆ ไว้บาง Area เช่นของ การที่จะต้องสามารถจะ เอาความสามารถในการดีไซน์บางอย่างเนี่ยที่ไปไปไปประกอบกับเทคโนโลยีแล้วจะทำอะไรให้เราอ่าสร้างเป็นธุรกิจใหม่ๆ ได้หรือไม่นะคะก็เป็นการ Explo อยู่ในช่วง นี้นะคะแล้วก็ เอ่อมีเรื่องของการดูเรื่องของการเข้าไปในธุรกิจที่มุ่งใช้เกี่ยวable การate อะไรต่างๆนะคะที่จะสร้าง Material ที่มีความต้องการ ของ Material ในจะสูงขึ้นเรื่อยๆซึ่งเราก็เป็นสิ่งที่ทีมเราเองก็เรื่องนี้แล้วก็สามารถจะใช้ เอ่อมีพื้นฐานด้านของตัวเองอยู่แล้วด้วยนะคะก็เอาจะมาใช้ได้ในการที่จะเติบโตไปเป็นทําแล้วก็ทําเรื่องให้ ให้ได้เข้มแข็งมากขึ้นอาจจะเติบโตไปช่วยคนอื่นได้ด้วยนะคะอันนี้ก็เป็น Area ที่เราดูว่าจะเติบโตไปทางทิศทางนี้ ใน ณ จุดนี้นะคะ ค่ะ ก็เป็นช่วงสุดท้ายนะคะเรื่องของ Q&A เข้าใจว่ามีคำถามเข้ามาแล้วนะคะ ค่ะ คำถามคือว่าในไตรมาส 3 นะ คะ บริษัทขาดทุนสูงมาก สาเหตุหลักจากการชะลอตัวของ เฟอร์นิเจอร์ในอังกฤษ นะ คะ แล้ว ก็ เรา ก็ หยุด ยุติ บริษัท ย่อย อยาก ทราบ แนว ทาง หรือ แผน ฟื้นฟู