ช่าวหุ้น TATG
เดือนนี้ / เดือนก่อน
ปีนี้ / ปีก่อน
-
set
-
set
-
kaohoon
TATG กวาดกำไร Q3 โตเกือบ 2 เท่า ลุ้นไตรมาส 4 ยานยนต์ฟื้น – EV แกร่ง-บริหารต้นทุนเยี่ยม 17/11/68
ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ ครอบคลุมถึงการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์สำหรับปั๊มขึ้นรูปโลหะ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 19.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6.69 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 626.96 ล้านบาท ลดลงตามภาวะอุตสาหกรรม สะท้อนผลของการควบคุมต้นทุนขายและต้นทุนบริการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งได้รับแรงผลักดันจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับลดลงตามปริมาณงาน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารยังคงมีประสิทธิภาพสูง สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรกปี 2568 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 2568) สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างโดดเด่น มีกำไรสุทธิ 61.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้รายได้รวมจะอยู่ที่ 2,003.25 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 1.81% เนื่องจากคำสั่งซื้อในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชะลอตัว แต่การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการขาย ส่งผลให้ TATG สามารถรักษาอัตราการทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง
-
mitihoon
มิติหุ้น – บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย (TATG) โชว์ศักยภาพเหนือตลาด ไตรมาส 3/68 กำไรพุ่งแรงเกือบ 187% อยู่ที่กว่า 19 ล้านบาท ท่ามกลางอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังผันผวน หนุนด้วยการบริหารต้นทุนที่โดดเด่น ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกทำกำไรเกือบ 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 17% แม้รายได้ชะลอตามอุตสาหกรรม ขณะที่ แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศเริ่มฟื้นและโอกาสจากดีมานด์ EV พุ่งหลายเท่า TATG พร้อมเดินหน้าเสริมประสิทธิภาพ เจาะงาน Tooling สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม รวมทั้ง ขยายตลาดไปยัง Non-Automotive รุกบริการพิเศษหลังการขาย และเตรียมพร้อมรองรับโครงการใหม่ ด้วยฐานะการเงินแข็งแกร่ง มุ่งสู่เป้าหมายรายได้ปี 68 ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ ครอบคลุมถึงการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์สำหรับปั๊มขึ้นรูปโลหะ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 19.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6.69 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 626.96 ล้านบาท ลดลงตามภาวะอุตสาหกรรม สะท้อนผลของการควบคุมต้นทุนขายและต้นทุนบริการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งได้รับแรงผลักดันจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับลดลงตามปริมาณงาน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารยังคงมีประสิทธิภาพสูง สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรกปี 2568 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 2568) สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างโดดเด่น มีกำไรสุทธิ 61.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้รายได้รวมจะอยู่ที่ 2,003.25 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 1.81% เนื่องจากคำสั่งซื้อในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชะลอตัว แต่การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการขาย ส่งผลให้ TATG สามารถรักษาอัตราการทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
kaohoon
TATG กวาดกำไร Q3 โตเกือบ 2 เท่า ลุ้นไตรมาส 4 ยานยนต์ฟื้น – EV แกร่ง-บริหารต้นทุนเยี่ยม 17/11/68
ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ ครอบคลุมถึงการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์สำหรับปั๊มขึ้นรูปโลหะ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 19.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6.69 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 626.96 ล้านบาท ลดลงตามภาวะอุตสาหกรรม สะท้อนผลของการควบคุมต้นทุนขายและต้นทุนบริการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งได้รับแรงผลักดันจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับลดลงตามปริมาณงาน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารยังคงมีประสิทธิภาพสูง สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรกปี 2568 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 2568) สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างโดดเด่น มีกำไรสุทธิ 61.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้รายได้รวมจะอยู่ที่ 2,003.25 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 1.81% เนื่องจากคำสั่งซื้อในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชะลอตัว แต่การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการขาย ส่งผลให้ TATG สามารถรักษาอัตราการทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง
-
mitihoon
มิติหุ้น – บมจ. ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย (TATG) โชว์ศักยภาพเหนือตลาด ไตรมาส 3/68 กำไรพุ่งแรงเกือบ 187% อยู่ที่กว่า 19 ล้านบาท ท่ามกลางอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังผันผวน หนุนด้วยการบริหารต้นทุนที่โดดเด่น ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกทำกำไรเกือบ 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 17% แม้รายได้ชะลอตามอุตสาหกรรม ขณะที่ แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศเริ่มฟื้นและโอกาสจากดีมานด์ EV พุ่งหลายเท่า TATG พร้อมเดินหน้าเสริมประสิทธิภาพ เจาะงาน Tooling สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม รวมทั้ง ขยายตลาดไปยัง Non-Automotive รุกบริการพิเศษหลังการขาย และเตรียมพร้อมรองรับโครงการใหม่ ด้วยฐานะการเงินแข็งแกร่ง มุ่งสู่เป้าหมายรายได้ปี 68 ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ ครอบคลุมถึงการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์สำหรับปั๊มขึ้นรูปโลหะ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ อุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ บริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 19.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 6.69 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 626.96 ล้านบาท ลดลงตามภาวะอุตสาหกรรม สะท้อนผลของการควบคุมต้นทุนขายและต้นทุนบริการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งได้รับแรงผลักดันจากต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงที่ปรับลดลงตามปริมาณงาน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง การควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารยังคงมีประสิทธิภาพสูง สนับสนุนให้ภาพรวมผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรกปี 2568 (สิ้นสุด 30 ก.ย. 2568) สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างโดดเด่น มีกำไรสุทธิ 61.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้รายได้รวมจะอยู่ที่ 2,003.25 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 1.81% เนื่องจากคำสั่งซื้อในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชะลอตัว แต่การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการขาย ส่งผลให้ TATG สามารถรักษาอัตราการทำกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่อง
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
ชูจุดเด่นด้านบุคลากรที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการนำเข้าเทคโนโลยีทันสมัย เสริมศักยภาพสายงานการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเทียบเท่าระดับสากล ควบคุมการบริการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทเตรียมแผนการลงทุนรอบใหม่ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ เพิ่มกำลังการผลิตและขยายงานด้านแม่พิมพ์โลหะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการฟื้นตัวของธุรกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต ล่าสุด ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 699.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 29.22 ล้านบาท งวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,376 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 42.5 ล้านบาท ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
-
oppday
-
mitihoon
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
-
mitihoon
-
mitihoon
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
-
set
มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น 29/04/68
-
kaohoon
TATG มองอุตสาหกรรม “ยานยนต์” ปีนี้ฟื้น ตั้งเป้ารายได้โต 10% 28/02/68
“จากปัจจัยบวกในด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งยอดผลิต ยอดขายในประเทศ และยอดส่งออก จึงตั้งเป้ารายได้ปี 2568 TATG จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ควบคู่รักษาความสามารถในการทำกำไรที่ดี พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว” ดร.พยุง กล่าว
-
mitihoon
#TATG แจ้งงบปี 67 กำไรแตะ 69 ล. 27/02/68
-
fin
-
set
-
set
-
set
-
set
งบการเงิน ประจำปี 2567 (ตรวจสอบแล้ว) 27/02/68
-
set
-
set
-
set
-
hoonsmart
-
thunhoon
-
mitihoon
-
kaohoon
TATG บวก 4% ลุ้นปี 67 รายได้พุ่ง 3 พันล้าน กางแผนขยายกำลังผลิต 20-30% 01/11/67
ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร TATG เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีนับจากนี้ (ปี 68-70) บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20% ซึ่งเป็นไปตามการขยายกำลังการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพกำลังการผลิต คาดว่าจะทำให้มีกำลังการผลิตใหม่จะทยอยเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30%
-
mitihoon
-
kaohoon
TATG บวก 4% ลุ้นปีนี้โกยรายได้ 3 พันล้าน รับยอดขายเพิ่ม-ค่าใช้จ่ายลด 18/10/67
ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร TATG เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีนับจากนี้ (ปี 68-70) บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20% ซึ่งเป็นไปตามการขยายกำลังการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพกำลังการผลิต คาดว่าจะทำให้มีกำลังการผลิตใหม่จะทยอยเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30%
-
thunhoon
-
kaohoon
TATG วิ่งคึก 14% กางแผน 3 ปี รายได้โตเฉลี่ย 20% รับแผนขยายกำลังผลิต-ออเดอร์พุ่ง 09/10/67
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีนับจากนี้ (ปี 68-70) บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20% ซึ่งเป็นไปตามการขยายกำลังการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพกำลังการผลิต คาดว่าจะทำให้มีกำลังการผลิตใหม่จะทยอยเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30%
-
kaohoon
-
hoonsmart
TATG สุดยอดวันแรกแจกกำไร 85.60% ราคาต่ำบุ๊ก รายได้โต แข่งตปท.ได้ 08/10/67
ด้านบล.โกลเบล็กวิเคราะห์ TATG ให้ราคาเหมาะสม 1.98 บาทในปี 2568 คาดหวังอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 5.6% ต่อปี ราคาเป้าหมายอ้างอิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ของหุ้นที่ทำธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้ P/E เฉลี่ยที่ 7.6 เท่า โดยประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาท คาดผลประกอบการปี 2567-2568 เติบโตตามภาวะอุตสาหกรรม ประมาณการรายได้ประมาณ 3,211.3 ล้านบาท และ 3,436.1 ล้านบาท เติบโต +7.0% และ +7.0%ตามลำดับ คาดกำไรสุทธิ 82.8 ล้านบาท และ 102.9 ล้านบาท เติบโต +77.5% (เทียบกับฐานต่ำ) และ +24.3% ตามลำดับ
-
mitihoon
-
mitihoon
-
mitihoon
-
kaohoon
-
mitihoon
-
hoonsmart
TATG เปิดเทรดวันแรก 2.32 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 85.6% 08/10/67
กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมในช่วงปี 2564 ถึง 2566 เท่ากับ 2,548 ล้านบาท 2,923 ล้านบาท และ 3,003 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (3 Yrs-CAGR) ที่ร้อยละ 9 รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า งวด 6 เดือนปี 2567 กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวมจำนวน 1,340 ล้านบาท -9%YoY สาเหตุหลักมาจากการสั่งซื้อ ชิ้นส่วนรถยนต์ลดลง ตามภาวการณ์ผลิตรถยนต์ในใประเทศที่กำลังซื้อหดตัวลง และการเข้มงวดขึ้นของสถาบันการเงิน ทำให้จำนวนการผลิตรถยนต์ในประเทศลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 20 ขณะที่ %GPM เท่ากับ 15% 10.7% 8.8% และ 11.1% ตามลำดับ งวด 6 เดือน ปี 2567 %GPM ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการจำหน่ายเศษวัตถุดิบเกิดจากการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้ในราคาที่สูงกว่าราคา Scrap Return และ ได้รับคำสั่งซื้อสินค้า Tooling เพิ่มขึ้นจากลูกค้าผู้ผลิตรถยนต์ที่มีการออก Model รถยนต์รุ่นใหม่ ส่งผลให้ในช่วงปี 2564-2566 และงวด 6 เดือนปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 165 ล้านบาท 108 ล้านบาท 48 ล้านบาท และ 46 ล้านบาท ตามลำดับ
-
thunhoon
-
kaohoon
-
kaohoon