STC
บริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

โอเคครับ นี่คือสรุปผลการประชุม Oppday ของ STC จากไฟล์เสียงที่ได้รับครับ ```html

STC เผยผลประกอบการ Q3/2568 พร้อมลุยแผน Jump Plus ขยายตลาด EEC และตั้งเป้าปีหน้าสดใสกว่าเดิม!

สรุปผลการประชุม Opportunity Day (Oppday) ของ บริษัท STC Concrete Product จำกัด (มหาชน) ประจำไตรมาส 3 ปี 2568 โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณเอกชัย ชัยตระกูลทอง (กรรมการผู้จัดการ), คุณอมลวรรณ ชัยตระกูลทอง (รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชีและการเงิน), และคุณปัญญา เมสีกุล (ผู้อำนวยการฝ่ายขาย) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในไตรมาส 3 ปี 2568, STC มีรายได้รวม 129.60 ล้านบาท ลดลง 30.49 ล้านบาท หรือ 19.04% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบ:

  1. ความต้องการของตลาดหดตัว
  2. การแข่งขันที่สูงขึ้น
  3. แรงกดดันด้านราคา
  4. ภาวะฝนตกต่อเนื่อง ทำให้การจัดส่งสินค้าไม่เป็นไปตามแผน
  5. ราคาซีเมนต์มีการปรับตัวสูงขึ้น

กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 29.02 ล้านบาท คิดเป็น 22.59% ของรายได้จากการขายและบริการ ลดลง 16.72 ล้านบาท หรือ 36.55% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 1.64 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 8.26 ล้านบาท คิดเป็น 124.79% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดใน EEC (Eastern Economic Corridor) เนื่องจากมีการเติบโตของงานอสังหาริมทรัพย์และโรงงานอุตสาหกรรม

บริษัทขยายตลาดไปยังภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ดังกล่าว

บริษัทเข้าร่วมโครงการ Jump Plus ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและได้รับการสนับสนุนทางการเงินในการพัฒนาองค์กรในด้านต่างๆ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ความเสี่ยงหลักคือสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน, การแข่งขันที่รุนแรง, และปัจจัยภายนอกเช่น สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย

ความเสี่ยงด้านต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะราคาซีเมนต์ที่ผันผวน

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมกับภาวะตลาด, บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ, และเพิ่มกำลังการผลิต

บริษัทขยายตลาดไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต, เช่น ภาคอีสานและพื้นที่ชายแดน

บริษัทให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบริหารอย่างต่อเนื่อง

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทคาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจในปี 2569 จะดีกว่าปี 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ, การเติบโตของ EEC, และการขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ

บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพิ่มความหลากหลายของสินค้า

บริษัทคาดว่าสภาวะอากาศในปี 2569 จะเข้าสู่ภาวะเอลนีโญ (El Niño) ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 34:58]

ไม่มีการสรุปคำถามและคำตอบ เนื่องจากไม่มีช่วงถามตอบในคลิปเสียง

หัวข้อคำถามและคำตอบ

  1. แนวโน้มธุรกิจปี 2569

    ผู้บริหารมองว่าปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ จากปัจจัยบวกหลายด้าน เช่น ปริมาณฝนที่ลดลง, การเติบโตของ EEC, และการขยายตลาดสู่ภูมิภาคใหม่ๆ

  2. การขยายตลาดสู่พื้นที่ชายแดน

    บริษัทได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์เพื่อใช้เป็นบังเกอร์ให้ทหารและชาวบ้านตามแนวชายแดน และได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้เกิดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

  3. แผนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่

    บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แผ่นทางเท้า ซึ่งคาดว่าจะผลิตได้เต็มกำลังในปีหน้า

  4. การบริหารจัดการต้นทุน

    บริษัทให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

  5. ผลกระทบจากสภาพอากาศ

    บริษัทคาดการณ์ว่าปีหน้าจะเข้าสู่ภาวะเอลนีโญ (El Niño) ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากสภาพอากาศจะแห้งแล้งกว่าปีที่ผ่านมา

โดยสรุป: STC เผชิญกับความท้าทายในไตรมาส 3 ปี 2568 จากปัจจัยภายนอกหลายประการ แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับตัวและพัฒนาธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยมีแผนขยายตลาด, พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, และบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

```