สรุป OPPDAY หุ้น SSP

บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ปี 2024: รอบ 10 ปีแห่งการเติบโตและโอกาสในอนาคต
สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งในงาน Opportunity Day ประจำปี 2024 ของบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP โดยในปีนี้เป็นปีที่บริษัทครบรอบ 10 ปี และยังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนในพลังงานไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียนต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
โครงการโซลาร์ฟาร์ม: Production อาจลดลงเนื่องจากอยู่ในช่วงเตรียมการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโครงการ SPN เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต ตัวโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่เปิดดำเนินการมาประมาณ 10 ปีแล้ว และต้องการปรับปรุงให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้น
โครงการวินด์ฟาร์ม: ได้มีการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในโครงการวินชัยอีก 75% ทำให้ปัจจุบันรับรู้รายได้ของโครงการร่วมเก้า วินด์ฟาร์ม 100% ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งเข้ามาสนับสนุนรายได้รวมของโรงไฟฟ้าพลังงานลมได้มาก ทำให้มี Output เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 50% แม้ว่าภาพรวมของปีที่ผ่านมา Wind Speed อาจดรอปกว่าปีก่อนเล็กน้อย
โครงการ Biomass: Gross Profit ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบต่างๆ มีการปรับตัวลดลง แม้ว่า Output อาจลดลงเล็กน้อยเนื่องจากมีการ Plan Shutdown ที่ยาวนานขึ้นกว่าปีก่อน แต่ก็เป็นไปตามแผนที่ได้เตรียมการไว้
โครงการ Solar Rooftop: ภาพรวมดีขึ้นเนื่องจากมีการ Operate โครงการใหม่เพิ่มอีกประมาณ 7 โครงการในประเทศอินโดนีเซีย
อันดับเครดิต: ได้รับการจัดอันดับเครดิต Rating ของ Company จาก TRIS Rating ที่ Triple B+ และสถานะยังคงที่
SET ESG Rating: ได้รับการจัดอันดับตัว SET ESG Rating อยู่ที่ Double A
CGR Rating: ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ 5 ดาว
การจ่ายเงินปันผล: บอร์ดมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 20 สตางค์ แต่ต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 เมษายนนี้
ปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 285 MW Equity Megawatt มีโครงการทั้งหมด 122 โครงการ รวมทั้งสิ้น 5 ประเทศ
- ประเทศไทย: มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอยู่ที่ 106.3 Equity Megawatt มีโครงการในจังหวัดลพบุรี, ราชบุรี, มุกดาหาร, และโคราช
- ประเทศญี่ปุ่น: มี Equity อยู่ที่ 53 Equity Megawatt
- ประเทศเวียดนาม: มีอยู่ 78.4 Equity Megawatt
- ประเทศมองโกเลีย: 11.3 Equity Megawatt
- ประเทศอินโดนีเซีย: เป็นโครงการ Solar Rooftop อยู่ที่ 35.6 Equity Megawatt
สัดส่วนโครงการตาม Energy Type:
- Solar Farm: 53%
- Wind Farm: 29%
- Solar Rooftop: 15%
- Biomass: 3%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
โรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน: บริษัทเป็นโรงไฟฟ้าที่มาจากพลังงานทดแทน โดยมีปัจจัยทางธรรมชาติเป็นตัวแปรสำคัญ เช่น แสงแดดและความเร็วลม ค่าความเข้มแสงในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ในประเทศไทยดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ 3 ส่วนค่าความเข้มแสงในต่างประเทศ (ญี่ปุ่น, เวียดนาม, มองโกเลีย) ดรอปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 และปีก่อนหน้า ความเร็วลมในไตรมาสที่ 4 ดีขึ้นในเวียดนามและไทย โดยเฉพาะวินชัยที่มีความเร็วลมดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ความเข้มแสง: ค่าความเข้มแสงของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศลดลง
ความเร็วลม: ความเร็วลมในโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามไม่ค่อยดีเท่าไหร่
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
การเพิ่มประสิทธิภาพ: การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโครงการ SPN
การขยายโครงการ: การเชื่อมตัว Grid Connection ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น (Rio 1 กับ Rio 2) โดยมีแผนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการ Rio 2 ช่วงปลายปีนี้
การเข้าซื้อกิจการ: การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในโครงการวินชัย ทำให้รับรู้รายได้เต็มจำนวน
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า: ไตรมาสที่ 4 ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวมกัน 173,467 MWh เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 โดยวินชัยผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้ 57,874 MWh โซลาร์ฟาร์มผลิตได้ 48,136 MWh (ลดลง 30% เนื่องจาก Low Season ในต่างประเทศ) พลังงานลมในเวียดนามผลิตได้ 38,194 MWh (เพิ่มขึ้น 15.7%) พลังงานชีวมวลผลิตได้ 15,965 MWh (ลดลง 9.2% เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุง) Solar Rooftop ผลิตได้ 13,298 MWh (เพิ่มขึ้น 9.5% จากการติดตั้งในอินโดนีเซีย)
การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า (ภาพรวมทั้งปี): บริษัทมีการผลิตและจำหน่ายไฟได้ 619,376 MWh เพิ่มขึ้น 14.3% จากปีที่แล้ว หลักๆ มาจากการ Take วินชัยเข้ามาอีก 75% หากไม่รวมวินชัย การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจะลดลง 4.9% โดย solar farm ลดลง 5.2%
ความท้าทาย: แม้ว่าจะมีวินชัยเพิ่มเข้ามา แต่บริษัทก็ยังได้รับปัจจัยกดดันจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
- Operation: การเตรียมความพร้อมทั้ง SPN และ Rio 1
- FT Rate: ค่าเฉลี่ย FT ของปี 2024 ลดต่ำลงกว่าปี 2023
- อัตราแลกเปลี่ยน: ค่าเงินเยนและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อ Convert กลับมาเป็นเงินบาท
รายได้รวมไตรมาส 4: 1,007.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รายได้จากการขายไฟอยู่ที่ 961.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.4% ส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ที่ 350.1 ล้านบาท ลดลง 15% (Rio 1 ปิดเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ Rio 2 และ SPN เตรียมความพร้อมในส่วนของ Repowering)
รายได้รวมทั้งปี 2024: 3,465.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบกับปี 2023
บริษัทได้ทำการออกหุ้นกู้ไปมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 Tranche:
- Tranche แรก: 1,200 ล้านบาท การันตีโดยธนาคาร EXIM Bank Rating AAA ระยะเวลา 5 ปี จ่ายดอกเบี้ย 3.2% ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันค่อนข้างดี มีการยอดจองเข้ามามากกว่า 2 เท่า
- Tranche ที่สอง: 800 ล้านบาท Non-guarantee Rating Triple B ระยะเวลา 3 ปีกับ 1 เดือน ดอกเบี้ย 4.9%
ทั้งสอง Tranche นี้เป็น Green Bond ครั้งแรกของบริษัท และมีการ Stamp โดย Second Party Opinion ว่าเป็น Green Bond โดยบริษัท DNV
บริษัทได้อานิสงส์จากการขาย Carbon Credit ซึ่งเป็นปีแรกที่ได้รับรู้รายได้จากส่วนนี้ โดย Carbon Credit จะเป็นการขายให้กับองค์กรที่ตั้งเป้า Net Zero หรือลด Carbon เพื่อป้องกันภาวะโลกร้อน บริษัทได้ทำการลงทะเบียนสำเร็จและสร้างรายได้ในส่วนของ Carbon Credit ทั้ง 4 โรงไฟฟ้าในประเทศไทย ภายใต้ I-REC Standard รวมถึง TTV ในเวียดนามที่เข้าลงทะเบียนและทำการขายในแพลตฟอร์ม Under Taker
โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ:
- SPN: ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า (Solar Farm ที่ลพบุรี) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
- Rio 2: ส่วนต่อขยายโรงไฟฟ้า (Solar Farm ที่ชิซูโอกะ ญี่ปุ่น) ติดตั้งแผงโซลาร์ไปแล้วประมาณ 10% คาดว่าจะ COD ในไตรมาส 4
- Waste-to-Energy: 2 โรง (สุราษฎร์, โคราช) คาดว่าจะเซ็น EPC Contract และ Financial Close ภายในเดือนหน้า Target COD สิ้นปีหน้า
- Wind Farm: 150 MW Onshore (ฟิลิปปินส์) คาดว่าจะมีข้อตกลงกับ EPC เรียบร้อยภายใน 2-3 เดือนนี้ Timeline COD ตอนสิ้นปี
- Solar Fishery: 18.5 MW (ไต้หวัน) อาจ Slip ไปช่วงต้นปี 2027 สามารถเลือกขายไฟให้ Tai Power หรือ Corporate PPA
- Solar Farm: 150 MW (4 Locations ในไทย) และ Wind Farm อีก 2 ตัว (ภาคใต้ 16 MW) จะทยอย COD ในปี 2027 และ 2030
- Wind Farm Onshore: พินตุง (ไต้หวัน) COD ปี 2028 สามารถเลือกขายไฟให้ Tai Power หรือ Corporate PPA
เป้าหมาย: ภายในปี 2032 มี Target 1 GW และคาดว่าจะมาได้เร็วกว่าที่คาดการณ์
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 55:00]
สัดส่วนพลังงานหมุนเวียนของ SSP เป็นอย่างไร:
รายได้จากการขายและบริการเกือบ 95% มาจากการขายไฟฟ้าให้ภาครัฐ (ไทย, เวียดนาม, มองโกเลีย, ญี่ปุ่น) มีบางส่วนที่เป็น Solar Rooftop (Private PPA) และมีรายได้จากการทำ EPC บ้าง รวมถึงธุรกิจอื่น (Flexible Packaging) และการขาย Carbon Credit ซึ่งยังมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับรายได้จากการขายไฟฟ้า
SSP จะมี Deal M&A เพิ่มในปีนี้ไหม หรือในอีก 1-2 ปีข้างหน้า:
มองหาตลอด M&A เป็น Key หลักในการเติบโตในอนาคต
แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 และทิศทางการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 และเทียบกับไตรมาส 4:
ไตรมาส 1 ยังเป็น High Season ของลม
คำถามและคำตอบ:
สัดส่วนพลังงานหมุนเวียน
คำถาม: ปัจจุบันสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนของ SSP มีสัดส่วนเป็นอย่างไร?
คำตอบ: รายได้จากการขายและบริการ เกิน 95% เป็นรายได้จากการขายไฟฟ้าให้ภาครัฐในหลายประเทศ มีบางส่วนมาจาก Solar Rooftop และมีรายได้จากธุรกิจ EPC และ Carbon Credit บ้าง แต่ยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับรายได้จากการขายไฟฟ้า
แผน M&A ในอนาคต
คำถาม: SSP จะมี Deal M&A เพิ่มในปีนี้ไหม หรือในอีก 1-2 ปีข้างหน้า?
คำตอบ: มองหาโอกาส M&A ตลอดเวลา เพราะ M&A เป็น Key หลักในการเติบโตในอนาคต โดยมองทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขาย Asset เพื่อ Balance Leverage และเพิ่มอัตรากำไร
แนวโน้มผลการดำเนินงาน
คำถาม: แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 และทิศทางการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 และเทียบกับไตรมาส 4?
คำตอบ: ไตรมาส 1 ยังเป็น High Season ของลม แต่มีการปิดซ่อมบำรุง Wind Farm ในเวียดนามบ้าง คาดว่าทิศทางรายได้น่าจะเป็นบวกเมื่อเทียบ Year on Year กับไตรมาส 1 ปีก่อน
ภาพรวมทั้งปี 68 และเป้าหมายรายได้
คำถาม: ภาพรวมทั้งปี 68 รายได้จะเติบโตจากปีก่อนเท่าไหร่?
คำตอบ: แม้ว่า Adder จะหมด แต่คาดว่าจะมีปัจจัยบวกจากวินชัย การ Repowering ของ SPN และ COD ของ Rio 2 รวมถึงรายได้จากธุรกิจ EPC ที่จะช่วยให้รายได้เติบโตได้ คาดว่าการลงทุนปี 68 จะอยู่ที่ประมาณ 7-8 พันล้านบาท โดยจะลงทุนใน Waste to Energy, Solar Farm ในไทย, และ Wind Farm ในฟิลิปปินส์ โดยใช้ Green Bond เป็นแหล่งเงินทุน
โดยสรุป SSP ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนและมีการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ แม้จะมีปัจจัยกดดันจากภายนอกบ้าง แต่บริษัทก็ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตและพร้อมที่จะคว้าโอกาสเหล่านั้นไว้