สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) ปี 2567 และแนวโน้มในอนาคต (ฉบับปรับปรุง)

ปี 2567 ถือเป็นปีที่ SSP ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีเหตุการณ์สำคัญได้แก่ การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน, พลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวัน, การเข้าถือหุ้น วินชัย จำกัด เต็ม 100% และลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไต้หวันและฟิลิปปินส์ งบการเงินรวมแสดงให้เห็นรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการที่ 3,465.5 ล้านบาท (+12.8%) แต่กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 754.4 ล้านบาท แม้ว่ากำไรหลักจากการดำเนินงานอยู่ที่ 824.9 ล้านบาท แต่ก็ลดลง 4.3% จากปีที่แล้ว ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิคือการลดลงของรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากค่าไฟฟ้าผันแปรที่ลดลงและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากการลงทุนในโครงการใหม่

**สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง:**

* **สินทรัพย์รวม:** ณ 31 ธันวาคม 2567 สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 24,690.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% จากปี 2566 โดยส่วนใหญ่เป็นที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้า
* **หนี้สินรวม:** หนี้สินรวมอยู่ที่ 16,589.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.7% จากปี 2566 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืม
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 8,100.5 ล้านบาท ลดลง 4.3% จากปี 2566
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น:** เพิ่มขึ้นจาก 1.49 เท่า ในปี 2566 เป็น 2.05 เท่า ในปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงการใช้หนี้สินในการขยายธุรกิจ

บริษัทฯ มีแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตที่มุ่งเน้นการขยายพอร์ตโฟลิโอพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ การลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะชุมชนยังเป็นการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความหลากหลายของแหล่งรายได้ นอกจากนี้ การเข้าซื้อหุ้น วินชัย จำกัด เต็ม 100% ยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจพลังงานลม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน

**การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG):** SSP ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยได้รับคะแนนประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CG Scoring) ระดับ 5 ดาว และได้รับการคัดเลือกเป็น "หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings" ระดับ "AA" ประจำปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังส่งเสริมและยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล, สนับสนุนนวัตกรรม, และสร้างโอกาสการเข้าถึงพลังงานสะอาด

การวิเคราะห์ SSP ในฐานะโอกาสในการลงทุนต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายด้าน แม้ว่าราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 จะอยู่ที่ 5.68 บาท ซึ่งต่ำกว่าช่วงก่อนหน้า และ P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.91 ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความน่าสนใจในเชิงมูลค่า แต่การลงทุนใน SSP ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

**ความสัมพันธ์และการวิเคราะห์:**

* **รายได้และกำไร:** แม้ว่ารายได้รวมของ SSP จะเพิ่มขึ้น แต่กำไรสุทธิกลับลดลงเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น อัตราแลกเปลี่ยน
* **อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ:** ข้อมูลอัตรากำไรขั้นต้นไม่ปรากฏในข้อมูลที่ให้มา แต่อัตรากำไรสุทธิลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงของกำไรสุทธิ แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ อาจเผชิญกับความท้าทายในการรักษาระดับความสามารถในการทำกำไร
* **D/E Ratio:** อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 2.05 เท่า แสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จากหนี้สินในการขยายธุรกิจ นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับภาระหนี้สินที่สูงขึ้น
* **ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำไร:** ปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อกำไรของ SSP คือการลดลงของรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เนื่องจากค่าไฟฟ้าผันแปรที่ลดลงและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากการลงทุนในโครงการใหม่

**พัฒนาการสำคัญ:** การเข้าลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ, การได้รับการประเมินด้าน ESG ในระดับสูง, และการดำเนินโครงการเพื่อสังคม ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญของ SSP ในปี 2567

**อนาคตการลงทุน:** อนาคตของ SSP ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุน, การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่, การขยายธุรกิจไปยังโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง, และการรักษามาตรฐานด้าน ESG

**โอกาส:**

* การเติบโตของตลาดพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก
* การสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
* ศักยภาพในการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ
* การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่ดึงดูดนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับ ESG

**ความเสี่ยง:**

* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* ความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดพลังงาน
* ความเสี่ยงด้านการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ
* ภาระหนี้สินที่สูงขึ้น

โดยรวมแล้ว SSP เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว แต่การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงและโอกาสอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัท, สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ, ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง, และการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG