สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 ที่น่าสนใจ โดยมีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการเพิ่มขึ้นเป็น 845.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุสำคัญมาจากปริมาณการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้ของโครงการร่มเกล้าวินฟาร์มอย่างเต็มไตรมาส และโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลมีรายได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มีการปิดซ่อมบำรุงประจำปีในไตรมาสนี้ แม้ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยมีรายได้ลดลง เนื่องจากค่าไฟฟ้าผันแปร ("Ft") ที่ลดลง และกำลังการผลิตไฟฟ้าของโครงการรถมที่ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ) 113.7 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากไตรมาสก่อน และลดลง 48.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทฯ มีแผนธุรกิจในอนาคตคือ การขยายธุรกิจไปยังแหล่งพลังงานใหม่ ๆ เช่น โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จำนวน 2 โครงการ ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสุราษฎ์ธานี โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 9.9 เมกะวัตต์ และในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ และจากการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ

การวิเคราะห์ผลประกอบการของ SSP ในไตรมาสล่าสุดและข้อมูลทางการเงินย้อนหลัง ทำให้เห็นว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสล่าสุดจะลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ในระยะยาว บริษัทฯ มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ประมาณ 8 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 6 บาท P/E ล่าสุดอยู่ที่ 10.99 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ประมาณ 15 P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.98 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ประมาณ 2 ส่วน YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 1.79% D/E อยู่ที่ 2.13 ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทฯ มีหนี้สินค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานยังคงเป็นบวก และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ สะท้อนถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว SSP เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เพื่อรับผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจ

**ฐานะทางการเงินของ SSP**:
* ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 24,511.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% จากปีก่อน
* หนี้สินรวมเท่ากับ 16,678.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.4% จากปีก่อน
* ส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 7,833.3 ล้านบาท ลดลง 7.5% จากปีก่อน
* อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เท่ากับ 2.13 แสดงว่า บริษัทฯ มีหนี้สินสูง

**โอกาส**:
* บริษัทฯ มีแผนธุรกิจที่ชัดเจนในการขยายธุรกิจไปยังแหล่งพลังงานใหม่ ๆ เช่น โรงไฟฟ้าขยะชุมชน และโรงไฟฟ้าพลังงานลม
* บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ และจากการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ
* บริษัทฯ มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจพลังงาน

**ความเสี่ยง**:
* การแข่งขันในตลาดพลังงานหมุนเวียนสูงมาก
* การพึ่งพาการอนุมัติโครงการจากภาครัฐ
* การเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
* อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอาจผันผวน


**ข้อมูลเพิ่มเติม**:
* บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
* บริษัทฯ ได้รับคะแนนประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CG Scoring) ระดับ 5 (Excellent CG Scoring) ในปี 2567 สะท้อนถึงมาตรฐานการดำเนินงานที่โดดเด่น


**สรุป**: SSP เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว แต่มีหนี้สินค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เพื่อรับผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจ และยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผันผวนของตลาดและนโยบายภาครัฐ