SKN
บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุปสั้น

SKN ปี 67 กำไรสุทธิโต 47.10% รายได้รวม 3,664.23 ล้านบาท (+11.51% YoY) กำไรสุทธิ 624.81 ล้านบาท (+47.10% YoY) ยอดขายโตจาก FOB, ราคาค่าขนส่งเรือสูงขึ้น และดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการขายแบบ FOB SKN เผชิญความเสี่ยงจากราคาไม้และค่าเงินผันผวน, เน้นบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย

SKN: ปี 67 รายได้รวม 3,664.23 ล้านบาท (+11.51% YoY), Q4 รายได้รวม 1,099.55 ล้านบาท (+50.74% YoY) และกำไรสุทธิ 189.97 ล้านบาท (+88.03% YoY) การขายแบบ FOB ที่เพิ่มขึ้น ช่วยหนุนผลประกอบการ

SKN มีโครงการลงทุน 2 โครงการ โครงการ Craft and Paper และขยายไลน์ผลิต 3 (คาดเริ่มรับรู้รายได้ปี 2569) . ROE/ROA และ Current Ratio เพิ่มขึ้น (เทียบกับปี 2566) และ D/E ลดลง (หนี้สินลดลง) จากข้อมูล OPP Day


ผู้เขียน อจน. นุ้ย

สรุปด้วย AI(O) BOT

**บทสรุปผลประกอบการ บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (SKN)**

ในช่วงปี 2567 บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKN สามารถสร้างการเติบโตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลการดำเนินงานโดดเด่นเป็นพิเศษ บริษัทไม่มีการเปิดสาขาใหม่หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายแผ่นไฟเบอร์บอร์ดความหนาแน่นปานกลาง (MDF) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ข้อมูลจากงบการเงินรวมแสดงให้เห็นว่ารายได้จากการขายสำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้น 11.44% เมื่อเทียบกับปี 2566 และเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 51.08% ในไตรมาส 4 ปี 2567 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายโดยรวม โดยเฉพาะการขายสินค้าตามเงื่อนไขการขายแบบ FOB ที่มีปริมาณสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ราคาค่าขนส่งทางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้นก็มีส่วนทำให้รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย ในส่วนของรายได้อื่น ๆ ก็มีการเติบโตเช่นกัน โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น

บริษัทมีต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น 2.04% ในปี 2567 และ 36.73% ในไตรมาส 4 ปี 2567 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายและราคาวัตถุดิบไม้ที่ปรับตัวสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (22.49% ในปี 2567 และ 84.00% ในไตรมาส 4 ปี 2567) ซึ่งเป็นผลมาจากราคาค่าขนส่งทางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้นและการขายสินค้าตามเงื่อนไขการขายแบบ FOB ที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 12.35% ในปี 2567 และ 66.91% ในไตรมาส 4 ปี 2567 เนื่องจากการประมาณการค่าตอบแทนพนักงานที่สูงขึ้นและผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (44.74% ในปี 2567 และ 71.95% ในไตรมาส 4 ปี 2567) เนื่องจากบริษัททยอยคืนเงินต้นตามรอบการจ่ายชำระเงิน ส่งผลให้กำไรก่อนภาษีเงินได้สำหรับปี 2567 อยู่ที่ 689.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.59% เมื่อเทียบกับปีก่อน และกำไรสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 624.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต รวมถึงการคาดการณ์ที่สำคัญและการตั้งเป้ารายได้หรือยอดขาย (Outlook) นั้น ไม่มีข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในเอกสารที่ให้มา ดังนั้น การวิเคราะห์ในส่วนนี้จึงเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 โดยเฉพาะในไตรมาส 4 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัท SKN อย่างต่อเนื่องในอนาคต

การพิจารณาว่า SKN เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้านประกอบกัน แม้ว่าราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 จะอยู่ที่ 5.45 บาท ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี แต่การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างรายได้ กำไร อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของกำไรในอนาคต

* **รายได้และกำไร:** การที่รายได้และกำไรสุทธิของ SKN เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันและความต้องการของตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท
* **อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ:** ข้อมูลอัตรากำไรขั้นต้นไม่ได้ถูกระบุไว้โดยตรง แต่การที่กำไรสุทธิเติบโต แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** ข้อมูล D/E ที่ค่อนข้างต่ำ (0.18) แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ และมีศักยภาพในการกู้ยืมเพิ่มเติมเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต
* **P/E และ P/BV:** P/E ล่าสุดอยู่ที่ 8.88 และ P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 1.18 บ่งชี้ว่าหุ้น SKN อาจไม่ได้มีราคาแพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับกำไรและมูลค่าทางบัญชีของบริษัท
* **YIELD:** YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 3.53% ซึ่งอาจเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้จากเงินปันผล

**โอกาส:**

* การเติบโตของตลาดแผ่นไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ (MDF) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
* การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ
* ความเสี่ยงทางการเงินต่ำ (D/E ต่ำ)
* ศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคต

**ความเสี่ยง:**

* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ (ไม้) และค่าขนส่ง
* ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
* การแข่งขันในตลาด MDF ที่สูง
* ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อความต้องการของตลาด

โดยสรุป SKN เป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท และควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน


รายได้รวม
1,088.32 ล้านบาท
148.26ล้านบาท
(15.77%)
ไตรมาสก่อนหน้า
364.73ล้านบาท
(50.41%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
409.64 ล้านบาท
85.26ล้านบาท
(26.28%)
ไตรมาสก่อนหน้า
185.88ล้านบาท
(83.07%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
37.64 ล้านบาท
3.13ล้านบาท
(9.07%)
ไตรมาสก่อนหน้า
6.72ล้านบาท
(21.73%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
193.60 ล้านบาท
10.26ล้านบาท
(5.60%)
ไตรมาสก่อนหน้า
85.26ล้านบาท
(78.70%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
17.79 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
189.97 ล้านบาท
58.60ล้านบาท
(44.60%)
ไตรมาสก่อนหน้า
88.94ล้านบาท
(88.03%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
17.46 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
D/E
0.21 เท่า
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
453.97 ล้านบาท
395.53ล้านบาท
(676.81%)
ไตรมาสก่อนหน้า
220.85ล้านบาท
(94.74%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล