สรุป OPPDAY หุ้น SKE
Oppday
สรุป OPPDAY
SKE ก้าวสู่ปี 2569: พลิกกลยุทธ์ เพิ่มกำไรด้วยนวัตกรรมพลังงานสะอาด
สวัสดีครับ ผมจักพงษ์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ SKE และคุณนภาพร สาธิตธรรมพร CFO วันนี้เราจะมาเล่าถึงกิจกรรม ทบทวนการดำเนินธุรกิจ และผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 รวมถึงช่องทางการติดตาม SKE ครับ
ไฮไลท์ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา คือการลงนามโครงการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ก่อสร้างและบริหารจัดการระบบกำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจรของเทศบาลเมืองปากพนัง เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจให้ครอบคลุมการจัดการขยะตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างเป็นระบบ SKE ได้รับความไว้วางใจให้เป็นเอกชนดำเนินการในพื้นที่ปากพนัง ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนผ่านการจัดการขยะและของเสียที่ไม่เป็นอันตราย และลดปัญหาในพื้นที่ที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี
อีกส่วนหนึ่งคือ บมจ.แม่กระทิง เพาเวอร์ ได้รับรางวัลโครงการรับรองคาร์บอนเครดิตประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แม่กระทิงสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 94,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราภาคภูมิใจที่ได้ช่วยขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ภาพรวมธุรกิจ SKE Group
- SKE: ปรับบทบาทเป็นผู้บริหารจัดการงานภายในกลุ่มบริษัท และมุ่งเน้นการลงทุนที่มีศักยภาพในการเติบโต
- แม่กระทิง เพาเวอร์: โรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 9.9 MW ดำเนินการขายไฟเข้าระบบปีที่ 7
- N15 เทคโนโลยี: บริหารจัดการของเสียหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย โดยผ่านการคัดแยกและผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ปัจจุบันมี 2 โรงงานหลัก และมีสัญญากับเทศบาลปากพนัง
- แวนต้า แคปปิตอล: ดำเนินธุรกิจด้าน Financial Technology ที่พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์
Financial Highlight ไตรมาส 3 ปี 2568
- รายได้รวม 81 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักมาจาก MKP (ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล) 83% และ N15 14%
- MKP มีรายได้ 67.31 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 13.2% เนื่องจากการ Shutdown เพื่อซ่อมบำรุง
- N15 มีรายได้ 11.6 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 44.8% เนื่องจากการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ
วิเคราะห์รายได้ MKP (โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง)
- หน่วยขายไฟลดลงจาก 16.61 เป็น 14.4 ล้าน kWh เนื่องจากจำนวนวัน Shutdown เพิ่มขึ้นจาก 4 เป็น 15 วัน
- รายได้ลดลงจาก 77.5 เป็น 67.3 ล้านบาท
วิเคราะห์รายได้ N15 เทคโนโลยี
- ปริมาณการรับกำจัดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1,246 เป็น 1,318 ตัน/เดือน
- ปริมาณการผลิตและจำหน่าย RDF ลดลงจาก 3,700 เป็น 1,807 ตัน/เดือน เนื่องจากการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจเป็นการอบลดความชื้น
- รายได้รวมลดลงจาก 21 เป็น 11.6 ล้านบาท
Financial Highlight ภาพรวม
- รายได้รวมลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 91.5 เป็น 81 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีรายได้จากการให้บริการอัดก๊าซของสถานีปทุมธานีที่ถูกยกเลิกสัญญาไป และไม่มีรายได้ One-time เหมือนปีก่อน
- กำไรขั้นต้นลดลงจาก 15 เหลือ 0.8 ล้านบาท เนื่องจากการยกเลิกการให้บริการสถานีอัดก๊าซธรรมชาติ
- EBITDA ติดลบ 5.2 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 70.7 ล้านบาท
- Net Profit ขาดทุน 44 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 57.7 ล้านบาท
- สินทรัพย์รวมลดลงจาก 1,869 เหลือ 1,564 ล้านบาท
- หนี้สินรวมลดลงจาก 930 เหลือ 755 ล้านบาท
- Total Equity ลดลง 129 ล้านบาท
สรุปสถานะการเงิน
- สินทรัพย์หลักคือ ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร
- มีแผน Utilize, ขาย, หรือให้เช่าสินทรัพย์
- เป้าหมายคือการเพิ่ม ROA
[เริ่ม Q&A Session นาทีที่ 27:50]
คำถามและคำตอบ
- หัวข้อ: เงินเบิกเกินบัญชี (OD)
- คำถาม: เงินเบิกเกินบัญชีของบริษัทเพิ่มจาก 28 ล้านเป็น 191 ล้าน มาจากส่วนไหน?
- คำตอบ: ไม่ใช่เฉพาะ OD แต่เป็นวงเงินระยะสั้นรวม OD และ BE (ตั๋วแลกเงิน) มีการออก BE จำนวน 88 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็น OD ประมาณ 12 ล้านบาท BE จะครบกำหนดเดือนสิงหาคมปีหน้า (2570)
- หัวข้อ: แผนปรับโครงสร้างหนี้
- คำถาม: (ไม่มีคำถามโดยตรง แต่เป็นการเสริมข้อมูลจากผู้บริหาร)
- คำตอบ: มีแผนเปลี่ยนวงเงินระยะสั้นเป็นระยะยาว (Term Loan) โดยส่งข้อมูลให้สถาบันการเงินพิจารณา และเมื่อวานนี้ ( Exim ที่ไปร่วมโครงการและรับประกาศนียบัตรในเรื่องของ CAC ซึ่งอาจเป็นอีกช่องทางในการพิจารณาวงเงินเพื่อปรับโครงสร้างต้นทุนทางการเงินของกลุ่มบริษัทในปีหน้า
- หัวข้อ: ค่าเสื่อมราคาโรงงาน RDF
- คำถาม: บริษัทตั้งค่าเสื่อมราคาของโรงงาน RDF ที่กี่ปี?
- คำตอบ: ไม่เท่ากันหมด ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ เช่น อาคารถ้า 20 ปี เครื่องจักรตามอายุการใช้งานจริงที่ประเมิน ในภาพรวมคือ 10-20 ปี และแตกต่างกันไปตามประเภทของสินทรัพย์ ใช้หลักเกณฑ์บัญชีเท่าที่จะสามารถบริหารจัดการได้ ใช้ตัวอายุการให้ประโยชน์ของสินทรัพย์ Base on ไม่ได้ Base on ตามสรรพากร
- หัวข้อ: การแข่งขันในธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม
- คำถาม: บริษัทรายใหญ่หลายรายลงทุนใน Holding แห่งหนึ่ง และบริษัทค้าปิโตรเคมีน้ำมันเบอร์ 2 ก็ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า?
- คำตอบ: อันนี้คือโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมที่ได้รับ Award ไปแล้วเตรียมจะ COD ในปี 2570 (100 MW) คงไม่ได้ไปแข่งขันอะไรแล้ว อยู่ใน Supply Chain มากกว่า ส่ง RDF เพื่อส่ง RDF ขายให้กับกลุ่มโรงไฟฟ้า ตอนนี้ตั้งเป้าที่ภาคตะวันออก (40 MW) จะเป็นการใช้ RDF ประมาณ 750,000 ตัน/ปี (ประมาณการ) ไม่ใช่มาจาก SKE ทั้งหมด ส่วนของ SKE เองน่าจะรองรับการขายได้ประมาณ 30,000-50,000 ตัน/ปี เป็นความพยายามที่จะส่งเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม คิดว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางการขาย เพราะในอดีตส่ง RDF ไปยังภาคกลางซึ่งใช้งานในปูนซีเมนต์เป็นหลัก ปัจจุบันพอมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะอุตสาหกรรมทำให้มีทางเลือกมากขึ้น
- หัวข้อ: สินทรัพย์กลุ่มธุรกิจอัดก๊าซ
- คำถาม: (ไม่มีคำถามโดยตรง แต่เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก CFO)
- คำตอบ: สินทรัพย์ที่เหลือส่วนใหญ่คือ ที่ดินของสถานี และเครื่องจักร มีการศึกษาโอกาสทางธุรกิจว่าจะนำเครื่องจักรไปใช้ต่อยอดธุรกิจอื่น ๆ กับพันธมิตรได้อย่างไรบ้าง ยังไม่ได้ปิด Option ในการขายหรือให้เช่า ยังเดินค่าเสื่อมราคาอยู่ เพราะมองว่ายังมีโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรในการต่อยอดทางธุรกิจจากการใช้เครื่องจักร โดยภาพรวมคือ พิจารณานำไปต่อยอดธุรกิจใหม่ที่นอกเหนือจาก PMS มี Option ขาย และให้เช่าด้วย
- หัวข้อ: ค่าใช้จ่ายในการหยุดผลิต RDF
- คำถาม: บริษัทประเมินค่าใช้จ่ายการหยุดผลิต RDF ที่เท่าไหร่?
- คำตอบ: ไม่ได้หยุดการทำธุรกิจ แต่ปรับการทำงานใหม่จากการผลิตเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิงโดยการลดความชื้น ยังไม่ได้ประเมินเรื่องการหยุดทำธุรกิจ แต่ค่าใช้จ่ายในภาพรวมจะลดลง เช่น ค่าซ่อมแซมเครื่องจักร เนื่องจากกระบวนการผลิตสั้นลง (เหลือแค่การอบ) ค่าใช้จ่ายพนักงานก็ลดลง เพราะไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานในทุก Process ของการผลิต และต้นทุนเชื้อเพลิงขยะก็จะลดลง ในทางเดียวกัน รายได้ก็ลดลง เพราะการรับจ้างอบลดความชื้นรายได้จะอยู่ระดับประมาณ 500++ บาท/ตัน
- หัวข้อ: ผลกระทบต่อสัญญาที่มีกับปูนซีเมนต์
- คำถาม: ถ้าไม่ผลิตเชื้อเพลิง RDF แล้ว สัญญาที่ทำกับปูนซีเมนต์จะกระทบหรือไม่?
- คำตอบ: ต้องหารือในเรื่องของการทำสัญญาใหม่ และสัญญาเก่าที่มีอยู่ก็คงต้องหารือเพื่อทบทวนในเรื่องของการยกเลิกหรือให้หยุดไป โดยที่ไม่ได้มีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะต้อง Settlement ในเรื่องของสัญญาที่ปิด ซึ่งก็ได้พูดคุยไปแล้ว ดำเนินการอยู่ ถ้ามีความคืบหน้าในปีหน้าคงต้องมาแจ้งให้ฟังว่าสัญญาเก่าจัดการแบบไหน และสัญญาใหม่ที่ได้รับมามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
- หัวข้อ: ความคืบหน้าโครงการปากพนัง
- คำถาม: (ไม่มีคำถามโดยตรง แต่เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติม)
- คำตอบ: COD เดือน 8 โดยประมาณของปี 2569 มีกรอบเวลาในการก่อสร้างมากกว่านั้น คือ 12 เดือนหลังจากการลงนาม ซึ่งก็จะเป็นพฤศจิกายน แต่ในเป้าหมายต้องการให้การก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรเสร็จเร็วกว่าแผน ซึ่งเสร็จเร็วกว่าก็ดี ได้รับรู้รายได้เร็ว ดังนั้นน่าจะเป็นช่วงเดือน 7-8 ที่จะ COD ได้
- หัวข้อ: Business Update
- คำถาม: (ไม่มีคำถามโดยตรง แต่เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติม)
- คำตอบ: เน้น Strategy ที่เป็นต้นน้ำและกลางน้ำ ต้นน้ำคือ โครงการ PPP กับเทศบาลปากพนัง คือเข้าไปดูแลเรื่องของการคัดแยก และผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ส่งให้กับโรงงานปูนซีเมนต์ในทางภาคใต้ กลางน้ำ วันนี้แม้ว่าจะไม่ได้ผลิตแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในห่วงโซ่อุปทาน ในการปรับเชื้อเพลิงให้มีคุณภาพสูงขึ้น ปรับปรุงคุณภาพเชื้อเพลิงให้มีคุณภาพสูงขึ้น โดยการลดความชื้น และเพิ่มค่าความร้อนให้กับ RDF
- หัวข้อ: Corporate Channel
- คำถาม: (ไม่มีคำถามโดยตรง แต่เป็นการให้ข้อมูลช่องทางการติดตามบริษัท)
- คำตอบ:
- โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง: เว็บไซต์, Facebook
- N15: เว็บไซต์, Facebook (กลับมา Activate เพจอีกครั้ง)
- แวนต้า: Company Website
- SKE: Company Website, Facebook
- หัวข้อ: แผนการบริหารสินทรัพย์ (เพิ่มเติม)
- คำถาม: (ไม่มีคำถามโดยตรง แต่เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก CFO)
- คำตอบ: สำหรับการบริหารสินทรัพย์ สินทรัพย์หลัก ๆ คือ ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร มีแผน 3 อย่าง คือ Utilize: นำมาใช้ในกระบวนการผลิต หรือต่อยอดธุรกิจ ขาย: เปิดกว้าง (มีผู้สนใจสอบถามที่ดินบางส่วน) ให้เช่า: ยินดีให้พันธมิตรที่อยากจะเข้ามาร่วมมือกันเช่า Asset เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ
สรุปภาพรวมและทิศทางในอนาคต
- เน้นธุรกิจต้นน้ำและกลางน้ำ
- ปีหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ SKE
- จัดแผนในกลยุทธ์ turn around เพื่อกลับมาทำกำไร
- จัดการสินทรัพย์ให้เหมาะสม และสะท้อนผลการทำงานที่แท้จริง
- คาดการณ์ปีหน้า ธุรกิจจะมีกำไรขั้นต้นและ EBITDA ที่ดีขึ้น
- ให้ความสำคัญกับกระแสเงินสด
ในภาพรวม SKE กำลังดำเนินกลยุทธ์เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจ โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การจัดการต้นทุน และการสร้างรายได้จากธุรกิจพลังงานสะอาดและจัดการของเสียอย่างครบวงจร
สุดท้ายนี้ จากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยดี SKE ขอเป็นกำลังใจให้และดูแลสุขภาพกันด้วย