สรุปงบล่าสุด SIAM
บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ SIAM ผลประกอบการไตรมาส 3/2567: ลดลงแต่มีสัญญาณน่าสนใจ
บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ SIAM ในไตรมาส 3/2567 รายงานผลประกอบการมีรายได้รวม 486 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ถึง 37% เนื่องจากรายได้จากกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และกลุ่มอาคารสำเร็จรูปอเนกประสงค์ลดลง โดยเฉพาะรายได้จากการขายเฟอร์นิเจอร์ อาคารสำเร็จรูปอเนกประสงค์ และผนังกันน้ำในประเทศ ซึ่งลดลงถึง 47% ขณะเดียวกัน SIAM มีแผนพัฒนาบุคลากรด้านการตลาดและการผลิต รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต
แผนธุรกิจและกลยุทธ์ของ SIAM เน้นการสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจเดิม โดยปรับปรุงกระบวนการผลิตและพัฒนาสินค้าใหม่ รวมทั้งขยายสู่ตลาดต่างประเทศ บริษัทคาดหวังว่าการพัฒนาเหล่านี้จะผลักดันให้รายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต อีกทั้งธุรกิจพลังงานทดแทนเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของ SIAM แม้ลดลง แต่มีสัญญาณน่าสนใจจากแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการล่าสุดสะท้อนถึงความพยายามของบริษัทในการปรับตัวและสร้างการเติบโตในระยะยาว เมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง SIAM มี **D/E ต่ำกว่า 1** สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสในการกู้ยืมเงินได้ง่ายขึ้นหากต้องการขยายธุรกิจ **P/E ที่ -100** แสดงถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ต่ำ แต่ก็อาจเป็นโอกาสในการลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน **P/BV เท่ากับ 0.26** หมายถึงราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้น ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนแบบ Value Investing อย่างไรก็ตาม **YIELD 0.9%** ถือว่าไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นรับเงินปันผล
**นอกจากนี้ SIAM ยังมีสภาพคล่องที่ดี** ณ ไตรมาส 3/2567 มีเงินสดคงเหลือ 317 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2566 11% โดยกระแสเงินสดส่วนใหญ่ใช้ไปกับการชำระหนี้จากโครงการก่อสร้าง ชำระเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น-บริษัททั่วไป และ การเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าจากการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง กระแสเงินสดส่วนใหญ่ได้มาจากเงินปันผลรับ และใช้ไปกับการชำระหนี้สินตามสัญญาเช่าและการจ่ายเงินปันผล **อัตราส่วนทางการเงินสะท้อนสภาพคล่องที่ดี** อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจาก 1.65 เท่า ณ ไตรมาส 3/2566 เป็น 1.71 เท่า ณ ไตรมาส 3/2567 และอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนเร็วเพิ่มขึ้นจาก 0.88 เท่า ณ ไตรมาส 3/2566 เป็น 1.08 เท่า ณ ไตรมาส 3/2567 **แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ ไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 0.27 เท่า ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ที่ 0.30 เท่า
**โอกาส**
* **การขยายตลาดต่างประเทศ:** บริษัทมีแผนขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคต
* **การลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน:** บริษัทมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงและสร้างรายได้ที่มั่นคง
* **ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง:** D/E ต่ำกว่า 1 ทำให้บริษัทมีโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น
* **สภาพคล่องที่ดี:** อัตราส่วนทางการเงินสะท้อนสภาพคล่องที่ดี แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้และบริหารจัดการเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
**ความเสี่ยง**
* **การแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์และอาคารสำเร็จรูป:** ตลาดเฟอร์นิเจอร์และอาคารสำเร็จรูปมีการแข่งขันสูง
* **การขึ้นราคาต้นทุนวัตถุดิบ:** บริษัทอาจได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาต้นทุนวัตถุดิบ
* **การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์:** บริษัทต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์และความต้องการของลูกค้า
* **ความผันผวนทางการเมือง:** การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของภาครัฐและความไม่แน่นอนในภาคอุตสาหกรรม
* **ความผันผวนของตลาดต่างประเทศ:** การฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อคําสังซื้อสินค้า
* **ราคาวัตถุดิบ:** ราคาเหล็กที่ผันผวนอาจส่งผลต่อคําสังซื้อและตั้นทุนการผลิต
* **อัตราแลกเปลี่ยน:** อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินตราสกุลต่างประเทศที่แข็งค่าอาจส่งผลต่อยอดขายและความสามารถในการแข่งขัน
โดยสรุป SIAM เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินและมีแผนธุรกิจที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการขยายสู่ตลาดต่างประเทศและธุรกิจพลังงานทดแทน แต่ก็ต้องติดตามความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดและการขึ้นราคาต้นทุนวัตถุดิบอย่างใกล้ชิด SIAM เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบ Value Investing ที่มองหาโอกาสในระยะยาวหรือ Value Investor ที่มองหาโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน
(20.50%)
(36.71%)
(201.67%)
(23.97%)
(150.54%)
(20.10%)
(14.19%)
(3.71%)
(114.96%)
(52.47%)
(231.90%)
(80.91%)