SAWAD
บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday SAWAD: เจาะลึกกลยุทธ์ปี 2567 มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน กลุ่มศรีสวัสดิ์ประกอบกิจการการให้สินเชื่อรายย่อย ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1979 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้สินเชื่ออยู่ในแวดวงการให้สินเชื่อมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มจากการให้สินเชื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์

การเปลี่ยนแปลงสำคัญในช่วงปี 2014 - 2023

  1. ปี 2014: นำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
  2. ปี 2021: ขายหุ้น 50% ในบริษัทเงินสดทันใจให้กับธนาคารออมสิน เพื่อร่วมสนับสนุนสังคมไทยและลดราคาดอกเบี้ย
  3. ปี 2023: ซื้อหุ้นคืนจากธนาคารออมสิน ทำให้กลุ่มสวัสดิ์ถือหุ้นในเงินสดทันใจ 100%

การซื้อขายหุ้นดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงที่ทำไว้กับธนาคารออมสิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมช่วยเหลือสังคมไทยหลังวิกฤต COVID-19 พอร์ตของเงินสดทันใจในวันที่ร่วมทุนครั้งแรกอยู่ที่ 6-7 พันล้านบาท และในวันที่ซื้อกลับมาอยู่ที่ 16,000 - 18,000 ล้านบาท

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อการเปรียบเทียบตัวเลขในงบการเงิน เนื่องจากกลุ่มบริษัทไม่ได้นำตัวเลขของเงินสดทันใจมารวมในงบการเงินรวมในช่วงที่ถือหุ้นร่วมกับธนาคารออมสิน

ธุรกิจใหม่และการให้สินเชื่อ

  • ปี 2022: เริ่มธุรกิจใหม่ ให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่

กลุ่มศรีสวัสดิ์มุ่งเน้นการให้สินเชื่อแบบมีหลักประกัน โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (Auto Back Loan) สำหรับรถยนต์, มอเตอร์ไซค์, รถสิบล้อ, และรถบรรทุก นอกจากนี้ยังมี Land for Cash (สินเชื่อจำนำบ้านและที่ดิน) และสินเชื่อ unsecured loan (3% ของงบการเงินรวม) ซึ่งยังไม่มีแผนที่จะขยายพอร์ตในเร็ว ๆ นี้

ธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่ (S Capital) มีเจ้าหน้าที่ให้บริการที่ดีลเลอร์รถมอเตอร์ไซค์ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการซื้อรถใหม่

บริษัทให้สินเชื่อผ่านบริษัทลูก เช่น เงินสดทันใจ และ S Capital โดย S Capital มีศรีสวัสดิ์ถือหุ้น 72% และประกอบกิจการผ่าน S Leasing และ Car Credit Leasing รวมถึงมีหน่วยเล็ก ๆ ในประเทศกัมพูชา

P Lending เป็นเพียง license ที่ไม่มีสาระสำคัญในงบการเงิน นอกจากนี้ยังมีศรีสวัสดิ์ 2014 และ 2022 ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในการจำนำทะเบียนรถและให้สินเชื่อแบบมีหลักประกัน มี Know-how ระบบ IT และเป็นเจ้าของสาขาทั่วประเทศกว่า 6,000 สาขา

ศรีสวัสดิ์ Digital เตรียมพร้อมรองรับการให้สินเชื่อออนไลน์ในอนาคต และมีกลุ่ม AMC ที่ซื้อ NPL และ NPA มาบริหาร รวมถึงมี Holding เล็ก ๆ ที่ลงทุนในต่างประเทศ (เวียดนาม)

กลุ่มศรีสวัสดิ์มีการแบ่งแยก Product ค่อนข้างชัดเจน โดยบริษัทแม่จะดำเนินการในส่วนของการให้สินเชื่อแบบมีหลักประกัน (จำนำทะเบียนรถ, Land for Cash) และ AMC (Bad Debt Management) ส่วนธุรกิจนายหน้าขายประกัน กลุ่มบริษัทเพิ่งได้รับอนุมัติ License ขายประกันออนไลน์จาก คปภ.

S Capital จะโฟกัสที่ unsecured loan และเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ โดย unsecured loan มีสัดส่วน 3% ของงบการเงินรวม และ secured loan (เช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่) มีสัดส่วน 30%

ปีนี้คาดว่าทั้งกลุ่มงบ Consol จะเติบโต 10-15% โดยเน้นที่ Core Business คือการให้สินเชื่อแบบมีหลักประกัน กลุ่มบริษัทมองว่าการให้สินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่อาจมุ่งเน้นคุณภาพเป็นพิเศษ และมุ่งเน้นคุณภาพสินทรัพย์ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก

การเติบโตของ Loan Portfolio จะอยู่ในช่วง 10-15% และ Credit Cost คาดว่าจะกลับมา normalize ที่ 180-200 basis points NPL น่าจะคงที่ที่ 3-4%

คปภ. อนุมัติ License ขายประกันออนไลน์ให้กับกลุ่มบริษัท คาดว่าจะเห็นการเติบโตของธุรกิจนายหน้าขายประกัน 30-40%

ปีที่แล้วเปิดตัวศรีสวัสดิ์ Application ให้ลูกค้าชำระค่างวด ตรวจสอบเอกสาร และ Interact กับบริษัทได้ง่ายขึ้น รวมถึงสนับสนุน ESG โดยพยายาม Move บริษัทไปสู่ Paperless

สิ้นสุดปี 2024 มีสาขา 5,695 สาขา กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย และคาดว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 200-300 สาขาในปี 2025 โดยเน้นพัฒนา Tablet ของพนักงานให้เป็นสาขาเคลื่อนที่

ภาพรวมตลาดมีรถจดทะเบียน 44.96 ล้านคัน และกลุ่มสวัสดิ์มีลูกค้าเกือบ 2 ล้านบัญชี คาดว่าจะค่อย ๆ เพิ่มสัดส่วนของลูกค้าและจำนวนบัญชี โดยเน้น Conservative ในส่วนของ Loan to Value

การดำเนินธุรกิจจะเน้น Conservative และ Control ความเสี่ยงผ่าน Loan to Value และ Diversify ความเสี่ยง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อรายย่อย มีการทำงานผ่านสาขาทั่วประเทศ และช่วยเหลือลูกค้าในกรณีเกิดภัยพิบัติ

กลุ่มบริษัทไม่ได้ลังเลที่จะร่วมช่วยลูกค้าในทุกภูมิภาค และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสังคมไทยและลูกค้ามาตลอด

สื้นสุดงบการเงินไตรมาส 4 ของปี 2024 สินทรัพย์รวมลดลง 4,000 ล้านบาทเนื่องจากเน้นนโยบาย Conservative โดยเฉพาะ Loan to Value หลัก ๆ จะลดลงในส่วนของหน่วยธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่ ซึ่งเป็นไปตาม Norm ของ Industry หนี้สินโดยรวมลดลง 8,000 ล้านบาท และ Debt to Equity Ratio ลดลงเหลือ 1.9 เท่า

12 เดือนปี 2024 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 5,246 ล้านบาท และพยายามทำความสะอาดงบการเงิน โดย Clean สินทรัพย์รอการขายและลูกหนี้ที่อาจมีความเสี่ยง

กลุ่มศรีสวัสดิ์มี Debt to Equity Ratio ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับ Peers ในกลุ่ม Non-Bank แสดงถึงความมั่นคงในฐานทุน

Net Profit อาจ Drop ลงจากปีที่แล้วเล็กน้อยเนื่องจาก Loss on Sales แต่คาดว่าจะใกล้สิ้นสุดแล้ว

ROE ลดลงเนื่องจาก Equity ใหญ่ขึ้นจากการ Recap ทุกอย่างเข้า Equity แต่บริษัทมีเป้าหมายที่จะ Maintain Debt to Equity Ratio ให้อยู่ในช่วง 1.7-2 เท่า และจะพิจารณา ROE ในการบริหารจัดการบริษัท

NPL อยู่ที่ 3.58% อาจดูเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 เล็กน้อย แต่ Absolute Number ของ Stage 3 งบการเงินรวมไม่ได้เพิ่มขึ้น บริษัทบริหารจัดการได้ และ Provision ที่ 60% เพียงพอแล้วเนื่องจาก 97% ของสินทรัพย์มีหลักประกัน

Cost of Fund อาจเหวี่ยงเนื่องจาก Liabilities ลดลงและการใช้เงินกู้ลดลง รวมถึงพอร์ตหดตัว แต่เชื่อมั่นว่าปีนี้ Yield จะสูงขึ้นจากการกลับมาโตพอร์ตหลัง Clean Balance Sheet เสร็จ ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้รับการปรับ Rating จาก 3B+ เป็น A- จาก Fitch และ KTB ลด Benchmark Rate คาดว่าจะทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง

Portfolio Mix ค่อนข้างคงเดิม โดย 70% เป็นสินทรัพย์แบบมีหลักประกัน และ Loan to Value ลดลง 5% เทียบกับปี 2022 คุณภาพของสินทรัพย์ค่อนข้างคงเดิม ลูกค้าปกติ (Stage 1) 86% Stage 2 10.6% และ NPL 3.58%

ในช่วงท้าย มีช่วงถาม-ตอบกับนักลงทุน

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [00:40:33]

มุมมองการปล่อยสินเชื่อ

บริษัทจะเติบโตพอร์ตสินเชื่อโดยมุ่งเน้นที่คุณภาพเป็นหลัก และปรับ Loan to Value ให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ

Loan Demand

Demand ในการใช้สินเชื่อของ Non-Bank เพิ่มขึ้น แต่ Non-Bank ทุกคนเพิ่มความ Conservative ในการปล่อยสินเชื่อให้สอดคล้องกับภาพ Macro

Rating

บริษัทมีนโยบายให้ S Capital Explore ว่ามีทางไหนที่จะประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายได้มากขึ้นหรือไม่ รวมถึงการเปลี่ยน Rating Agency

NPL ที่ปรับขึ้น

NPL ที่ดูเหมือนจะปรับขึ้นมาจากพอร์ตของบริษัทที่ลดลง แต่ตัวเลข Stage 3 ดูเหมือนจะคงเดิม

เป้าหมาย NPL

บริษัทจะ Maintain NPL ที่ประมาณ 3-4%

พอร์ตสินเชื่อหดตัว

บริษัทลูกหดตัวหลัก ๆ มาจากหน่วยธุรกิจเช่าซื้อที่มีความ Conservative มากขึ้น

ลดการปล่อยจากปัญหาสภาพคล่อง?

สิ้นสุดเดือน 12 บริษัทมีเงินในบัญชีธนาคาร 5,000 ล้านบาท และ Credit Facility ที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีก 6,000 ล้านบาท สภาพคล่องเพียงพอ และกำลังพยายามหาช่องทางใหม่ที่เหมาะสมกับ Credit Rating ที่เปลี่ยนไปเพื่อประหยัดต้นทุนในการจ่าย

การกู้ยืมเงินจากบุคคลภายนอกใน Note 17

การกู้ยืมเงิน 500 ล้านบาทจากบุคคลภายนอก เป็นการซื้อ BE ของกลุ่มครอบครัว เป็นการลงทุนปกติ ผ่านกฎข้อกำหนด และยังไม่ครบกำหนด บริษัทไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และอยากให้นักลงทุนมองในประเด็นว่ากลุ่มครอบครัวมั่นใจในบริษัท

รายได้จากนายหน้าค่าประกัน

รายได้จากนายหน้าค่าขายประกันอยู่ที่ 1,000 กว่าล้านบาท และปีนี้มีแผนจะเติบโตอีก 30% โดยจะได้รับจาก E-License ที่ คปภ. เพิ่งอนุมัติ