SAT
บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday SAT (สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี) ไตรมาส 4 ปี 2567: โอกาสและความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SAT) จัดงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 4 ปี 2567 โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมนำเสนอข้อมูลและตอบข้อซักถาม

สัดส่วนผู้ถือหุ้น: สมบูรณ์ โฮลดิ้ง และตระกูลกีตาพานิชถือหุ้นมากกว่า 40%, Thai NVDR 9%, และนักลงทุนสถาบันและรายย่อย 48%

ภาพรวมกลุ่มบริษัท: กลุ่มบริษัทที่ SAT ถือหุ้นมากกว่า 50% เป็นธุรกิจหลัก (core business) ได้แก่ สมบูรณ์ฟอร์จจิ้งเทคโนโลยี (กระบวนการขึ้นรูป), International Casting Product (ICP) (งานหล่อ), สมบูรณ์โมลบิลไอออนอินดัสเตรียล (แมชชีนนิ่ง), และสมบูรณ์แอดวานซ์อะกริคัลเจอร์ (SAA) (ผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับแทรกเตอร์)

ผลประกอบการปี 2567: รายได้รวม 7,429 ล้านบาท (ลดลงจากปี 2566), กำไร 701 ล้านบาท (ลดลงจากปี 2566), EBITDA 1,328 ล้านบาท

สัดส่วนผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับรถปิคอัพและ Commercial Vehicle 68%, แทรกเตอร์ 20%, Passenger Car 11%

รายได้รวมของบริษัทลดลงจากปี 2023 เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบ

กำไรสุทธิและ EBITDA ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2023

สัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรถปิคอัพและ Commercial Vehicle ยังคงเป็นส่วนใหญ่

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจด้วยผลิตภัณฑ์และบริการด้านวิศวกรรมชั้นนำ พร้อมสร้างความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่ทันสมัยกับความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม

แผนธุรกิจระยะ 5 ปี: สร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์หลัก, ขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ, และดำเนินงานภายใต้ปรัชญา "3 สมบูรณ์ สร้างสมดุล" (คนสมบูรณ์ ธุรกิจสมบูรณ์ ชุมชนสมบูรณ์)

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่: พัฒนา Future Product ที่เกี่ยวข้องกับรถ EV, ขยายไปสู่ธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มรายได้

ความร่วมมือทางธุรกิจ: JV กับ Mubier (เยอรมนี), เสี่ยซาน (จีน), และตอนอี (ไต้หวัน)

มีโอกาสในการเติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร (แทรกเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง)

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอยู่ในช่วง transition และ transformation

ปัจจัยเสี่ยง: Automotive trend และเทคโนโลยี (การเปลี่ยนไปสู่ EV), สภาพเศรษฐกิจ, Trade War และ War, นโยบายต่างๆ ของประเทศคู่ค้า, และการเคลื่อนย้าย supply chain

ตลาดในประเทศยังมีความท้าทายจากหนี้สินครัวเรือนที่สูง

มีความไม่แน่นอนจากนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับภาษีและมาตรการทางการค้าของสหรัฐอเมริกา

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักและขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ

การจัดการต้นทุน: บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

การรักษาลูกค้าหลัก: รักษาและขยายฐานลูกค้าหลัก

การติดตามสถานการณ์: ติดตามสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

คาดการณ์ว่ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศไทยปี 2568 จะอยู่ที่ 1.5 ล้านคัน

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรมีแนวโน้มเติบโต

เทคโนโลยี Hybrid และ Plug-in Hybrid มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 42:50]

  1. แนวโน้มการเติบโตในปีนี้

    คำถาม: ปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาหรือไม่?

    คำตอบ: ต้องแยกเป็น 2 อุตสาหกรรม คือ Automotive และ Agriculture ซึ่ง Agriculture มีแนวโน้มเติบโตชัดเจนกว่า นอกจากนี้ New Business ที่บริษัทดูแลอยู่หลายตัวเริ่มมีตัวเลขรับรู้เต็มปี และมีการตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่อง

  2. เงินสดในบริษัทและการจ่ายปันผลพิเศษ

    คำถาม: เงินสดที่มีในบริษัทกว่า 3,000 ล้านบาท มีโอกาสจะจ่ายเป็นปันผลพิเศษออกมาหรือไม่? และมองภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะหดตัวไปอีกกี่ปี และคิดว่าจะ bottom เมื่อไหร่?

    คำตอบ: บริษัทจะรับคำแนะนำเรื่องการจ่ายปันผลพิเศษไปพิจารณา ส่วนภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอยู่ในช่วง transition และ transformation โดยมี 4 ปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม คือ Automotive trend, สภาพเศรษฐกิจ, การเคลื่อนย้าย supply chain, และมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ

  3. ผลกระทบจากการขึ้นภาษีรถยนต์ในสหรัฐฯ

    คำถาม: บริษัทมีแนวทางบริหารจัดการหรือเตรียมการอย่างไรในเรื่องการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีรถยนต์, ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ, และทิศทางของบริษัทที่มีต่อตลาดในประเทศและการส่งออก?

    คำตอบ: การขึ้นภาษีรถยนต์ในสหรัฐฯ ไม่มีผลกระทบโดยตรงและทางอ้อมต่อบริษัท เนื่องจากได้ยืนยันกับลูกค้าหลักแล้วว่าไม่มีผลกระทบ และผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทยังเป็นปิคอัพ ซึ่งตลาดส่งออกส่วนใหญ่คือออสเตรเลีย, Middle East, และเอเชีย

  4. รายได้จากภาคการเกษตร

    คำถาม: รายได้จากที่ขายให้ผู้ผลิตทางด้านการเกษตรจะเพิ่มมากกว่าปีที่แล้วไหม และคาดหวังว่าจะโตกี่เปอร์เซ็นต์?

    คำตอบ: บริษัทคิดว่าในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขเปอร์เซ็นต์อาจจะต้องขออนุญาตให้ติดตามในครั้งหน้า เนื่องจากเพิ่งผ่านกันมา 2 เดือน อาจจะยากที่จะบอกเป็นตัวเลขที่แน่นอน

  5. คำสั่งซื้อใหม่และอัตราเครดิตภาษีเงินปันผล

    คำถาม: ปีนี้บริษัทมีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆ เพิ่มขึ้นหรือไม่? และอัตราเครดิตภาษีเงินปันผล ณ ปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์?

    คำตอบ: ตอนนี้ได้ New Confirm Order มาแล้วประมาณ 200 ล้านบาท เป็น Discbake และ Excelsharp และยังมีโอกาสที่จะปิดดีลเพิ่มเติม ส่วนเรื่องอัตราเครดิตภาษีเงินปันผล อาจจะขออนุญาตตอบในครั้งหน้า เพราะไม่แน่ใจว่าแปลความหมายของคำถามถูกต้องหรือไม่

  6. ความคืบหน้าการร่วมทุนทำ Logistic Center

    คำถาม: ขอทราบความคืบหน้าของการร่วมทุนกับบริษัทอื่นในการใช้ที่ดินของ SAT เพื่อทำ Logistic Center?

    คำตอบ: ตอนนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาจาก Partner อยู่ 2-3 ราย และจะขออัปเดตความคืบหน้าอีกทีในครั้งหน้า

โดยสรุป SAT เผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลง แต่ยังคงมีโอกาสเติบโตจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรและการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ บริษัทมุ่งเน้นการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าหลักและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต