สรุป OPPDAY

สรุป Oppday SEPPÉ ไตรมาส 4 ปี 2024: กลยุทธ์ใหม่ ฟื้นฟูแบรนด์ มุ่งสู่ความยั่งยืน

สวัสดีครับ พบกับการสรุป Oppday ของ SEPPÉ ประจำไตรมาส 4 ปี 2024 โดยคุณอเนก รัฐสุขสถิตย์ CFO และคุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ CEO ที่จะมาให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน โอกาส และความท้าทายทางธุรกิจของบริษัท

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

SEPPÉ มุ่งมั่นที่จะเป็น "Thai Pride" โดยนำสินค้าไทยไปสร้างแบรนด์ในตลาดโลก ปัจจุบันสินค้าของ SEPPÉ ขายไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก กว่า 20 ปีที่ SEPPÉ ทำธุรกิจในตลาดต่างประเทศ และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา

ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา SEPPÉ มีแนวโน้มที่ดีในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดขายเติบโต 14.6% Gross Profit Margin ดีขึ้น 1% และ Net Profit มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

หากเจาะลึกลงไปในรายละเอียด จะเห็นว่าไตรมาส 4 เติบโต 13.9% โดยมาจากตลาดในประเทศ (IB) ประมาณ 12% ตลาดในประเทศเติบโตดี 20% ทั้งปีเติบโต 12% ตลาดต่างประเทศ 10.4% และไทย 19% Net Profit ทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ 1,253 ล้านบาท เติบโต 16.6% และ QC เติบโต 12.6% มีการจ่ายเงินปันผล 2.25 บาทต่อหุ้น

Cost ก็เป็นหนึ่งใน Key Driver ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ไตรมาส 4 Cost ยังทำได้ดีอยู่ที่ 53.6% ทั้งปี Cost ลดลง 1.6% แม้จะมีปัจจัยภายนอก เช่น FX และราคาวัตถุดิบ แต่ SEPPÉ ก็ยังสามารถมี Saving ได้ 1.5%

Selling Expense ในไตรมาส 4 ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 17% ทั้งปีอยู่ที่ 13.3% Admin เองก็มีการจัดการที่ดี

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

SEPPÉ มี 5 Category หลัก โดย Juice Drink ยังคงเป็น Number 1 Category คิดเป็น 48% ของรายได้รวม Moku Moku เป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ขายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก SEPPÉ Beauty Drink และ B'lue ก็เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย

SEPPÉ มีความภาคภูมิใจที่ได้ส่งมอบสินค้ามากกว่า 26 SKU ในปีที่ผ่านมา ทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ

SEPPÉ มี 3 Model ธุรกิจหลัก และในส่วนของเอเชีย Total Year ทั้งปีโต 5.5% Q4 โต 11% Activity ต่างๆ ใน Q4 อาจจะไม่ได้มีอะไรมากนัก จะมีในเรื่องของ Festive ต่างๆ

อีคอมเมิร์ซเติบโตไป 84% และ OcoCO ปีที่ผ่านมา Turnaround ปิดยอดขาย 461 ล้านบาท เติบโต 57% Year-on-Year และ Net Profit กลับมา Turnaround กำไร 29 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6.4%

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

• เอเชีย: ปัญหาในส่วนของเกาหลีที่ Consumption ยังไม่กลับมา และน่าจะ Carry on ต่อเนื่องไปในปีนี้
• ยุโรป: ติดลบไป 11% มีปัญหาในส่วนของฝรั่งเศสและอังกฤษ ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผน แต่ในโซนยุโรปอื่นๆ ยังเติบโตตามแผน

ปัญหาในฝรั่งเศสอาจเป็นในเรื่องของ Quality ของ Execution ในหน้า้รานต่างๆ ที่ทำได้ไม่ดีนัก ในระหว่างที่ขยาย Channel เพิ่มขึ้น

ยุโรป: การขยาย Channel ของเราค่อนข้างที่จะเร็วมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ในเชิงของ Execution หรือการจัดการหน้า้รานของเราเองอาจจะยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เราต้องใช้เวลาตรงนี้อีกสักพัก

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

• เอเชีย: แก้เกมในส่วนของเกาหลี
• ยุโรป: แก้ไขปัญหาเรื่องการจัดการหน้าร้าน และ สต็อกสินค้า

Middle East โต 54% ใน Q4 เนื่องมาจาก Stock สินค้าเพื่อรองรับหน้าขายในส่วนของรอมฎอน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ปี 2025 SEPPÉ มองว่าจะเป็นปีแห่งการกลับมา Focus ใหม่ เนื่องจากเห็นเทรนด์ Economy Slowdown Globally สิ่งที่ SEPPÉ ควรจะ Focus จริงๆ คือการกลับมา Build Fundamental และ Secure Bottom Line เป็นตัวตั้ง

SEPPÉ มีการเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็น 5% การที่จะไปถึง 10,000 ล้านบาทในปี 2026 จะกลายเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้าง Challenge พอสมควร โดยเป้าหมาย 10,000 ล้านบาทก็ยังคงเป็นเป้าหมายที่สำคัญของบริษัทอยู่

การ Run Operation ด้วยกำลังการผลิตเดิมที่มีอยู่ จะทำให้อัตรา Utilization กลับมาอยู่ในจุดที่ดีและเหมาะสม

เป้าหมายหมื่นล้านที่วางไว้ในปี 2026 หากปีนี้โตแค่ 5% จะยังเป็นเป้าที่ท้าทาย

Cost: คาดว่าจะ Maintain อัตราต้นทุนได้ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แม้จะมีแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ก็มีแรงหนุนจากการปรับตัวลดลงของราคาวัตถุดิบ และโครงการ Cost Saving ต่างๆ

Target Growth: ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 5% โดยมาจาก 5 กลุ่มหลัก

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 43.49]

เป้าหมายยอดขายหมื่นล้านบาทในปีนี้

SEPPÉ ปรับเป้าหมายการเติบโตในปีนี้อยู่ที่ 5%

ความคืบหน้าการขายสินค้าใน Walmart

SEPPÉ เข้าไปขายสินค้าใน Walmart แล้วประมาณ 200 สาขา และกำลังขยายสาขาเพิ่มขึ้น แต่ปีนี้จะไม่ Aggressive ในเรื่องการขยาย Channel มากนัก Feedback ที่ได้รับมาดีขึ้นเรื่อยๆ และจะมีแนวโน้มการขยาย Channel เพิ่มขึ้น

สาเหตุที่ยอดขายในฝรั่งเศสและอังกฤษไม่เป็นไปตามเป้า

การ Delay ในเรื่องของการ Digital Chain และการมี Stock ค้างไว้ ทำให้ยังต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา SEPPÉ กำลังพยายามทำ Activity ต่างๆ เพื่อให้ Consumer ได้ชิมสินค้ามากขึ้น และแก้ไขปัญหา Execution หน้า้ราน

Gem ต่างๆ มีการ Drop ลง

มี Gem ที่มีปัญหาคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเกาหลี Economy ของเกาหลีไม่ค่อยดี Consumer Spending ค่อนข้าง Slow และมีการแข่งขันที่สูง SEPPÉ จะออกสินค้าใหม่ที่ Leverage Strength ของ Moku Moku Brand เข้าไปในหลายๆ ประเทศที่เป็น Gem

แผนการซื้อหุ้นคืน (Buyback)

SEPPÉ ยังไม่มีแผนการซื้อหุ้นคืน และจะต้องศึกษาเพิ่มเติม

กลยุทธ์การใช้ Third-Party สร้างโรงงาน

SEPPÉ จะพิจารณาเรื่อง Investment Return เป็นส่วนใหญ่ และจะศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของการไม่ลงทุนเองในต่างประเทศ

คำสั่งซื้อในยุโรป เกาหลี และอเมริกา

ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอากาศหนาว และ Economy ที่ Slowdown Consumer Spending ทั้งโซนยุโรปและเกาหลี แต่ปีนี้ SEPPÉ ไม่มี Pressure ในเรื่องของ Stock เพราะผลิตทันแล้ว และจะกลับไปเป็น Seasonal ที่ปกติ

Product ใหม่ เป็นชา มีวุ้นมะพร้าว

SEPPÉ จะยังไม่ลงลึกในรายละเอียดมากนัก แต่ปีนี้จะมี Product ที่ Tailor ให้กับตลาดต่างประเทศ

Target Selling Expense ปี 2025

SEPPÉ วางไว้ไม่เกิน 14.2% มีการเพิ่มขึ้นเกือบ 1% แต่จะมี BOI เข้ามาช่วย และควบคุม Admi และ Cost Saving

การพิจารณาลดราคาสินค้า Moku Moku

SEPPÉ จะขอไปศึกษาเพิ่มเติม

แผนการตลาดในประเทศไทย

SEPPÉ จะเน้นในเรื่องของ Conversion และ Leverage ในแบรนด์หลัก

แผนการเจาะตลาดอเมริกา

SEPPÉ จะ Crack เป็น Zoning และค่อยๆ ทำ

การเติบโตของ OcoCO ในปี 2025

SEPPÉ ยังมองเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนปีที่ผ่านมา และจะกลับมาอยู่ในจุดที่เหมาะสม

การพัฒนา NPD ที่มีคาเฟอีนเพิ่ม

SEPPÉ รับเรื่องไปแจ้งกับทีมงาน

โดยรวมแล้ว SEPPÉ กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และมุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ