สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE มีผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2567 รายได้จากการขาย 1,566.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากยอดขายในต่างประเทศที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย รวมถึงผลกระทบจากสงครามและเศรษฐกิจโลก ในขณะเดียวกัน ยอดขายในประเทศกลับมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงาม เช่น เซ็ปเป้ Dom (Sappe 360 องศา), เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (360 องศา พาวเดอร์), และน้ำผสมวิตามินบลู (Blu) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่องทางโมเดิร์นเทรด

บริษัทฯ วางแผนที่จะออกสินค้าใหม่มากกว่า 20 รายการภายในปี 2567 เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนสร้างโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายในอนาคต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดแบบครบวงจร รวมถึงการสร้างการรับรู้และความภักดี (Awareness, Engagement, Loyalty) ต่อแบรนด์

โดยรวมแล้ว ผลประกอบการของ SAPPE ในไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจในประเทศ แต่ยอดขายในต่างประเทศที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ลดลง อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุนสร้างโรงงานใหม่ และการออกสินค้าใหม่ น่าจะช่วยหนุนให้ธุรกิจเติบโตในอนาคต เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลย้อนหลัง P/E อยู่ที่ 16.77 P/BV อยู่ที่ 5.37 YIELD อยู่ที่ 3.21 และราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ 87.49 บาท จึงมองว่า SAPPE มีโอกาสเป็นการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว เพราะ ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต และบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับ SAPPE เช่น:

- **ความผันผวนของสภาพอากาศ** อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายในต่างประเทศ
- **การแข่งขันในตลาด** ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
- **การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน** อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและกำไรของบริษัทฯ