สรุป OPPDAY หุ้น S

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday S ปี 2568: เจาะลึกผลประกอบการ Q3 และทิศทางเติบโตปีหน้า

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3/2568 บริษัทมีรายได้รวม 3,615 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นเป็น 40% (จาก 37%) จากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รายได้ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 10,500 ล้านบาท EBITDA ปรับตัวดีขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน (2,693 ล้านบาท) Normalise Net Profit (ไม่นับรวมรายการพิเศษ) อยู่ที่ 112 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ

กลุ่มธุรกิจหลัก:

1. ธุรกิจที่พักอาศัย: มี 10 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 30,000 ล้านบาท
2. โรงแรม (ภายใต้ SHR): 33 โรงแรม, กว่า 4,000 ห้อง ใน 5 ประเทศท่องเที่ยว
3. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า: 5 อาคาร พื้นที่เช่ารวมกว่า 190,000 ตร.ม.
4. นิคมอุตสาหกรรม: 1 นิคมฯ ในอ่างทอง พื้นที่ 1,800 ไร่

สัดส่วนรายได้ปี 2568: Recurring income (โรงแรมและอาคารสำนักงาน) 75-80%, Non-recurring 20-25%

คาดการณ์รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า SPP ราว 150 ล้านบาท

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

ธุรกิจโรงแรม: ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ RevPAR เติบโตในทุกภูมิภาค โรงแรมในไทยเติบโตโดดเด่น (31% YoY) จาก Sairee Laguna Phuket

ธุรกิจที่พักอาศัย: โครงการ Serene Phran Nok ได้รับการตอบรับที่ดี ปิดการขายและลงนามสัญญาแล้ว 3 ยูนิต

โครงการ DS Sukhumvit 36 มียอดขาย Big Lot เหลือขายเพียง 4 ยูนิต คาดว่าจะปิดได้ตามแผน

โครงการ One River พระราม 3 ทำ Pre-sale ได้แล้ว 95% เหลือขายไม่ถึง 10 ยูนิต เน้นการก่อสร้างตามแผน

ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า: SOA ถือเป็น Access อัตราการให้เช่าเติบโตต่อเนื่อง สิ้นเดือนกันยายนอยู่ที่ 49%

นิคมอุตสาหกรรม: ปิดการขายให้ Tali Food (75 ไร่) และ Keel Storng (9 ไร่) คาดว่าจะโอนและรับรู้รายได้ภายในสิ้นปี 2568

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ธุรกิจอสังหาฯ ชะลอตัว: ส่งผลกระทบต่อยอดขายที่พักอาศัย

การแข่งขัน: ตลาดอาคารสำนักงานมีการแข่งขันสูงจากตึกใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

นักท่องเที่ยวจีน: การที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เข้าไทย/น้อยกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลกระทบต่อโรงแรมบางแห่ง

โรงแรมใน UK: บางแห่งยังอยู่ในช่วง Renovate อาจทำให้รายได้ลดลงชั่วคราว

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

ที่พักอาศัย: โฟกัสกลุ่ม Real Demand, พัฒนา Product ที่ตอบโจทย์

โรงแรม: ทำตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นทดแทน (ยุโรป, อเมริกา) เน้นคุณภาพและกำลังซื้อต่อหัว

อาคารสำนักงาน: ปรับปรุงคุณภาพอาคาร, หาผู้เช่าใหม่ๆ

โรงแรมใน UK: เร่ง Renovate, เปลี่ยนแบรนด์เพื่อยกระดับราคาห้องพัก

นิคมอุตสาหกรรม: โฟกัสลูกค้าใน Ecosystem, Vendor, Supplier, ลูกค้าของลูกค้าในนิคมฯ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

ปี 2569: คาดการณ์รายได้เติบโตแบบ Organic ในทุกธุรกิจ, กำไรเติบโตแบบมีคุณภาพและยั่งยืน

เน้น Joint Venture: พัฒนาโครงการที่พักอาศัยร่วมกับ Strategic/Financial Partner

โรงแรม: ลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ปัจจุบัน, พิจารณาซื้อโรงแรมใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [01:05:09]

ตลาดออฟฟิศและ S Prime

1. ตลาดออฟฟิศเป็นอย่างไรบ้าง S Prime มีแผนสินทรัพย์ใหม่หรือไม่

   ภาพรวมตลาดออฟฟิศมีการแข่งขันสูงจากตึกใหม่ๆ ค่าเช่าเฉลี่ยอาคารเกรด A เพิ่มขึ้น แต่ของ Suntowers ต่ำกว่าเพราะอยู่นอก CBD ตึกใหม่มัก Downsize แต่ S Prime ปีนี้เป็นปีที่ดี ปิดลูกค้าใหม่ได้ 4,100 ตรม. มีแผนนำ S Metro และ Sing Complex เข้ากอง REIT ในอนาคต

แนวโน้มผลประกอบการและแผนธุรกิจ S Estate

1. ผลประกอบการปี 2569 จะเป็นอย่างไร ธุรกิจอสังหาฯ ชะลอตัวมีผลกระทบไหม มีกลยุทธ์อย่างไร

   อสังหาฯ ชะลอตัวกระทบยอดขายบ้าง เพราะลูกค้าเน้น Real Demand จะโฟกัสลูกค้า Real Demand พัฒนา Product ตอบโจทย์ คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ ในปี 2569 โรงแรมและออฟฟิศแนวโน้มดี นิคมฯ เน้นลูกค้าใน Ecosystem

1. จะออกหุ้นกู้ไปทำอะไร มีวิธีลดหนี้อย่างไร

   ออกหุ้นกู้เพื่อ Refinance ลดต้นทุนการเงิน เน้น EBITDA เติบโต และลดต้นทุนการเงิน ลดหนี้จากการทำธุรกิจ และปรับ Portfolio ขายสินทรัพย์ที่ไม่ Perform

1. ปีหน้าจะมีโครงการบ้านและโรงแรมเพิ่มไหม

   โครงการที่พักอาศัยจะเน้น Joint Venture ร่วมกับ Strategic/Financial Partner โรงแรมจะลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ปัจจุบัน และพิจารณาซื้อโรงแรมใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น ไทย เอเชียแปซิฟิก และจะปรับปรุงโรงแรมหลักๆ เช่น อังกฤษ Fiji และ Maldives

การจ่ายปันผล

1. มีนโยบายการจ่ายปันผลอย่างไร

   หากกำไรดีขึ้น จะพิจารณาจ่ายปันผลตามนโยบาย รอตัวเลขปี 2568 ก่อน

โดยสรุป S Estate ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจหลัก การบริหารต้นทุน และการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อรองรับความท้าทายและคว้าโอกาสในอนาคต