สรุป OPPDAY หุ้น RPH
Oppday
สรุป OPPDAY
RPH Oppday สรุปผลประกอบการไตรมาส 3/2568 และแผนขับเคลื่อนธุรกิจปี 2569
ขอต้อนรับท่านผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านเข้าสู่งาน Oppday ของโรงพยาบาลราชพฤกษ์ ในวันนี้เราจะมาสรุปภาพรวมของบริษัท, Investment Highlight, ผลประกอบการทางการเงิน, กลยุทธ์และโครงการต่างๆ ที่กำลังดำเนินการ, และ Outlook สำหรับปี 2569
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
หลักการของโรงพยาบาลจะเน้นพื้นฐานที่สำคัญคือ Core Business, Excellence, และ Safety and Quality of Care ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI สิ่งที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ให้ความสำคัญอีกอย่างคือ Heart of Human หรือหัวใจของความเป็นมนุษย์ โดยเน้นเรื่อง Compassion และ Healing Environment Hospital กับ Person Center Care
หลักการสำคัญอีกอย่างคือเรื่อง Value หรือการเข้าถึงโรงพยาบาลได้ง่ายในเรื่องของราคาที่ไม่แพงเกินไป ทำให้ราคาสมเหตุสมผล ทั้ง 4 ด้านนี้เป็นเรื่องที่เราจะขับเคลื่อนโดยใช้ Digitalize, Culture และ People เป็นหลักในการขับเคลื่อน
โรงพยาบาลมีประมาณ 200 เตียง และเป็น Tertiary Care
- มีแพทย์ Full Time และ Part Time รวมกันประมาณ 200 ท่าน โดยเป็น Full Time ประมาณ 30 ท่าน
- พยาบาลประมาณ 200 ท่าน
- แผนกต่างๆ มีครบทุกแผนก และบางแผนกก็โดดเด่น เช่น Otoneuro ที่เป็นที่เดียวในภาคอีสานในการตรวจประสาทหู (นอกจากศรีนครินทร์)
- มี Breast Center เป็นหลัก
- ทุกแผนกมี Subspecialty
โรงพยาบาลมีมาตรฐานหลักๆ คือ JCI ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกยอมรับ และ GHA ซึ่งมีไม่กี่แห่งในประเทศที่เน้น Medical Tourism โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีเรื่อง Building ที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามและ Healing Environment ที่ได้รับรางวัลจากหลายที่
ESG เราก็ขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดความตระหนัก โดยขับเคลื่อนเรื่อง Carbon Credit มาประมาณ 2 ปีแล้ว และล่าสุดจะพิจารณาว่าจะเข้าจั๊มของตลาดหลักทรัพย์
- Social ก็ทำหลายรูปแบบ เพราะโรงพยาบาลเป็น Social Unit ที่สำคัญของสังคมอยู่แล้ว การเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานและ Mindset ที่ดีต่อสังคมในการดูแลประชาชนจึงเป็นการทำเรื่อง Social ที่สำคัญที่สุด
- Governance เราได้ระดับ 4 ดาว และ Governance ทางด้าน Core Business คือการรักษาพยาบาลก็สำคัญ เรามีการตรวจสอบและควบคุมสิ่งเหล่านี้ไม่ให้มี Abuse
Investment Highlight จะพูดเร็วๆ เพราะมีคำถามส่งเข้ามาเยอะและน่าสนใจ
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
อัตราการจ่ายเงินปันผลของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4-5% และให้ผลตอบแทนที่ดีเรื่อยมา
- สัดส่วนรายได้ของโรงพยาบาลแบ่งเป็น OPD และ IPD โดยรายได้ IPD มีสัดส่วนมากกว่ารายได้ OPD เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60:40
- แบ่งตามประเภทผู้ชำระเงิน สัดส่วนผู้ชำระเงินเองยังคงเป็นอันดับ 1 และรองลงมาเป็นการจ่ายเงินด้วยบริษัทประกัน สัดส่วนใกล้เคียงกันเนื่องจากปัจจุบันมีระบบ Co-payment เข้ามา โรงพยาบาลได้ร่วมมือกับบริษัทประกันในการบริหารจัดการการให้บริการคนไข้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
โรงพยาบาลมีรายได้อยู่ที่ 310.20 ล้านบาท ลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว หลักๆ เกิดจากรายได้ที่ลดลงทั้ง OPD และ IPD อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 36.33% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 3 ปีที่แล้ว เป็นผลมาจากรายได้ที่ลดลงในขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 18.64%
- EBITDA อยู่ที่ 94.84 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3 ปีที่แล้วเล็กน้อย
- ROE อยู่ที่ 10.16% ใกล้เคียงกับไตรมาสที่แล้ว
รายได้ OPD ในงวด 3 เดือนเพิ่มขึ้น 1.11% ถึงแม้ว่าจำนวนคนไข้จะลดลง 3.73% เกิดจากรายได้ต่อ Visit ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นหลัก Q on Q เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนคนไข้และรายได้ เพราะเป็นช่วง High Season ของโรงพยาบาล หากพิจารณางวด 9 เดือน รายได้ OPD อยู่ในจำนวนที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
- รายได้ IPD เทียบ Year on Year สำหรับรายได้ IPD งวด 3 เดือนลดลง 5.12% และจำนวนคนไข้ลดลง 14.44% จำนวนคนไข้ลดลงมากกว่ารายได้ที่ลดลง เกิดจากปีนี้โรคระบาดมาช้ากว่าปกติเมื่อเทียบกับปีที่แล้วประมาณ 1 เดือน คนไข้กลุ่มเด็กภาพรวมใกล้เคียงกัน แต่เฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่มีจำนวนคนไข้เด็กเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่โรค RSV ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
- ส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้ลดลงน้อยกว่าจำนวนคนไข้คือ คนไข้ที่มารักษาด้วยการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ต่อ Visit เพิ่มขึ้น รายได้ในงวด 9 เดือนเพิ่มขึ้นจากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเป็น 530.6 ล้านบาท Q on Q ก็เพิ่มขึ้นด้วยเหตุผลเดียวกันกับรายได้ OPD
กำไรขั้นต้นเทียบ Q on Q เท่ากับ 112.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.69% เนื่องจากไตรมาส 3 เป็นช่วง High Season ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากรายได้ IPD เป็นหลัก ต้นทุนกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หากเทียบ Year on Year ลดลง 6.13% จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น
- มีต้นทุนบางรายการที่เพิ่มขึ้น เช่น ต้นทุนบุคลากรทางการแพทย์ ต้นทุนคงที่ ค่า Maintenance เครื่องมือ ซึ่งไม่ได้ผันแปรไปตามรายได้ งวด 9 เดือนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 2.68% จากเหตุผลดังกล่าว
- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นทั้ง Q on Q และ Year on Year หลักๆ เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ค่าบำรุงรักษา Maintenance เครื่องมือ ระบบต่างๆ ภายในโรงพยาบาล แต่หากเทียบสัดส่วนต่อรายได้แล้วยังคงดำรงสัดส่วนอยู่ที่ 14-15% สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารจัดการในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับงวดปีที่แล้วยังคงไม่ได้เพิ่มขึ้นที่เป็นนัยยะสำคัญ
กำไรสุทธิงวด 3 เดือน Year on Year ลดลง 8.41% Q on Q เพิ่มขึ้น 13.18% จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น และในงวด 9 เดือนก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย กำไรอยู่ที่ 139.38 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือนอัตรากำไรสุทธิยังคงสัดส่วนอยู่ที่ 15.70% ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ถ้าเทียบกับตัว Margin ในช่วงโควิด เราก็ยังรักษาตัวเลขได้ดีทีเดียว
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1,884 ล้านบาท ลดลง 2.29% จากต้นปี โดยสาเหตุหลักมาจากเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงจากการจ่ายเงินปันผลและการชำระเพื่อซื้อหุ้นคืนของบริษัท ที่ดินอาคารและอุปกรณ์มีมูลค่า 1,497.23 ล้านบาท ลดลง 1.83% จากการรับรู้ค่าเสื่อมราคาอาคารและอุปกรณ์เป็นปกติ ในขณะที่สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นๆ ปรับเพิ่มขึ้น 50.18% ก็เนื่องจากเรามีบริษัทลูกได้ชำระเงินล่วงหน้าค่าก่อสร้างไปบางส่วน
- บริษัทมีหนี้สินรวม 208.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.44% จากต้นปี โดยมีปัจจัยหลักคือการตั้งค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ทั้งนี้หนี้สินไม่หมุนเวียนอยู่ที่ 47.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากต้นปี ทำให้บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1,675.90 ล้านบาท ลดลง 4.90% จากต้นปี ซึ่งอยู่ที่ 1,762.29 ตามรายละเอียดที่กล่าวมาข้างต้น
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสนี้ อัตราส่วน Current Ratio, Quick Ratio อยู่ที่ 3.18 และ 2.4 ตามลำดับ เกิดจากเงินสดและเทียบเท่าเงินสดลดลง อัตราผลตอบแทน ROA อยู่ที่ 11.61% และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ROE อยู่ที่ 10.16% ยังอยู่ในระดับที่ดี สะท้อนถึงประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไรของโรงพยาบาล อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ AR Turnover ก็ปรับตัวดีขึ้นเป็นอย่างมาก
- แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการในส่วนของการบริหารลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพพอสมควร อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้ ดิฉันขอจบรายงานทางด้านการเงินสำหรับไตรมาสนี้แต่เพียงเท่านี้
Strategy เหมือนเดิม 3 ปีข้างหน้าจะเป็นเรื่องของการทำแบรนด์ของราชพฤกษ์ให้เข้มแข็งมากขึ้น และ Opportunity ต่างๆ ซึ่งเราก็มีการทำวิเคราะห์เรื่อง Brand Model ของราชพฤกษ์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา Brand Model ชัดแล้ว และเรื่องของ Brand Building ก็อยู่ใน In Process ในการสร้างแบรนด์ตาม Brand Model ใหม่ จริงๆ ก็ไม่ได้ถึงกับใหม่มากแต่มันมีความโดดเด่นในบางจุดมากขึ้น มีความเป็น Unique หลายเรื่องมากขึ้น
- เรื่องของการใช้พื้นที่ต่างๆ ในโรงพยาบาลก็จะพยายามใช้มากขึ้น ตอนนี้เรื่องของ Wellness Center ชั้น 5 ก็ยังอยู่ในช่วงการ Study เพื่อที่จะทำให้ ถ้าเป็นไปได้ก็หวังว่าปี 2569 จะได้มี Wellness Center ที่ชั้น 5 ที่เป็นส่วนลอยฟ้าได้
- ด้านของการขยายฐานผู้รับบริการออกไป ก็ยังเป็นกลุ่มที่เป็นความงาม สำหรับโรงพยาบาลความงามที่เราจะสร้างขึ้นในปีที่กำลังสร้างอยู่และก็จะเปิดปลายปีหน้า ก็จะเป็นฐานผู้รับบริการใหม่อีกกลุ่มหนึ่งขึ้นมา
Strategy ก็จะประมาณนี้ และก็มองหาโอกาสต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น การเปิดโรงพยาบาลสาขาในที่อื่นๆ นี่ก็มีคนติดต่อเข้ามามากเหมือนกัน แต่เราก็ยังคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะไป เราหวังว่าแบรนด์เราเข้มแข็งกว่านี้อีก และ Model ของเรา Infrastructure ทุกอย่างเราพร้อมที่จะขยายเราถึงจะไป ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงการทบทวน สำหรับโปรเจกต์โรงพยาบาลความงาม หรือเรียกว่าโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง ชื่อว่า แก่นพฤงา ราชพฤกษ์ แก่นก็แปลว่าแก่นขอนแก่น และเป็นแก่นก็คือส่วนที่มันเป็นจุดสำคัญ เป็นเนื้อหาสำคัญ คือแก่น ความจริงแท้ของตรงนั้นเรียกว่าแก่น พฤงา นี่แปลว่าความ ความงาม ฉะนั้นแก่นพฤงา ก็จะเป็น แปลว่าโรงพยาบาลที่ มีแก่นของความงามในทุกมิติ มีความงามในทุกมิติ เข้าใจทุกมิติของความงามอย่างแท้จริง ก็จะเป็น Direction ของการทำโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง แก่นพฤงา ราชพฤกษ์ ทีนี้จะมีคำว่าราชพฤกษ์ห้อยด้วยเพราะว่า เนื่องจากราชพฤกษ์นี่ก็เป็นที่รู้จัก เป็นที่เชื่อมั่น มี แบรนด์ที่เข้มแข็งระดับหนึ่ง มีความเชื่อมั่นระดับหนึ่งเพราะฉะนั้นเนื่องจากว่าเป็นบริษัทลูกก็เลยเติมในเรื่องนี้เข้าไปด้วย หลักการบริหารของแก่นพฤงาก็มีบางหลายส่วนที่จะคล้ายราชพฤกษ์ก็คือมีเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย แล้วก็ Quality of Care ที่เป็นมาตรฐานสากล แล้วก็เรื่องของการสร้าง Experience ตลอด Journey ของการดูแล ตามหลักของ GHA แล้วก็จะ มีมาตรฐานตัวนี้ซึ่งสามารถที่จะไป ไม่ใช่ดูแลคนไข้แค่คนไทยแต่ว่าดูแลคนไข้ต่างประเทศด้วย และก็เรื่องของ หลักการของ Person Center Care Humanize Person Center Care ก็จะเป็นตัวหลัก ว่าถึงแม้จะเป็นความงามนะฮะ เค้าก็จะ เป็นคนเหมือนกันนะฮะ เพราะฉะนั้นการ Approach ทุกเรื่องก็จะมองเค้าเป็นคน ไม่ใช่ มองเป็นลูกค้า เช่นกันนะฮะ เพราะว่า สุดท้ายความงามนี่มันมี Impact กับ จิตใจนะฮะ งั้น อันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ แล้วก็ที่มาทำกันเนี่ย วัตถุประสงค์ไม่ใช่แค่งามข้างนอก แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันมีผลกับ จิตใจข้างในของเค้านั่นคือจุดที่เค้าต้องการมาทำความงามนะครับ เพราะงั้นการ การเข้าใจสิ่งเหล่านี้น่ะ เป็นเรื่องสำคัญนะครับ แล้วก็เป็นทิศทางที่ชัดเจนนะฮะ ผ่านประสบการณ์ที่ผมมีในเรื่องของความงามมา 30 กว่าปีนะครับ ก็ คิดว่า ตรงนี้ก็จะเปนทิศทางสำคัญของ แกนพฤงา ราชพฤกษ์ ครับ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 28:55 ]
คำถาม 1: จุดแข็งของโรงพยาบาลราชพฤกษ์ในด้านกุมารเวชและสูตินรีเวช และแนวโน้มการเติบโตของรายได้
รายได้ที่สวิงของคนไข้กลุ่มกุมารเวชกับสูตินั้น กุมารเป็นเรื่องของตามโรคระบาดซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนสูตินรีเวช ถ้าสูติเรื่องการคลอดอาจจะลดลงตามแนวโน้มของการที่ ที่จะตั้งครรภ์กัน ตอนหลังนี่ไม่ คนไม่ค่อยอยากตั้งครรภ์กันเท่าไหร่ ส่วนโรคของนรีเวชนี้เป็นเรื่องของ ก็มีอยู่แล้วนะครับแล้วก็ ไม่แน่ไอ้นี่เป็นเรื่องของ ซึ่ง อย่างเช่นกลุ่มมะเร็งกลุ่มอะไรพวกนี้นะ โลก ติดเชื้ออะไรพวกนี้มันก็ไม่ ไม่เกี่ยวกันนะครับ พวกนี้ก็จะ ก็จะ มีแนวโน้มปกติของเขา แตว่ายังไงก็ตามกุมารเวช กับเคสคลอดเนี่ย มันมีแนวโน้มลดลงเพราะว่าเด็กเกิดน้อยลงนะครับ เด็กเกิดน้อยลงนะฮะ ส่วนรายได้ก็เป็นเรื่องของการติดเชื้อเป็นหลัก นะฮะ สวินตามติดเชื้อ แต่ว่าของเราก็มีครบมีพร้อมหมดนะฮะกุมารเวช เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาของกุมารเวชเลยนะครับ มีหมดเพราะงั้นเราก็จะขยาย ไอ้สิ่งเหล่านี้นะออกไปถึงแม้ว่าคนไข้ลดลง แต่ว่า คุณภาพการดูแลนะฮะ พวกนี้สูงขึ้นแล้วก็รายได้ก็มีโอกาสสูงขึ้นได้ด้วยนะครับ นะครับส่วนเคสคลอดเรายังไงเราก็ยังเปนอันดับหนึ่งอยู่นะฮะในกลุ่มเอกชนด้วยกัน นะครับแล้วก็ ของเรานี่ก็จะมีแพทย์สูติฯเวชที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงอยู่กับเราเยอะนะครับ นะครับ แต่ว่าแนวโน้มภาพรวมจะลงหน่อยนะครับ อ่า ก็เป็นเรื่องของ เราต้องมาคิด Strategy ว่าทำยังไงให้ ให้เค้ายังลึกราชพฤกษ์มากอยู่นะครับ นะฮะแล้วก็ในเชิง ละ อ่าราคานะฮะอาจจะสูงขึ้นบ้างในอนาคตนะครับเพื่อมาชดเชยเรื่องของจำนวนนะฮะ อ่า ทีนี้เรื่องของ อ่าพูดถึงโรงพยาบาลนะฮะระดับประเทศนะฮะที่รายได้มีแซง ทางราชพฤกษ์เนี่ยก็อาจจะไม่ได้ ยังไม่ทราบว่าแซงในส่วนไหนเหมือนกันตอนนี้นะครับ นะฮะก็เริ่มปีที่แล้วที่เริ่ม เริ่มๆ แซงขึ้นมานะครับ แต่เท่าที่เราดูก็มีหลายส่วนของ งานงานบริการที่ทาง ทางนั้น เค้ามากกว่าเรานะฮะมากกว่าเรา ส่วนเรื่องจำนวนไข้นี่เรายังสูงกว่านะฮะยังสูงเยอะกว่านะครับ แต่ว่า pricing อาจจะ อาจจะต่างกันนะครับ pricing ต่างกัน นะครับ ก็ ประเด็นของโรคซับ ซับซ้อนเนี่ย เราคิดว่า การดูแลโรคซับซ้อนนะฮะ อ่าของเรารู้ นะฮะ ไม่ ไม่ได้ ไม่ได้ด้อยกว่ น้อยกว่าเท่าไหร่นะฮะ ยกเว้นดังด้านโรคหัวใจนะฮะ การ Cat เรื่อง Cat Lab เรื่องอะไร เรา เราไม่ได้ทำตอนนี้นะฮะ ไม่ได้ทำ ส่วนด้านอื่นซับซ้อนอย่างอื่นเนี่ย เราไม่ได้ ไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่นะครับ นะครับ โรคซับซ้อนทางมะเร็งนะฮะทุกอย่างเราก็ทำนะฮะ นะฮะ ทุก ทุกสาขาทำหมดเลยนะครับ
คำถาม 2: แบรนด์ท้องถิ่นเมื่อเทียบกับแบรนด์ระดับประเทศมีผลต่อการรับรู้และการตัดสินใจของคนไข้ และทิศทางในการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเคสซับซ้อน
จริงๆ ตอนนี้ก็เปิดมา 8 ปีแล้วนะฮะ สำหรับราชพฤกษ์นะฮะที่ย้ายมาที่ใหม่นะครับ แต่ว่าอายุจริงๆ ก็คือ 3 ปีนี้ปีที่ 31 แล้ว 31 ปี นะครับ อ่า แต่ย้ายมาที่ใหม่นี่ก็ 8 ปีปีนี้นะครับ ถ้า ถ้าพูดถึงว่า แบรนด์ Local อย่างราชพฤกษ์เนี่ยจริงๆ อ่าโดยภาพ ทั่วไปนะฮะรวมๆเนี่ย นะฮะก็ไม่ได้ด้อยกว่าเท่าไหร่นะครับ นะฮะ อาจจะถือว่าใกล้เคียงกันแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะครับถ้ามองในเชิงมาตรฐานสากลเราไม่ได้ด้อยกว่าในการรักษานะครับนะฮะเรามีมาตรฐานสากล JCI ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกนะครับนะฮะ เรามีมาตรฐาน GHA นะครับ นะฮะ อาคารสถานที่เครื่องไม้เครื่องมือ เราพร้อมหมดนะครับCT MRI นะฮะที่มีมาตรฐานสูงนะฮะระดับ อ่า ทันสมัยนะฮะ เราทำหมดนะฮะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครบนะฮะ ก็ ก็คิดว่าอันนี้เป็น เป็น เป็นเรื่องของชื่อแบรนด์แล้วละนะ ชื่อแบรนด์ซึ่งซึ่ง อาจจะ อ่าถ้าเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในขอนแก่นก็อาจจะยังมองเข้าใจไม่ตรงนะฮะกับคน ในขอนแก่นเองที่เค้าเห็นว่า แบรนด์ราชพฤกษ์เนี่ยน่าจะไม่ได้ด้อยกว่าแบรนด์ระดับประเทศเท่าไหร่นะครับนะฮะ อันนี้ก็เป็นมุมมองนะครับ อ่า ก็ เรื่องสัดส่วนของรายได้เคสซับซ้อนเนี่ย อื้ม คือ คือเป็นทิศทางที่ดีนะครับที่ดีที่เราต้องพยายามเพิ่ม เพิ่มขี่ความสามารถตรงนี้ให้มากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้หยุดนะฮะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ แล้วก็เอาเข้ามานะครับ นะฮะโรคซับซ้อนที่ต้องรักษามากมายเราก็ต้องเอาเพิ่มขึ้นมานะครับ อย่างเช่นตอนนี้เราก็มีเครื่อง การตรวจ เรื่องของอ่า อ่า ปัญหาของทางเดินอาหารนะครับ นะฮะ อ่า เรื่องของ เค้าเรียกว่าโม เอ่อMotility นะฮะการเคลื่อนตัวของลำไส้ของทางเดินอาหาร นะครับที่ ในบางโรคเนี่ย นะฮะ อ่า คนไข้บางกลุ่มนะ รักษาปัญหาทาง เดินอาหารไม่หายซักทีนะครับนะฮะก็ไม่รู้ว่า เกิดจากตรงนี้มั้ยนะครับซึ่งอันนี้เราก็ลงทุนนะฮะ ซื้อเครื่องเข้ามานะครับนะฮะ ก็ถือว่าราคาสูงเหมือนกันนะฮะแล้วก็เป็นเครื่องเดียวที่มีนะฮะในภาคอีสานนะฮะในระแวก ไม่ได้ถึงภาคอีสานนะฮะ อ่า โคราชก็มีแต่ว่าในขอนแก่นนี่มีที่เดียวนะฮะ นะฮะ ก็ศรีนครินทร์ก็มีแต่ว่าน่าจะเป็นเครื่องเดินเครื่องเก่าๆนะครับ เพราะงั้นก็อ่าเราก็มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลตรงนี้ด้วยนะครับ เพราะงั้นเรา เราก็โรค ทับซ้อนทุกอย่างเราพยายามที่จะ เพิ่มเติมให้มากที่สุดนะครับ แน่นอนเหตุผลก็คือว่าเราต้องการที่จะรักษาคนไข้ให้มากที่สุดแล้วแน่นอนไอ้ส่วนเนี้ยเปนส่วนที่อ่าเราจะอ่ามีผลในเรื่องของความเป็นแบรนด์ Local กับแบรนด์ระดับประเทศด้วยนะครับนะฮะเราก็พยายามทำนะฮะก็จะเปนส่วนหนึ่งของความเข้มแข็งของแบรนด์ในการรักษาพยาบาลที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตนะฮะ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีนะฮะ ใช้เวลาหลายปีนะครับ อ่า อ่าอัตราครองเตียงนะครับ อ่า ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 60 นะฮะ 60% ได้นะฮะประมาณ 60% ประมาณ 60% จากฐานอ้างอิงนะฮะที่ 198 เตียงนะครับ นะฮะอันนี้เฉลี่ยนะฮะ ตัวเลขเฉลี่ยนะครับ ทั้งปีนะครับ แล้วก็ถามมาว่าอยากขอ มุมมองของผู้บริหารเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 นะครับ ว่าเป็นอย่างไรก็ ณ อย่างที่เรียนไปนะครับอ่าตุลานี่ก็คนไข้นะฮะ โรคระบาดอย่างยังข้ามมาถึงไตรมาส 4 นะครับ นะครับ ก็แนวโน้ม น่าจะ ถือว่าใช้ได้นะครับไม่ไม่ ไม่ไม่น่าจะแย่เหลือเดี๋ยเดี๋ยธันวาอีกเดือนนึงนะครับที่จะดูนะฮะถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากก็ ก็คิดว่าน่าจะได้แล้วก็น่าจะมีการเติบโตจากปีที่แล้วบ้างนะครับ นะฮะ ถ้าๆมองทั้งปีนะครับ โอเค อ่าข้อคำถามถัดไปนะฮะปัจจุบันการแข่งขันในตลาดนะฮะศัลยกรรมความงามค่อนข้างรุนแรงนะครับเห็นได้จากผลประกอบการราคาหุ้นนะฮะของหลายบริษัทที่เพิ่งเข้าตลาดซึ่งปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากนะครับ จริงขอเรียนถามผู้บริหารว่านะครับโรงพยาบาลราชพฤกษ์มีความมั่นใจอย่างไรต่อการเปิดโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม ในช่วงหลายปีนะครับเอ้ยช่วงปลายปี 2569 นะครับ ทั้งในด้านความต้องการของตลาดกลยุทธ์การแข่งขันนะครับจุดแข็งที่ทำให้โครงสร้างโครงการนี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายนะครับ ครับ อ่าก็เป็นคำถามที่เรียกว่าพูดถึง Business ของ โรงพยาบาล อ่าศัลยกรรมตกแต่ง แก่นพฤงาเลยนะครับ นะ อ่าคือ การแข่งขันเนี่ยทางด้านของความงามเนี่ยนะฮะสูงจริงๆนะครับสูงจริงๆที่นี้อ่าศัลยกรรมตกแต่งที่ว่าแข่งกันสูงๆอ่ะก็จะเป็นเคสที่แบบ อะ ทำในคลีนิกทั้งหลายได้นะครับซึ่งก็มีไม่กี่สันยะมีศัลยกรรมไม่กี่อย่างนะครับก็จะมีนะจมูกตาอะไรพวกนี้นะครับ บนใบหน้าบ้างนะครับแต่ถ้าอะไรใหญ่ๆเช่นดึงหน้านะฮะศัลยกรรมเต้านม นะฮะหรือการดูแลความสวยงามส่วนต่างๆของร่างกายซึ่งต้องอาศัยโรงความเป็นโรงพยาบาลไอ้ตรงนี้การแข่งขัน ถือว่าน้อยนะครับแทบจะ แทบจะไม่มีแทบจะไม่มีนะครับ เพราะงั้นก็ก็อ่าก็จะเป็นความความ ความได้เปรียบนะครับความได้เปรียบ นะครับอ่าแล้วก็ตัวแพทย์นะฮะตัวแพทย์เองก็เราจะใช้ศัลยแพทย์ตกแต่งนะฮะผู้ที่มีบอร์ดทั้งหลายนะฮะมีมี certified นะครับไม่ใช่เป็น แพทย์ GP นะครับ อันนี้ก็จะเป็นจุดแข็งนะฮะของการแข่งขันนะครับ เป็นความแตกต่างนะครับ ก็คือโดยหลักการก็เป็นเรื่องความเชื่อมั่นนะฮะ กับความเป็นโรงพยาบาลที่มาตรฐานสูงด้วยแล้วก็แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยนะครับ แล้วก็เรื่องของ อ่าประสบการณ์ ที่ดูแลทางด้านนี้มานะครับ นะฮะ ก็เชื่อว่า เชื่อว่าอ่า แม้ว่ามีการแข่งขันสูง เราก็ยังแข่งขันได้นะฮะ แข่งขันได้แน่นอนนะครับ นะครับ ส่วนเรื่องราคาก็แน่นอนแหละอาจจะสูงกว่าตามคลีนิกนะฮะหรือทั่วไปนะครับ แต่ว่าเมื่อเทียบกะสถานะจะคุ้มค่านะครับแล้วก็ กา การการการดูแลรับประกันนะฮะ อันนี้ก็คือสร้างความมั่นใจให้กับผู้มารับบริการได้ดีนะครับ นะฮะ ก็ไม่ ไม่ยังไม่ลงรายละเอียดก็แล้วกันนะครับ นะครับก็อันนี้จะมีความแตกต่างแน่นอนนะฮะ เค้าเรียกว่าต่างกว่าที่เป็นอยู่เยอะแยะหลายจุดนะแต่ว่าอ่าถ้าพูดถึงการแข่งขันเพราะงั้นไอ้ความแตกต่างพวกนี้แหละมันคือการแข่งขันที่แข่งได้นะครับ นะครับ เปนกลยุทธ์ของการแข่งขันนะครับ อ่า ก็ นะครับ คาดว่านะครับ คาดว่าน่าจะ น่าจะ ทำให้อ่า รายได้เป็นไปตามเป้าหมายได้นะครับนะฮะ ก็ต้องดูปีแรกว่าเป็นยังไงนะครับนะฮะ ก็ภาพรวม ถ้าถามว่ามั่นใจมั้ยนะครับก็ เรามั่นใจจากพื้นฐานที่ ที่เราพูดไปนะครับถึงความแตกต่างต่างๆนะครับ อ่า จริงๆตัวผมเองก็เป็นนายกสมาคมนะฮะศัลยกรรมตกแต่งไปหน้าในประเทศไทยแล้วก็เพิ่งไปนะฮะพึ่งมาเมื่อ 2-3 วันที่แล้วเนี่ยนะครับนะฮะ ทำเรื่องของ อ่าคอร์สนะฮะการผ่าตัดนะ ร่วมกับหมอไถ เกาหลีนะฮะ ก็ๆ ก็เป็นที่มั่นใจนะฮะ ว่าๆเอ่อวิธีการ ที่อัปเดตนะฮะก้าวหน้าของเราเนี่ยนะครับนะฮะ มีส่วนที่จะให้ผล ลัพธ์ของการ อ่า ทำศัลยกรรมนะฮะ นะฮะ ได้ ได้ผลลัพธ์ที่ดีนะฮะและแตกต่างนะครับ ก็มีหลายประเด็นครับ อ่าโดยรวมก็แข่งได้นะครับนะฮะ แข่งได้แข่งได้แล้วก็ อ่าอาจจะต้องแข่งดีด้วยแข่งได้ดีด้วยนะครับแล้วก็คิดว่าตัวนี้น่าจะเป็นเป็น Business Unit ที่สำคัญตัวหนึ่งของตัวบริษัทราชพฤกษ์ด้วยนะครับ นะครับ ข้อ 3 นะครับ ถ้าบํารุงราษฎร์ถือเปนโรงพยาบาล อ่าเอกชนระดับพรีเมี่ยมอันดับหนึ่งของประเทศนะครับ ขอเรียนถามผู้บริหารว่าราชพฤกษ์มีวิสัยทัศน์หรือแผนกลยุทธ์ในการ ในการก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลเอกชนระดับพรีเมี่ยมอันดับหนึ่งของภาคอีสานหรือไม่นะครับ นะฮะ แล้วก็มีปัจจัยด้านไหนบ้างที่มองว่าเรามีความพร้อมหรือยังต้องเสริมเพิ่มเติมเพื่อ ให้ถึงจุดนั้นนะครับ ครับขอบคุณมากครับเป็นคำถามที่ดีมากครับ อ่าก็มีหลายคนเค้าก็เปรียบ เทียบราชพฤกษ์ว่าเป็นโรงพยาบาลพรีเมี่ยมคล้ายๆกับนะฮะเอ่อบํารุงราษฎร์นะฮะที่อยู่ในอีสานนะครับ นะครับ มีคนเปรียบเทียบเหมือนกันแต่ว่าถ้าเปรียบเทียบกันก็อันที่หนึ่งก็คือมาตรฐานนะครับ มาตรฐานบํารุงราษฎร์กับ อ่าราชพฤกษ์ในเรื่อง Quality of Care Safety เนี่ยก็เป็นเรื่องของมาตรฐาน JCI เหมือนกัน นะครับ มาตรฐาน GHA เนี่ยก็ก็มีเหมือนกันนะฮะ ระดับ Excellence เหมือนกันนะครับ ที่ได้รับนะครับ แล้วก็แพทย์นะฮะแพทย์ก็เป็นระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยนะฮะ 200 กว่าท่านเนี่ยนะครับก็เป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ ระดับ Subspecialty นะครับ นะฮะ นะฮะทั้งนั้นนะครับทั้งนั้นเลยนะครับ แล้วก็แพทย์ระดับ Subt นี่ก็หลายท่าน เวลาเวลาเรียก ระดับระดับต้นของประเทศนะฮะ ต้นต้นของประเทศเลยนะครับ อย่างเช่นการผ่าตัดตับนี่นะฮะ จริงๆที่นี่ก็ผ่า น่าจะดีกว่านะฮะในกรุงเทพนะครับนะฮะ ก็ๆ คิดว่ามีหลายมุมที่มันเป็นจุดเด่นนะครับ จุดเด่นนะครับ ครับ แต่ว่าสิ่งสำคัญอันหนึ่งที่เรา Add Value เข้าไปในความเป็นมาตรฐาน Quality of Care Safety เนี่ยนะครับ กับเรื่องของ Experience เนี่ยก็คือเรื่องของการให้ความสำคัญกับเรื่องของ Healing นะฮะ และให้ความสำคัญเรื่อง Healing เท่าๆกับการรักษา นะครับ น่าจะเป็นโรงพยาบาลต้นๆนะฮะ ที่มีแนวคิดอย่างนี้ะนะครับ เพราะว่าเราเราทำทุก Process นะฮะพัฒนาทุก Process ให้สามารถที่จะลดความกังวลความกลัวให้กับคนไข้ นะครับ นะอันนี้เปนจุดสำคัญนะครับมองเค้าเปนมนุษย์นะฮะ ทั้งคนไข้ทั้งครอบครัวคนไข้เนี่ยมีความวิตกกังวลมีความกลัวตลอดเวลานะครับ นะครับแล้วก็ทำยังไงเราจะสร้างความสบายใจกับ ความ มีกำลังใจให้กับคนไข้และครอบครัวอันนี้จะเป็นหัวใจสำคัญที่เราให้ความสำคัญมากและมีผลต่อการเยียวยารักษาคนไข้ให้หายเร็วขึ้นนะครับ และก็มีกำลังใจที่จะต่อสู้นะครับ อันนี้จะเปนตัวที่เราเสริมเข้าไปนะครับ ซึ่งเอ่อความชัดเจนสิของสิ่งเหล่านี้เนี่ยนะครับก็น่าจะใช้เวลานะฮะที่จะสะท้อนถึงแบรนด์ของเราเนี่ยนะฮะในช่วงปีสองปีข้างหน้านะครับนะครับ อ่าส่วนเครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆเนี่ยเราก็พยายามเติมเข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่เราจะเห็นว่ามีความคุ้มค่านะครับนะฮะ และก็อ่าไม่ลงทุนมากจนเกินไปนะฮะ นะครับ อ่าก็ๆลงทุนให้พอดีกับเครื่องไม้เครื่องมือนะฮะนะครับ ข้อหลักการน่าจะประมาณอย่างนี้นะครับ ถ้า ถ้ากรุณาถ้าบอกว่า เอาเราไปเปรียบเทียบกะบํารุงราษฎร์เราก็ไม่กล้าเปรียบเทียบหรอกครับเพราะว่าบํารุงราษฎร์ เป็นโรงพยาบาลระดับเอ่อท็อปเทนของ World Class นะครับและก็เป็นโรงพยาบาลที่โอ้เติบโตเข้มแข็งมากมายในทุกมิติ นะครับ ส่วนด้านของคนไข้ต่างประเทศที่เทียบกับบํารุงราษฎร์เนี่ยของเราก็ยังไม่เยอะนะครับยังน้อยอยู่นะครับเพราะมีข้อจำกัดหลายอย่างที่จะเดินทางมาที่นี่นะครับ นะครับ แต่ยังไงก็ตามก็ เราได้รับคำชมจากคนไข้ต่างประเทศเยอะมากนะฮะเยอะมากที่เวลาเค้าได้มานอนที่เรา นะครับ พูดแบบเต็มแบบ มากเลยนะครับแล้วก็ อ่าในราคาที่เรียกว่า ถ้าเปรียบเทียบราคากับบํารุงราษฎร์ก็ต่างกันเยอะนะฮะเยอะมากนะครับ นั้นก็ถือว่าเป็น อ่า Value นะฮะเปน Value Price มากนะครับ ประมาณนั้นนะครับ ก็คงไม่เหมือนกันหรอกครับ อาจจะคนละมุมคนละมุมว่าเทียบกับบํารุงราษฎร์นะครับแต่ว่า จะเปนโรงพยาบาลไหนก็ก็ก็ไม่สำคัญหรอกสำคัญที่ว่าดูแลประชาชนจริงๆนะฮะแล้วก็ได้ประโยชน์นะครับ อ้าว ผม คุยเพลินแล้วเนี่ยเวลาจะหมดครับ ต่อไปก็เป็นกลยุทธ์การเติบโตนะฮะถามเรื่องการเติบโตใน 2-3 ปีข้างหน้านะครับ ก็ๆยังอาศัยตัวแก่นพฤงาเนี่ยมาช่วยได้นะครับคิดว่านะครับมาช่วยได้แล้วก็ถามว่าอัตราโตเฉลี่ยในอนาคตจะเท่าไหร่นี่ก็ ก็ยังบอกยากนิดนึงนะครับ แต่ว่าน่าจะพอสมควรเพราะได้ตัวแก่นพฤงาเข้ามาเติมนะครับนะครับ อ่ามีหลายอันน้อยละ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพูดถึงศัลยกรรมโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามนะครับ เบรกอีเวนนะฮะเบรกอีเวนน่าจะประมาณนะครับเอ่อนอร์มอลเคสที่เราทำไว้ น่าจะประมาณ 4 ปีนะครับ ครับ นอกนั้นก็จะเป็นการแข่งขันก็พูดไปแล้วนะครับ อัตราค่องเตียงก็พูดไปแล้วนะครับหมดเวลาพอดีเลยนะครับ ต้องขออภัยนะครับตอบช้าไปนิดนึงคำถามเยอะมากเลยนะครับน่าสนใจทั้งนั้นเลยครับก็ เดี๋ยวจะพยายามไปตอบนะฮะเอ่อที่พื้นที่อื่นนะครับแล้วก็อาจจะเป็นครั้งหน้านะครับนะฮะ จะตอบในคำถามที่ยังไม่ได้ตอบนะครับ ครับขอบพระคุณมากครับ ครับพอดีหมดเวลา ขอบพระคุณนะครับ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ ขอบพระคุณ สวัสดีครับ