สรุปงบล่าสุด RBF

บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) (RBF) ปี 2567: มุ่งสู่ความยั่งยืนและการเติบโตที่ยั่งยืน
**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567**
บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) (RBF) รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567 โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 4,391.09 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.68% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้ 4,421.11 ล้านบาท กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 512.76 ล้านบาท ลดลง 21% จาก 649.03 ล้านบาทในปีก่อนหน้า อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 35.22% ลดลงจาก 37.57% ในปี 2566 แม้ผลประกอบการจะลดลงเล็กน้อย แต่ RBF ยังคงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและการเติบโตในระยะยาว
**โครงสร้างรายได้**
รายได้หลักของ RBF มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ วัตถุแต่งกลิ่น รสและสีผสมอาหาร, แป้งและซอส, ผลิตภัณฑ์อบแห้ง, ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง, บรรจุภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไป
**สถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบ**
ถึงแม้จะไม่มีการกล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยตรงในเอกสาร แต่สามารถอนุมานได้ว่า การชะลอตัวของยอดขายในประเทศจีน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดคำสั่งซื้อของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมวัตถุแต่งกลิ่นรสและสีผสมอาหาร แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่มีต่อการดำเนินงานของบริษัท นอกจากนี้ การที่บริษัทต้องปรับตัวโดยการขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดีย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการลดความเสี่ยงจากตลาดใดตลาดหนึ่ง
**การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**
* **รายได้:** ยอดขายต่างประเทศลดลง 21.96% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของยอดขายในประเทศจีน ในขณะที่ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น 7.34% จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการขยายกำลังการผลิตในอินโดนีเซีย
* **กำไรขั้นต้น:** ลดลง 6.89% เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงลดลง ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีอัตรากำไรต่ำกว่ายังคงเติบโต นอกจากนี้ การส่งออกสินค้ากลุ่มแป้งและซอสไปยังตลาดอินเดียเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายในตลาดอินเดียกลับเข้าสู่ระดับปกติ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นได้รับผลกระทบ
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** เพิ่มขึ้น 12.71% เนื่องจากการลงทุนด้านบุคลากรเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และการปรับโครงสร้างการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
* **กำไรสุทธิ:** ลดลงเนื่องจากสัดส่วนรายได้จากการขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงลดลง ในขณะที่สัดส่วนรายได้จากการขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นเติบโตสูงขึ้น
**สินทรัพย์และหนี้สิน**
* **สินทรัพย์:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 สินทรัพย์รวมของ RBF อยู่ที่ 5,809.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.04% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ 5,749.92 ล้านบาท การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาจากการลดลงของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และการเพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
* **หนี้สิน:** หนี้สินรวมอยู่ที่ 843.35 ล้านบาท ลดลง 7.72% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ 913.87 ล้านบาท การลดลงส่วนใหญ่มาจากการลดลงของเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น และภาษีเงินได้ค้างจ่าย
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 4,966.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.70% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ 4,836.05 ล้านบาท
**กระแสเงินสด**
* กระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 815.07 ล้านบาท
* กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 523.10 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการซื้อที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
* กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน 375.86 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการจ่ายเงินปันผล
**การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Development)**
RBF ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดย:
* **ติดตั้ง Solar Rooftop:** ในเดือนมกราคม 2567 ได้ติดตั้ง Solar Rooftop ที่โรงงานจังหวัดเชียงใหม่ และในเดือนเมษายน 2567 เริ่มติดตั้งที่โรงงาน 2 แห่ง ในนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานอย่างมาก โดยมีการประหยัดค่าไฟฟ้าแล้วรวมทั้งสิ้น 8.1 ล้านบาทตั้งแต่เริ่มโครงการ
* **ได้รับการจัดอันดับด้านธรรมาภิบาล:** ได้รับการจัดอันดับดีเลิศ (ระดับ 5 ดาว) ในด้านธรรมาภิบาล ตามรายงานการกำกับดูแลของบริษัทจดทะเบียน (CG Rating) ในปี 2567
* **ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน:** ได้รับใบประกาศนียบัตรสำหรับการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย
* **ได้รับการประเมินคุณภาพการจัดการประชุมผู้ถือหุ้น:** ได้รับการประเมินในระดับดีเยี่ยม ด้วยคะแนน 99 คะแนน (5 เหรียญ)
* **ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน:** ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 228 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน THSI Ratings ปี 2567 ระดับ "ค" ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน**
แม้ว่าจะไม่มีการระบุโดยตรง แต่จากข้อมูลที่ให้มา สามารถประเมินปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสได้ดังนี้:
* **ความเสี่ยง:** ความผันผวนของตลาดต่างประเทศ (เช่น จีน), การเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบ, การแข่งขันในตลาด
* **โอกาส:** การขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียอื่นๆ, การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่, การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตจากการเปิดโรงงานใหม่ในอินโดนีเซียและอินเดีย, การให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนในระยะยาว
**สรุป**
ผลการดำเนินงานของ RBF ในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาการเติบโตและอัตรากำไร ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวโดยการขยายตลาดไปยังภูมิภาคใหม่ๆ และการลงทุนในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 0.17 เท่า แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ RBF ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนและสร้างการเติบโตในระยะยาว การเปิดโรงงานใหม่ในอินเดียและอินโดนีเซียจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอนาคต พร้อมทั้งการดำเนินงานที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ RBF เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
(3.07%)
(3.00%)
(1.19%)
(12.77%)
(1.82%)
(10.09%)
(169.99%)
(170.11%)
(18.60%)
(7.27%)
(300.90%)
(11.07%)