สรุปงบล่าสุด QH
บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ในไตรมาสที่ 2/2567 รายได้รวม 2,442 ล้านบาท ลดลง 2% จากปีก่อนหน้า โดยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง 5% สืบเนื่องจากการลดลงของการขายบ้านพร้อมที่ดินและคอนโดมิเนียม ในขณะที่รายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 23% เนื่องจากการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว และรายได้จากการให้เช่าอาคารสำนักงานยังคงเท่าเดิม ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 1% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 0.3% ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง 7% เหลือ 620 ล้านบาท
ปัจจัยที่มีผลต่อกำไรสุทธิได้แก่ การลดลงของต้นทุนการขายอสังหาริมทรัพย์ 2% และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนธุรกิจโรงแรม 20% ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง 4% หรือ 16 ล้านบาท ซึ่งมาจากการลดลงของกำไรในบริษัทร่วมบางแห่ง สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 2% หรือ 802 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของที่ดินและงานระหว่างก่อสร้าง รวมถึงสินทรัพย์สิทธิการใช้ ส่วนหนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 5% หรือ 776 ล้านบาท เนื่องจากการออกหุ้นกู้และการกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวที่เพิ่มขึ้น
สำหรับแผนอนาคต บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดและการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และกำไร นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยมีการวางแผนการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูงเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) : ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2567)
บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ในไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,442 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง 5% โดยเฉพาะรายได้จากการขายคอนโดมิเนี่ยมที่ลดลงถึง 26% ขณะเดียวกัน รายได้จากธุรกิจโรงแรมกลับเพิ่มขึ้นถึง 23% เนื่องจากมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ส่วนรายได้จากธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงานอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2566
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ ได้เปิดขายโครงการบ้านใหม่ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,815 ล้านบาท และปิดโครงการบ้าน 4 โครงการ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจโรงแรมในอนาคต โดยเน้นการพัฒนาโรงแรมในเมืองใหญ่ๆ และเมืองท่องเที่ยว รวมทั้งการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปี 2567 เติบโตขึ้น 10% จากปีก่อน โดยคาดหวังว่าธุรกิจโรงแรมจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
## โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน
ผลประกอบการของ QH ในไตรมาส 2/2567 แม้จะมีรายได้ลดลง แต่ผลกำไรสุทธิลดลงเพียง 7% สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนและการบริหารจัดการธุรกิจ อัตราส่วนทางการเงินหลายอย่างอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เช่น D/E ที่ 0.53 ต่ำกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 27.08% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 2.76 บาท P/E ล่าสุด 7.41 และ YIELD 9.04% แสดงให้เห็นว่า QH อาจมีโอกาสในการเติบโตในอนาคต แต่ด้วยราคาหุ้นที่ค่อนข้างต่ำ อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น
**โอกาส:**
* บริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและการจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง D/E ต่ำกว่า 1
* อัตรากำไรสุทธิสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
* มีโอกาสในการเติบโตในอนาคต
* ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
**ความเสี่ยง:**
* ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจ
* ความเสี่ยงด้านการลงทุนในธุรกิจโรงแรม อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจโลก และโรคระบาด
## เหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทใด
QH อาจเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาการเติบโตในระยะยาว และต้องการได้รับเงินปันผล เนื่องจากมีผลประกอบการที่มั่นคง และมีความสามารถในการควบคุมต้นทุน อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในระยะสั้น QH อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสม
**หมายเหตุ**: บทความนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
(35.90%)
(2.31%)
(26.58%)
(5.81%)
(6.88%)
(3.61%)
(5.26%)
(0.12%)
(26.51%)
(7.38%)
(606.85%)
(69.50%)