PLT
บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

โอเคครับ เริ่มเลยนะครับ

สรุป Oppday PLT Marine: ผลประกอบการปี 2567 และทิศทางอนาคต

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

บริษัท PLT Marine สรุปผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจุดที่สูงที่สุดตั้งแต่บริษัทดำเนินงานมา โดยมีรายได้เติบโตประมาณ 21% เมื่อเทียบกับปี 2566

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบคือ การขาดตลาดของเรือไซส์เล็ก (Gas Carrier) ทำให้บริษัทมีโอกาสเจรจาต่อสัญญากับคู่ค้าได้ยาวนานขึ้นและปรับอัตราค่าบริการให้เหมาะสมกับราคาตลาด

ในไตรมาส 4 (Q4) บริษัทมีเรื่องของเรือ PLT 65 ที่ต้องเข้า Dry Dock ทำให้รายได้จากการให้บริการหยุดชะงักไปประมาณ 42 วัน ส่งผลให้รายได้ Time Charter ของเรือลำนี้หายไปค่อนข้างมากในช่วงท้ายปี

ในช่วงเดือนธันวาคม บริษัทได้รับรางวัล IESG ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย สำหรับเรือ 3 ลำ ได้แก่ PLT 22, PLT 33, และ PLT 41

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในการลงทุน Gas Station ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ LPG ในการผลิตสินค้า ซึ่งจะมีการผูกสัญญาระยะยาวประมาณ 5-8 ปี และจัดหา LPG ในราคาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสในการขยายธุรกิจเรือขนส่ง Time Charter ในต่างประเทศ เนื่องจากมีความต้องการเรือไซส์ 3,500-5,000 CBM ในเอเชียจำนวนมาก

ในระยะยาว บริษัทตั้งใจจะเป็น Full Service Provider ให้กับลูกค้า โดยจัดหา Gas LPG และบริการขนส่งให้ครบวงจร

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ใน Q4 รายได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้เล็กน้อย เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไม่เติบโตตามที่คาดการณ์ ทำให้รายได้รวมลดลงเล็กน้อย

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (COA) ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทต้องพิจารณาปรับอัตราค่าขนส่งให้เหมาะสมมากขึ้น

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ Fleet (Fleet Utilization) เพื่อเพิ่ม Margin และเป็นกลยุทธ์เชิงตั้งรับในปีนี้

บริษัทมีการลดทุน เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องใช้ทุนมากนัก และการเพิ่มทุนในจังหวะเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิด Dilution Effect กับผู้ถือหุ้น

บริษัทพยายามปรับเรทค่าขนส่งให้เหมาะสมกับราคาตลาด เพื่อเพิ่ม Margin ในปี 2025

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2025 จะเติบโตประมาณ 15-20% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจใหม่และการเติบโตของธุรกิจ Time Charter

บริษัทมองว่าการขาย LPG ในประเทศยังคงสัมพันธ์กับ GDP ของประเทศ ดังนั้นหากประเทศยังเติบโต บริษัทก็จะยังคงรักษา Position และมี Outlook ที่ดีต่อไป

บริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำใน Asia Pacific Business โดยเน้น Relation กับลูกค้า, Operation Excellence, และการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A ที่นาที 40:30]

เรือ Time Charter PLT 66 มีกำหนดเข้า Dry Dock เมื่อไหร่?

ผู้บริหารตอบ: PLT 66 มีกำหนดเข้า Dry Dock ประมาณ Q3 ของปี 2566

อะไรคือปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการเติบโตของ PLT Marine ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า?

ผู้บริหารตอบ:

  1. ธุรกิจ Time Charter: PLT 66 จะวิ่งเต็มปีในปีนี้ ทำให้มีฐานรายได้ที่เติบโตขึ้น
  2. ธุรกิจ Trading: การลงทุน Gas Station ให้ลูกค้าและการทำสัญญาระยะยาวในการซื้อ LPG
  3. ประสิทธิภาพและการใช้ Fleet: โฟกัสที่การใช้ Fleet ให้ดีขึ้น ปรับปรุงเรทอัตราค่าขนส่งให้เหมาะสม

บริษัทมีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ การเดินเรือ และขนส่งอย่างไร ในภาวะที่สถานการณ์เศรษฐกิจมีความตึงเครียดจากสงคราม ภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ?

ผู้บริหารตอบ:

  • ตั้งรับในปี 2567: ลงทุนในธุรกิจที่คุ้นเคย ไม่ลงทุนในธุรกิจที่ไม่รู้จักหรือไม่มีประสบการณ์
  • Time Charter ต่างประเทศ: ขยายธุรกิจนี้เนื่องจากมีประสบการณ์และมั่นใจ
  • Internal Control และ Internal Process: โฟกัสที่การทำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อควบคุมและอัพสกิลการดำเนินงาน
  • Time Charter มีความเสี่ยงต่ำ: เนื่องจากลูกค้ายังคงเทรดในเอเชียและรายได้เป็นแบบรายเดือน

ภายใน Q1 ปีนี้ มีเรือเข้าอู่ซ่อมบำรุงกี่ลำ และปีนี้จะมีแผนเอาเรือเข้าอู่กี่ลำ?

ผู้บริหารตอบ:

  • Q1 ปีนี้: ยังไม่มีแผนเรือเข้าอู่
  • ทั้งปี: จะแนบแผนการเข้าอู่ทั้งหมดในเว็บไซต์ของบริษัท
  • PLT 66: มีแผนเข้าอู่ในช่วงกลางปีถึง Q3

COA ในประเทศ: จริงๆ ไม่ค่อยเอฟเฟคเพราะว่าเรามีกองเรือที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราก็ยังเสริฟลูกค้าได้

สรุป: PLT Marine มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 และมีแผนที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจ Time Charter, การลงทุนในธุรกิจใหม่, และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แม้จะมีความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่บริษัทก็มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความเสี่ยงและรักษาความสามารถในการทำกำไร