สรุป OPPDAY หุ้น PIMO
Oppday
สรุป OPPDAY
PIMO โชว์ผลงาน Q3 ปี 2568: โอกาสและความท้าทายในตลาดโลก
ภาพรวมของบริษัท PIMO มีประเภทธุรกิจคือผลิตมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ มอเตอร์สำหรับภาคอุตสาหกรรม เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง และมอเตอร์สำหรับสระและสปา ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทมีตั้งแต่ มอเตอร์แอร์ไซส์เล็ก 52 ซีรีส์ ไล่ขึ้นไปยัน 90 ซีรีส์ ซึ่งเป็นไซส์ใหญ่ ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่สองคือมอเตอร์สำหรับภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่ 1/4 แรง ครึ่งแรง 1/3 และ 1, 2, 3 และ 5 แรง กลุ่มที่สามคือกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสูบน้ำและมอเตอร์สำหรับสระและสปา ซึ่งมีปั๊มไดโว่สำหรับดูดน้ำ ทั้งน้ำสะอาดและน้ำเสีย และมีหมวดสระและสปา สำหรับสระว่ายน้ำ และหมวดมอเตอร์ปั๊มน้ำอัตโนมัติสำหรับปั๊มน้ำตามบ้าน
กลุ่มลูกค้าหลักและสัดส่วนรายได้ของบริษัทคือ 46% ภายในประเทศ และ 54% เป็นต่างประเทศ ลูกค้าหลักของบริษัทมี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ประเทศในแถบยุโรปและตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชีย
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ประจำปี 2568 รายได้จากการขายอยู่ที่ 759.83 ล้านบาท ลดลง 122.5 ล้านบาท หรือลดลง 14% เมื่อเทียบกับปี 2567
- สัดส่วนรายได้ตามผลิตภัณฑ์ยังคงที่เหมือนปีที่แล้ว โดยมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศมีสัดส่วนที่สูงขึ้น
- กำไรขั้นต้นของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 131.63 ล้านบาท ลดลง 38 ล้านบาท หรือลดลง 22% จากปีที่แล้ว
- กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ 62.51 ล้านบาท ลดลง 29 ล้านบาท หรือลดลง 32% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวมในปีนี้อยู่ที่ 75.70 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่ 80.5 ล้านบาท
- อัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2567 อยู่ที่ 10.67%
- สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 1,333.52 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อย ส่วนหนี้สินรวมอยู่ที่ 255.68 ล้านบาท ลดลงเช่นกัน
- ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1,077.84 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อย อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.24
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- ความคืบหน้าของโครงการม่านอากาศ ได้รับใบ Certificate จากการเทสต์ผ่านทั้ง 3 รุ่น และจะดำเนินการเปิดแม่พิมพ์ชิ้นส่วนต่างๆ โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากโปรเจ็กต์นี้ในอนาคต
- บริษัทมีโครงการใหม่ๆ ในปีหน้า เช่น โครงการ EC มอเตอร์ของตลาดมอเตอร์แอร์ ซึ่งจะส่งขายในตลาดอเมริกา, Middle East และออสเตรเลีย
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- รายได้ที่ลดลงใน US เกิดจากเหตุลังเลในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าหลายรายหลังจากการประกาศเก็บภาษีของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
- การแข่งขันกับบริษัทคู่แข่งในเม็กซิโกในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากเม็กซิโกได้ภาษี 0% จากสนธิสัญญา USMCA
- ต้นทุนที่สูงขึ้นจากการผลิตในประเทศไทยเมื่อเทียบกับจีน ทำให้ต้องเน้นที่คุณภาพและบริการหลังการขายเพื่อแข่งขัน
- ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- การเข้ามาของสินค้าจีนในตลาดไทยมากขึ้น ทำให้ต้องรักษาคุณภาพและบริการเพื่อแข่งขัน
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- บริษัทแก้ไขปัญหาการแข่งขันในตลาด US โดยการเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดีกว่า
- บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น EC มอเตอร์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
- บริษัทพิจารณานโยบายค่าเผื่อสินค้าวัตถุดิบเพื่อให้เหมาะสมและลดต้นทุนขาย
- บริษัทพยายามรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ในตลาดที่มีศักยภาพ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- บริษัทประเมินว่ารายได้รวมทั้งปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
- บริษัทมองว่าปีหน้าจะมีปัจจัยบวกจากโครงการใหม่ๆ เช่น ม่านอากาศและมอเตอร์ EC
- บริษัทมีกลยุทธ์ในการดำเนินงานโดยเน้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และศึกษาโปรเจ็กต์ใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อ diversify ธุรกิจ
- บริษัทตั้งใจที่จะเป็นหุ้นยั่งยืนและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ พร้อมเติบโตอย่างต่อเนื่อง
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 13:08]
รายได้ที่ลดลงใน US เกิดจากอะไร
คำตอบ: รายได้ลดลงเนื่องจากความลังเลในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าหลายรายหลังจากอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษี ทำให้ลูกค้าบางส่วนหันไปซื้อจากเม็กซิโกแทน
บริษัทแก้ไขปัญหาการแข่งขันกับเม็กซิโกอย่างไร
คำตอบ: เม็กซิโกได้ภาษี 0% จากสนธิสัญญา USMCA แต่มีข่าวว่าจะมีการปรับสัญญา USMCA ซึ่งบริษัทหวังว่าจะทำให้เม็กซิโกโดนขึ้นภาษีด้วย
ปัจจุบันบริษัทเสียภาษีนำเข้าไปยัง US เท่าใด
คำตอบ: ลูกค้าของบริษัทเป็นผู้จ่ายภาษี ซึ่งอยู่ที่ 19% ทางบริษัทไม่ได้โดนจ่ายภาษี
โครงการม่านอากาศจะชดเชยรายได้ที่ลดลงจาก US ได้หรือไม่
คำตอบ: โครงการม่านอากาศยังไม่มีการขาย คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณต้นไตรมาส 2 แต่คิดว่าจะชดเชยได้ในส่วนหนึ่ง
บริษัทมีโครงการใหม่ๆ เพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงหรือไม่
คำตอบ: บริษัทมีโครงการ EC มอเตอร์ของตลาดมอเตอร์แอร์ ซึ่งจะส่งขายในตลาดอเมริกา, Middle East และออสเตรเลีย
ตลาดออสเตรเลียใน Q3 เป็นอย่างไร
คำตอบ: ตลาดออสเตรเลียมีปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ทำให้ลูกค้าหลายรายบ่นว่าซื้อขายไม่คล่อง และได้รับผลกระทบจากนโยบายที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์ในการแข่งขันในตลาด US คืออะไร
คำตอบ: ลูกค้าหลายรายยังไม่ได้พูดถึงเรื่องราคามากนัก และยังสั่งซื้ออยู่ บริษัทหวังว่าการปรับนโยบาย USMCA จะทำให้เม็กซิโกต้องโดนภาษีเหมือนกัน
เหตุผลหลักที่กำไรในไตรมาส 3 เติบโตคืออะไร และทำไมช่วง 9 เดือนกำไรจึงลดลง
คำตอบ: กำไรในไตรมาส 3 เติบโตเพราะภาษีทรัมป์มีความชัดเจนขึ้น ทำให้ลูกค้ากล้าตัดสินใจสั่งซื้อเพิ่ม และมีการพิจารณานโยบายค่าเผื่อสินค้าวัตถุดิบให้เหมาะสม ส่วนช่วง 9 เดือนกำไรลดลงเพราะ exchange rate มีผลกระทบมาก และเศรษฐกิจชะลอตัว
ทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2568 จะเป็นอย่างไร
คำตอบ: ออเดอร์ที่ได้จากลูกค้าค่อนข้างยาวไปจนถึงสิ้นปี ทำให้ทิศทางค่อนข้าง positive
ภาพรวมทั้งปี 2568 บริษัทประเมินว่ารายได้จะจบที่เท่าไร
คำตอบ: คาดว่าจะจบที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ต้องขอว่ามันไม่ได้เติบโต มันลดลงจากปีที่แล้ว
มองปัจจัยบวกและปัจจัยลบหลังปีนี้ถึงปี 2569 จะมีอะไรบ้าง
คำตอบ: ปัจจัยบวกคือภาษีทรัมป์จะโดนคอร์ดของที่อเมริกาตีตกไปหรือไม่ และปีหน้ามีโปรเจ็กต์ใหม่ๆ คือเรื่องม่านอากาศกับมอเตอร์ EC ส่วนปัจจัยลบยังไม่มีการกล่าวถึง
กลยุทธ์หลักในการดำเนินงานในปี 2569 จะมีอะไรบ้าง
คำตอบ: มี product ใหม่ๆ และกำลังศึกษาโปรเจ็กต์ใหม่ๆ เพิ่มเติม เผื่อบริษัทอาจจะ diversify ไปทางอื่นได้
ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมอย่างไรหลังสินค้าจีนมีแนวโน้มจะเข้ามาในไทยมากขึ้น และมีแผนการรับมืออย่างไร
คำตอบ: ไม่สามารถลดราคาให้เท่ากับราคาของสินค้าจีนได้ จะใช้มาตรการคือทำให้คุณภาพแกร่งขันได้ คุณภาพดีเยี่ยม บริการหลังการขายก็ดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่
บริษัทได้รับประโยชน์จากภาวะน้ำท่วมในประเทศหรือไม่
คำตอบ: ภาวะน้ำท่วมที่ท่วมจนไม่สามารถใช้สินค้าของบริษัทไปดูดน้ำได้เลย เพราะไม่ว่าจะดูดแล้วมันก็ท่วมไปหมดเลย สินค้าของบริษัทอาจจะต้องท่วมอย่างพอดีๆ ไม่ได้ท่วมมากจนเลยแบบสูงเท่าหัวหรือสูงเท่าศีรษะ
บริษัทสูญเสียลูกค้ารายใดไปจากการแข่งขันด้านราคาของสินค้าจีนในไทย และมีแผนบริหารเรื่องนี้อย่างไร
คำตอบ: คงยังไม่สามารถลดราคาไปสู้กับจีนได้ สินค้าที่สูญเสียไปก็คือตัวมอเตอร์กำลังและเครื่องสูบน้ำที่ตลาดจีนตีเข้ามาในไทยแล้วก็ราคาถูกมาก แต่ก็ยังยึดมั่นในสินค้าของตัวเองคือผลิตโดยคนไทย 100% และมีทีมเซลล์ที่คอยแนะนำและสามารถบริการหลังการขายได้
ความเสี่ยงของบริษัทมีอะไรบ้าง มีแนวทางแก้ไขอย่างไร
คำตอบ: ปัจจัยภายนอกสำคัญกว่าปัจจัยภายใน เศรษฐกิจที่ชะลอตัว exchange rate ที่ลดลงอย่างน่ากลัว อยากจะฝากไปให้ทางรัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ด้วย
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าอย่างเดียว หรือทางบริษัทสามารถผลิตเองได้
คำตอบ: ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเองทั้งหมด ชิ้นส่วนตั้งแต่ต้นทางเลย สั่งมาเป็น raw material แล้วทุกอย่างก็ผลิตเองขึ้นมาเป็นตัว Made in Thailand 100%
การปันผลเยอะในปีนี้เกิดจากอะไร
คำตอบ: ได้ปรับมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วนะ จาก 40% เป็น 50% เรามีกฎที่ว่าเราจะต้องจ่ายปันผลถ้ามีกำไรจะต้องไม่น้อยกว่า 40%
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17.38 ล้านบาท แต่ในผล
คำตอบ: สถานการณ์หลายๆ อย่างมันคลี่คลาย ก็ทำให้ลูกค้าในอเมริกาสามารถมั่นใจที่จะสั่งออเดอร์มาให้เรานะครับ ทำให้ใน quarter 3 เนี่ยมีออเดอร์จากอเมริกากลับมาค่อนข้างเยอะ ก็เลยทำให้ตัวกำไรมันโตขึ้นเมื่อเทียบกับ Q3 ของปีที่แล้วแต่ด้วยความที่ต้นปีเนี่ยมันชะงักไปช่วงนึงแล้วก็ด้วยความที่อเมริกาใครบาทแข็งตัวนะครับ ก็เลยทำให้บริษัทกำไรน้อยลงด้วยผลหลักมาจาก exchange rate ด้วยนะครับ
กำไรที่ลดลง year on year 30% เกิดจากปัจจัยใดมากที่สุดระหว่างยอดขายที่ลดลงกับอัตราแลกเปลี่ยน
คำตอบ: ผสมๆ กันครับ ราคาวัตถุดิบนี่ครึ่งปีแรกยังไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ครับ มาขึ้นเยอะในช่วงครึ่งปีหลังแล้วก็ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเนี่ยค่อนข้างที่จะผลมีผลกระทบกับเราเยอะ
ตลาดมอเตอร์แอร์ เป็นกลุ่มตลาดใหม่ของไพโม่เลยใช่ไหมคะ
คำตอบ: มอเตอร์แอร์นี่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของเรามาตั้งแต่เราเปิดบริษัทนะครับ อันนี้เป็นสินค้า Signet อ้อ ถ้าเกิดนักลงทุนอาจจะหมายถึง EC มอเตอร์หรือเปล่าครับ ถ้าเกิดว่าทุกวันเนี้ยมอเตอร์ที่เราผลิตอยู่เนี่ยเราจะเรียกว่ามอเตอร์ AC อ่ะครับ ซึ่งมอเตอร์ AC มอเตอร์แอร์เนี่ยเราทำมาตั้งแต่เปิดบริษัทแล้ว แต่ว่าที่เราจะทำเพิ่มในปีหน้าเนี่ยคือมอเตอร์ EC ซึ่งถ้าเกิดจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเป็น concept เดียวกับมอเตอร์ BLDC ครับที่เรา เอ่อ มอเตอร์จะใช้ลวดทองแดงน้อยลง แล้วก็จะใช้แม่เหล็กในการขับเคลื่อนนะครับ
ผู้บริหารคิดว่าหรือตั้งใจว่าไพโม่เป็นหุ้นประเภทใด เพราะปัจจัยใดครับ
คำตอบ: เราก็หวังว่าบริษัทเป็นหุ้นยั่งยืนครับ แล้วก็จ่ายปันผลสม่ำเสมอ แล้วเราก็จะเติบโตไปเรื่อยๆ ครับ เพราะช่วงนี้อาจจะต้องเป็น Organic Growth นะคะ คือถ้าจริงๆ แล้วถ้าไม่มีภาษีทรัมป์เนี่ยคิดว่าคือไปไกลแน่นอน แต่พอมีตัวปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้นทำเราก็ควบคุมอะไรไม่ได้จึงจะต้องแบบว่าดูตามสถานการณ์ไปเรื่อยๆ นะคะ ยังไงเราจะทำให้ดีที่สุด
การที่โปรเจ็กต์ม่านอากาศสามารถที่จะส่งมอบถูกเลื่อนไปถึงไตรมาสที่ 2 ในปีหน้าเกิดจากอะไรทั้งๆ ที่ลูกค้ามีอยู่แล้วบริษัทได้ Certificate แล้ว
คำตอบ: คือเพราะว่าลูกค้าเนี่ยเรามีลูกค้ามาหาเรา Certificate เราเพิ่งได้แต่ว่าไอ้ด้วยความที่มอเตอร์ ไอ้ชุด Air cutain ที่เราส่งไป Test เนี่ยครับ Part หลายๆ ส่วนยังเป็น Part ที่ลูกค้าเอามาให้เราแต่ว่ามอเตอร์เนี่ยใช้ของเราซึ่งพอทุกอย่างผ่านแล้วเนี่ยเราก็ต้องมาทำแม่พิมพ์ เอ่อ เราต้องไปจ้าง supplier ข้างนอกทำแม่พิมพ์นะครับ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนของโครง เอ่อใบพัดอะไรพวกเนี้ยเราจะต้องทำที่ outsource หมดนะครับ ซึ่งทางบริษัท outsource เนี่ยเขาก็ต้องทำแม่พิมพ์แม่พิมพ์ที่ว่าไม่ว่าจะเป็นการแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก แม่พิมพ์ขึ้นรูปเหล็กอะไรพวกเนี้ยครับ ทำให้หลายๆ อย่างมันค่อนข้างเสียเวลาแล้วก็บางโปรเจ็กต์ทางลูกค้าเนี่ยก็ยังกำลังต่อรองเรื่องราคากับ Supplier อยู่
กรณีที่มีบริษัทจีนมาตั้งในบริษัท ตั้งบริษัทในไทยมากขึ้นในอุตสาหกรรมแอร์ ทำให้ลูกค้าของบริษัทสูญเสียการแข่งขันหรือไม่ อย่างไร และเรามีแผนจะเข้าไปเป็น supplier ของบริษัทจีนที่มาตั้งโรงงานหรือไม่ อย่างไร
คำตอบ: คิดว่าคงไม่มีแผนที่จะไปเป็น supplier ของบริษัทจีนที่มาตั้งในโรงงานไทยนะคะ เพียงแต่ว่าตอนเนี้ย เอ่อ โรงงานจีนเนี่ยเข้ามาตั้งเยอะจริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยมันก็จะต้องใช้ เอ่อ หลายๆ อย่างทั้งชื่อเสียง คุณภาพ การบริการ แล้วคือตอนเนี้ยเรากับ เอ่อ พันธมิตรลูกค้าของเราทั้งหลายเนี่ยก็ไม่ ไม่มียังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะทำให้เขาเปลี่ยนใจ เราคิดว่าเราสามารถจะยังรักษาฐานลูกค้าลูกค้ามอเตอร์แอร์นี้ได้อยู่นะคะยังไม่ต้องเป็นห่วงค่ะช่วงนี้ แล้วอย่างเวลา Test เนี่ยต้องใช้เวลานานมากอย่างที่บอกอยู่แล้ว ตั้งโรงงาน ทำ Test แล้วก็ เอ่อ จะ Setup หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างเนี่ยคิดว่าเรา เรายัง ยังไม่ ยังไม่มีปัญหาในช่วงนี้แน่นอนค่ะ แล้วก็ยังไงเราจะดูแลลูกค้า ฐานลูกค้าของเราอย่างเต็มที่แล้วก็ เอ่อ ดูแลทั้งราคา บริการ คุณภาพ คิดว่ายังไงก็สู้จีนได้ค่ะ
การเติบโตของบริษัท จะเป็นไปทิศไป เป็นไปในทิศทางใด การขยายตลาดมุ่งไปที่ประเทศใด หรือภูมิภาคใดเป็นพิเศษใน 3-5 ปีข้างหน้า
คำตอบ: การเติบโตของบริษัท บริษัทก็จะพยายาม เอ่อ รักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีไว้ให้มั่นคงนะครับ แล้วเราก็จะขยาย เอ่อ ลูกค้าใหม่ๆ ในประเทศที่เรามุ่ง เน้นก็คือจะเป็นมีสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ในตลาดภูมิภาค เอ่อ Middle East นะครับ เอ่อ ใช่ขยายฐาน ขยายฐานลูกค้าเดิมนะครับ แล้วก็หาฐานลูกค้าใหม่แล้วก็หาสินค้าใหม่ๆ เข้ามา เอ่อ เพิ่มนะคะสำหรับ
ปัจจัยที่นักลงทุนควรลงทุนระยะยาวกับไพโม่คืออะไร
คำตอบ: บริษัทเราก็ เอ่อ มีความมั่นใจว่าบริษัทเราจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ นะครับ อาจจะไม่ได้หวือหวาแต่คิดว่าเป็น Steady Growth ครับ แล้วก็ เอ่อ เรื่องปันผลบริษัทก็จ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอนะครับ
ต้องขอเรียนเรียนแจ้งว่าเราเป็น เรา เรา เอ่อ พิจารณาตัวเองในว่าเราเป็น ผู้ผู้ผลิตมอเตอร์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านผู้ผลิตมอเตอร์ เพราะฉะนั้นเนี่ยมอเตอร์ เอ่อ มอเตอร์แอร์ แล้วก็ มอเตอร์ เครื่อง สุกน้ำแล้วก็ใช้ในสระว่ายน้ำอะไรอย่างเงี้ยค่ะ ก็คือถ้าเกิดทางบริษัทไหนที่ต้องการใช้พวกมอเตอร์พวกนี้ก็จะวิ่งเข้ามาหาเราเพราะฉะนั้นเนี่ยเราว่าเรามีนิช เอ่อ ลูกค้ากลุ่ม เอ่อ ที่ต้องการตรงนี้อยู่แล้วเพราะฉะนั้นเนี่ยเติบโตแน่นอนค่ะเพียงแต่ว่าอาจจะมีปัจจัยภายนอกที่เข้ามาคบช่วงนี้
คำตอบ: ถ้านัก นักลงทุนท่านใดมีบริษัทไหนสนใจจะซื้อมอเตอร์ก็ติดต่อเราได้นะครับ
จุดเด่นของโรงงานจีนและจุดด้อยของโรงงานจีนที่เข้ามาลงทุนในไทยคืออะไรบ้างครับ
คำตอบ: ก็อาจจะจุดด้อยก็คือเขายังคงใหม่กับตลาดของเราแล้วก็ยังไม่มีฐานลูกค้า ก็ยังอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานแล้วก็ไม่มั่นใจว่าสินค้าที่เขาผลิตมาแล้วเนี่ย เอ่อ ลูกค้า ฐานลูกค้าเราเนี่ยจะเชื่อใจหรือเปล่าแล้วก็ เอ่อ อย่างจุดเด่นก็คืออาจจะมีเงิน มี มีปัจจัยเงินที่ เอ่อ เข้มแข็งกว่าของเราอะนะคะ เอิ่ม ก็ ก็ยังไงเราก็จะพยายามรักษาฐานลูกค้าของเราอย่างแน่นอนค่ะ
ขอทราบเรื่องนโยบายด้านธรรมาภิบาลด้วยครับ เพราะช่วงหลังๆ นักลงทุนกลัวธรรมาภิบาลของผู้บริหารมากเลยทีเดียว
คำตอบ: เราคิดว่า Integrity ของเราเนี่ยสำคัญสุด คือจะไม่มี เอ่อ การขายหุ้นแน่นอน อันนี้รับกันได้เลย ทั้งๆ ครอบครัวเราไม่มีการขายหุ้น แล้วก็ตอนนี้ก็แถมยังจะมีการซื้อกลับนะคะ คือเรามีแผนอยู่แล้วว่าน่ะ ช่วงเนี้ยราคาหุ้นเนี่ยมันต่ำเกินจริงแน่นอน เรามีการซื้อกลับไปเรียบร้อยแล้ว ใช่ค่ะ 30 ล้านแล้วก็คาดว่าถ้าเกิดปีหน้าเนี่ยยังจะราคายังมาตกอยู่อย่างนี้ก็อาจจะมีแผนซื้อกลับอีก คือยังไงเนี่ยเราทำทำอยู่ในธุรกิจนี้มาน่าจะ 20 กว่าปีแล้วก็คือไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนแล้วก็คือก็คิดว่าอยากจะส่งต่อไปให้ทางลูกหลานนะคะ ยังไงก็หวังว่า เอ่อ ธรรมาภิบาลของเราเนี่ยคือไม่ ไม่ทางคุณ นักลงทุนไม่ต้องกังวลได้เลยค่ะ
โดยสรุป, PIMO เผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันจากจีน แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาฐานลูกค้าเดิม, พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, และบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น