สรุปงบล่าสุด PIMO

บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
PIMO ปี 67 กำไรสุทธิพุ่ง 54.34% ทะลุ 113.56 ล้านบาท (+21.46% YoY) ยอดขายมอเตอร์ทุกกลุ่มโต แม้เศรษฐกิจชะลอตัว อัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 9.47% และ D/E Ratio 0.26
PIMO มองการเติบโตปี 68 ที่ 5-10% มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ใหม่ (ม่านอากาศ) ขยายฐานลูกค้าในและตปท., เตรียมออกม่านอากาศ Q3, มี BLDC motor สำหรับตลาดตะวันออกกลางและอเมริกา และ BLDC สระว่ายน้ำใน US โตต่อเนื่อง
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) (PIMO) ปี 2567
บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) (PIMO) รายงานผลประกอบการปี 2567 มีกำไรสุทธิ 113.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.34% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 73.58 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 7.45% เป็น 9.47% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย ประกอบกับราคาวัตถุดิบหลักที่ลดลง บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,199.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.46% จากปีก่อน โดยรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 21.19% เป็น 1,162.06 ล้านบาท สัดส่วนรายได้จากการขายในประเทศคิดเป็น 46% และต่างประเทศ 54% (ปี 2566: ในประเทศ 54% และต่างประเทศ 46%) ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 16.91% เป็น 949.51 ล้านบาท แต่ต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายลดลงจาก 84.70% เป็น 81.71% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 8.71% เป็น 1,385.55 ล้านบาท โดยสินทรัพย์หมุนเวียนหลักคือ เงินสด, สินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียน, ลูกหนี้การค้า และสินค้าคงเหลือ หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 13.74% เป็น 283.33 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1,102.21 ล้านบาท
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ ยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการตั้งเป้ารายได้หรือยอดขายอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ผลประกอบการปี 2567 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคต บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการติดตามสถานการณ์ราคาวัตถุดิบและการบริหารจัดการสินค้าคงคลังเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพการผลิต การส่งมอบสินค้าตรงเวลา และการส่งเสริมการขาย
การพิจารณาว่า PIMO เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน แม้ว่าผลประกอบการปี 2567 จะเติบโตอย่างโดดเด่น แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 1.54 บาท (ไตรมาส 4/2567) ซึ่งต่ำกว่าช่วงปี 2564-2565 การที่ P/E Ratio ล่าสุดอยู่ที่ 8.13 เท่า และ P/BV Ratio อยู่ที่ 0.84 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้นอาจยังไม่สูงเกินมูลค่าทางบัญชี (Book Value) อีกทั้งอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่ 3.36% ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
**โอกาส:**
* การเติบโตของรายได้จากการขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
* การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
* ความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ราคาวัตถุดิบที่ผันผวน
* อัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจ
**ความเสี่ยง:**
* การแข่งขันที่สูงในตลาดมอเตอร์ไฟฟ้า
* ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย
* ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากมีรายได้จากต่างประเทศ
**ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติม:**
* **รายได้:** ปี 2567 มีรายได้รวม 1,199.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 (987.26 ล้านบาท)
* **กำไร:** ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 113.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 (73.58 ล้านบาท)
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ไม่ได้ระบุในข้อมูล
* **อัตรากำไรสุทธิ:** ปี 2567 เท่ากับ 9.47% เพิ่มขึ้นจากปี 2566 (7.45%)
* **D/E:** ไม่ได้ระบุข้อมูล D/E ล่าสุด
* **เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน:** ปี 2567 อยู่ที่ 154.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 (65.95 ล้านบาท)
* **วงจรเงินสด:** ไม่ได้ระบุข้อมูลล่าสุด
**สรุป:**
PIMO มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2567 และมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และควรติดตามข่าวสารและข้อมูลของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
(1.91%)
(19.38%)
(13.81%)
(3.30%)
(12.14%)
(13.48%)
(38.75%)
(13.74%)
(26.14%)
(13.51%)
(144.91%)
(172.40%)