สรุปงบล่าสุด PIMO
บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 290.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหลักๆ เกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมอเตอร์แอร์ มอเตอร์สระและสปา มอเตอร์ปั๊มบ้าน มอเตอร์กำลัง และมอเตอร์ปั๊มน้ำ ผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 47.39 ล้านบาท ลดลง 19.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ผลกำไรสุทธิสะสม 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 91.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมอยู่ที่ 10.1% เพิ่มขึ้นจาก 7.3% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต บริษัทมีเป้าหมายในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน เพื่อรักษาอัตรากำไรให้คงที่ในอนาคต บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าให้มีความทันสมัยและตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความประหยัดพลังงานของมอเตอร์ นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะขยายเครือข่ายการจำหน่ายไปยังตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2568 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท
PIMO ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำกว่า 1 แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ได้อย่างสบาย และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง ทำให้บริษัทมีผลกำไรจากการขายอย่างมั่นคง นอกจากนี้ บริษัทยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและขยายตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต P/E ของ PIMO อยู่ที่ 10.66 นับว่าต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน P/BV อยู่ที่ 1.14 แสดงถึงราคาตลาดของหุ้นไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชี โดยรวมแล้ว PIMO ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
**โอกาส**
* การเติบโตของตลาดมอเตอร์ในประเทศและต่างประเทศ
* การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความประหยัดพลังงานของมอเตอร์
* การขยายเครือข่ายการจำหน่ายไปยังตลาดใหม่ๆ
**ความเสี่ยง**
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดมอเตอร์
* การผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
* การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
**เหมาะสำหรับนักลงทุน**
* นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจ
* นักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล
(0.93%)
(25.12%)
(18.67%)
(31.58%)
(17.90%)
(5.17%)
(23.51%)
(45.71%)
(48.77%)
(19.28%)
(124.15%)
(133.01%)