สรุปงบล่าสุด PCE

บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE)**
PCE ดำเนินธุรกิจโดยการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลัก 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค ธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ และกลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ CPO, CPKO, RBDPO, RBDPKO, B100, RBDOL, PFAD, PKFAD ในปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 624.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.0% จากปีก่อนหน้า อัตรากำไรสุทธิ 2.3% เพิ่มขึ้นจาก 1.3% ในปีก่อนหน้า รายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 11.3% สู่ระดับ 27,465.4 ล้านบาท จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ (น้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์) และปริมาณการขายผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้น โครงสร้างรายได้หลักมาจากธุรกิจน้ำมันปาล์ม (98.8%) โดยรายได้ในประเทศคิดเป็น 67.4% และรายได้จากต่างประเทศ 32.6%
ไตรมาส 4 ปี 2567 มีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 227.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.4% จากงวดเดียวกันปีก่อน อัตรากำไรสุทธิ 4.0% เพิ่มขึ้นจาก 1.9% ช่วงเดียวกันปีก่อน แม้รายได้ลดลง 4.3% เหลือ 5,717.6 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณน้ำมันปาล์มดิบออกสู่ตลาดลดลงจากผลกระทบของฝนขาดช่วงและอุทกภัย แต่บริษัทบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 8.5% เพิ่มขึ้นจาก 4.6% ช่วงเดียวกันปีก่อน
บริษัทมีนโยบาย ESG ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน มีการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ และได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ เช่น ISO 14001:2015, GHGs, RSPO SCCS, ISCC, และ Green Gold Label บริษัทฯ มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 15% ภายในปี 2030 และบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2064
บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจในปี 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับตัวสูงขึ้น ความต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก สภาพอากาศของไทยที่เอื้ออำนวยต่อผลผลิต รวมถึงแผนการขยายตลาดสินค้าที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายโครงการความร่วมมือกับชุมชนและภาครัฐ โดยสนับสนุนการใช้น้ำมันพืชอย่างมีประสิทธิภาพผ่านโครงการรีไซเคิลน้ำมันพืชใช้แล้ว รวมถึงให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับการปลูกปาล์มและแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม
**การวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน**
PCE มีลักษณะธุรกิจที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดี และผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่เติบโตอย่างโดดเด่นเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของบริษัท อย่างไรก็ตาม การพิจารณาลงทุนใน PCE ควรพิจารณาปัจจัยดังนี้:
* **โอกาส:**
* แนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่เติบโต: ความต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และการขยายตัวของอุตสาหกรรมไบโอดีเซล
* ความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น: อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการขยายตลาดสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม
* การสนับสนุนจากภาครัฐ: นโยบายส่งเสริมการปลูกปาล์ม และการสร้างเสถียรภาพให้กับห่วงโซ่การผลิต
* การดำเนินงานด้าน ESG ที่เข้มแข็ง: ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนจากนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
* **ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ: ราคาน้ำมันปาล์มดิบมีความผันผวนตามฤดูกาลและสภาพอากาศ
* สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย: ภัยแล้งและน้ำท่วมอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตปาล์ม
* การแข่งขันที่รุนแรง: การแข่งขันในตลาดน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากการขยายพื้นที่เพาะปลูกและนโยบายส่งเสริมการส่งออกของบางประเทศ
* กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด: เช่น EUDR อาจเพิ่มต้นทุนในการดำเนินงาน
**ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
* ราคาหุ้นเฉลี่ย: 3Q2567 = 2.3, 4Q2567 = 2.72
* P/E: 16.13 (อดีต), 17.63 (ล่าสุด)
* P/BV: 1.65 (อดีต), 1.81 (ล่าสุด)
* Yield: 0 (อดีต), 0 (ล่าสุด)
* D/E: 0.42 (ลดลงจาก 0.9 ในปีก่อนหน้า)
* อัตรากำไรสุทธิ: 1.84 (เพิ่มขึ้นเป็น 2.3% ในปี 2567)
* อัตราส่วนสภาพคล่อง: 1.0 (เพิ่มขึ้นเป็น 3.4 ในปี 2567)
* วงจรเงินสด: 21 วัน (เพิ่มขึ้นเป็น 28 วัน)
* อัตรากำไรขั้นต้น: 4.4% (เพิ่มขึ้นเป็น 4.7% ในปี 2567)
* อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin): 2.6% (เพิ่มขึ้นเป็น 3.6% ในปี 2567)
* อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE): 11.4% (เพิ่มขึ้นเป็น 19.1% ในปี 2567)
* อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA): 7.5% (เพิ่มขึ้นเป็น 12.8% ในปี 2567)
* อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ถาวร: 16.6% (เพิ่มขึ้นเป็น 34.5% ในปี 2567)
* อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย: 6.5 (เพิ่มขึ้นเป็น 16.1)
สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 16.3% เป็น 6,611.8 ล้านบาท จากการระดมทุน IPO และสินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้น หนี้สินรวมลดลง 50.0% เหลือ 1,365.3 ล้านบาท จากการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาว ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 5,246.4 ล้านบาท จากการเพิ่มทุน IPO และกำไรเบ็ดเสร็จรวม
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบ 109.0 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าและสินค้าคงเหลือ กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนเป็นบวก 135.2 ล้านบาท จากการรับคืนเงินค้ำประกันเงินกู้ยืม และขายทรัพย์สิน กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินเป็นบวก 267.9 ล้านบาท จากการได้รับเงินเพิ่มทุน IPO
จากข้อมูลดังกล่าว PCE มี P/E และ P/BV ที่ค่อนข้างสูง บ่งชี้ว่าราคาหุ้นอาจสูงกว่ามูลค่าทางบัญชี อย่างไรก็ตาม บริษัทมี D/E ที่ต่ำลง แสดงถึงความเสี่ยงทางการเงินที่ลดลง นอกจากนี้ อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญหลายรายการปรับตัวดีขึ้น บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
โดยสรุป การลงทุนใน PCE มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เติบโต ความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น การดำเนินงานด้าน ESG ที่เข้มแข็ง และอัตราส่วนทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ผู้ลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน รวมถึงติดตามข่าวสารและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอย่างสม่ำเสมอ
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)
(0.00%)