สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน): OSP

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ได้รายงานผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ 361 ล้านบาท ลดลง 156.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 159.8% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมีการบันทึกผลขาดทุนสุทธิจากการขายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในประเทศเมียนมาร์และการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน รวมเป็นจำนวน 1,033 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 27.2% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลประกอบการ ได้แก่ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศหดตัวจากผลกระทบของเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศลดลงตามปัจจัยด้านฤดูกาล บริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย โดยปรับลดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดให้สอดคล้องกับปัจจัยฤดูกาล และค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทรายงานผลกำไรสุทธิที่ 1,071 ล้านบาท ลดลง 45.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการบันทึกผลขาดทุนสุทธิจากการปรับโครงสร้างธุรกิจรวมเป็นจำนวน 1,352 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยผลขาดทุนจากการตีค่าเงินลงทุนในบริษัท 808 และการตั้งสำรองเงินให้กู้ยืมของบริษัท อินโนเวชัน ออฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (19) ในไตรมาส 2 และการตัดจำหน่ายหนี้สูญและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในประเทศเมียนมาร์และการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในไตรมาส 3 หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 2,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลประกอบการ ได้แก่ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลทั้งในและต่างประเทศเติบโตได้ดี อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายมีการควบคุมบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

โอสถสภาดำเนินธุรกิจผ่านกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งและขยายการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก โดยใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางการแข่งขัน ควบคู่กับการทบทวนผลการดำเนินงานและพิจารณาขายเงินลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก พร้อมเปิดรับโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ๆ ให้เติบโตตามแผนกลยุทธ์ระยะยาว ประกอบกับให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในหลากหลายกลุ่ม พร้อมปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับแนวโน้มและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

**ข้อมูลทางการเงิน:**

* **รายได้รวม:**
* ไตรมาส 3/2567: 6,043 ล้านบาท
* 9 เดือน/2567: 20,648 ล้านบาท
* **กำไรสุทธิ:**
* ไตรมาส 3/2567: ขาดทุน 361 ล้านบาท
* 9 เดือน/2567: 1,071 ล้านบาท
* **อัตรากำไรขั้นต้น:**
* ไตรมาส 3/2567: 36.1%
* 9 เดือน/2567: 37.0%
* **อัตรากำไรสุทธิ:**
* ไตรมาส 3/2567: -6.0%
* 9 เดือน/2567: 5.2%
* **D/E:** 0.48
* **P/E:** 23.72
* **P/BV:** 3.59
* **YIELD:** 8.33%

**วงจรเงินสด:** 78 วัน (ไตรมาส 3/2567)

**เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน:** 1,789 ล้านบาท (ไตรมาส 3/2567)

**เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน:** -43 ล้านบาท (ไตรมาส 3/2567)

**โอกาสการลงทุน:**

* การขายเงินลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก จะทำให้บริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้น สามารถนำไปลงทุนในธุรกิจหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* บริษัทมีแผนกลยุทธ์ระยะยาวที่ชัดเจนในการสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก
* บริษัทมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง
* บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ค่อนข้างสูง

**ความเสี่ยงการลงทุน:**

* ผลประกอบการที่ผันผวนอย่างมากในช่วง 3 ไตรมาสล่าสุด
* ภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูงของบริษัท
* การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มที่รุนแรง

**เหมาะสำหรับนักลงทุน:**

* นักลงทุนระยะยาวที่ยอมรับความผันผวนของผลประกอบการและต้องการรับเงินปันผล

**หมายเหตุ:** ข้อมูลนี้ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและวิเคราะห์ความเสี่ยงก่อนการลงทุน