สรุปงบล่าสุด MTC
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ หุ้น MTC บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3 ปี 2568
**สรุปสั้น:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568, MTC มีกำไรสุทธิ 1,724 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 21.84 มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 438 สาขา ตั้งแต่สิ้นปี 2567 ทำให้มีสาขาทั้งหมด 8,609 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 3 อัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (NPL) อยู่ที่ร้อยละ 2.60
**เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสล่าสุดในเอกสารที่ให้มา) มีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 438 สาขา จากวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ทำให้มีสาขาทั้งหมด 8,609 สาขา ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 (หน้า 1)
**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 233 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.63 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 724 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.10 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยเป็นส่วนประกอบหลักที่เพิ่มขึ้น (หน้า 2) ค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารเพิ่มขึ้น 211 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.72 สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและการขยายสาขา (หน้า 2) ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 269 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.03 เนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและเงินกู้ยืมคงค้างที่เพิ่มขึ้น (หน้า 2) ขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงเล็กน้อย 6 ล้านบาท หรือร้อยละ (0.65) (หน้า 2)
**สินเชื่อและสัดส่วน:**
อัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL) อยู่ที่ร้อยละ 2.60 (หน้า 1) อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเป็น 3.62 เท่า (หน้า 1) สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 19,658 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.51 สาเหตุหลักมาจากจำนวนยอดสินเชื่อคงค้างที่เพิ่มขึ้น (หน้า 3) หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 15,372 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.48 สาเหตุหลักจากเงินกู้ยืมและหนี้สินตามสัญญาเช่าที่เพิ่มขึ้น (หน้า 3) ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 4,286 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.60 จากผลการดำเนินงานรวมสำหรับงวดเก้าเดือนสุทธิจากเงินปันผลจ่าย (หน้า 3)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุนในเอกสารที่ให้มา)
**สรุปสั้นท้ายสุด:**
ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อรายได้และกำไรในไตรมาสนี้คือ การเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากการขยายตัวของสินเชื่อ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ แม้ว่า NPL จะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่บริษัทฯ ยังคงต้องบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเครดิตอย่างระมัดระวัง การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์และหนี้สินเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบริษัทฯ แต่ก็ต้องมีการบริหารจัดการหนี้สินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
(4.62%)
(10.11%)
(4.97%)
(10.23%)
(0.34%)
(0.11%)
(0.24%)
(7.74%)
(100.00%)
(100.00%)
(50.50%)
(140.34%)