สรุปงบล่าสุด MINT

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ปี 2567: การเติบโตที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายธุรกิจสู่ระดับโลก (รวมรายการพิเศษ)
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) โดยครอบคลุมไตรมาส 4 ปี 2567, 6 เดือนล่าสุด, 9 เดือนล่าสุด และภาพรวมตลอดทั้งปี 2567 โดยเน้นการวิเคราะห์รายได้ กำไร ปัจจัยขับเคลื่อน และแนวโน้มในอนาคต โดยมีการเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหาร, งบดุล, กระแสเงินสด, อัตราส่วนทางการเงิน, แนวโน้มในอนาคต และที่สำคัญ **รวมถึงผลกระทบจากรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (One-time items)** ซึ่งส่งผลต่อผลประกอบการในแต่ละช่วงเวลา
**ภาพรวมผลประกอบการปี 2567 (รวมรายการพิเศษ):**
MINT ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของกำไรอย่างโดดเด่นในปี 2567 แม้จะมีรายการพิเศษต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในแต่ละช่วงเวลา
* **รายได้รวม:** 166,034 ล้านบาท (166,409 ล้านบาท หากรวมรายการพิเศษ) เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทั่วโลก กลยุทธ์การกำหนดราคาที่ประสบความสำเร็จ และการเปิดสาขาใหม่
* **EBITDA:** 44,572 ล้านบาท (44,441 ล้านบาท หากรวมรายการพิเศษ) เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปี 2566 อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตต่ำกว่ารายได้เนื่องจากการปรับปรุงบัญชีในด้านบวก ณ สิ้นปี 2565 และการลงบัญชีด้านต้นทุนของโอ๊คส์ตามมาตรฐานบัญชี IFRS 16
* **กำไรสุทธิ:** 8,390 ล้านบาท (7,750 ล้านบาท หากรวมรายการพิเศษ) เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นเป็น 5.1% จากความสามารถในการดำเนินงานที่ดีขึ้นและการใช้ประโยชน์จากผลขาดทุนทางภาษียกมา
**ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 (รวมรายการพิเศษ):**
* **รายได้รวม:** 41,757 ล้านบาท (41,936 ล้านบาท หากรวมรายการพิเศษ) เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ที่สูงขึ้นของธุรกิจโรงแรม ยอดขายโดยรวมทุกสาขา (SSS) ของธุรกิจร้านอาหาร และการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจของบริษัทโดยรวม
* **EBITDA:** 10,949 ล้านบาท (11,895 ล้านบาท หากรวมรายการพิเศษ) ลดลง 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 เนื่องจากการปรับปรุงบัญชีในด้านบวก ณ สิ้นปี ซึ่งถูกบันทึกในไตรมาส 4 ปี 2566
* **กำไรสุทธิ:** 2,876 ล้านบาท (3,632 ล้านบาท หากรวมรายการพิเศษ) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงจากการลดหนี้และการบริหารจัดการภาษีที่มีประสิทธิภาพ
**ธุรกิจหลัก:**
* **ไมเนอร์ โฮเทลส์:** ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรหลัก คิดเป็น 70% ของกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567
**พัฒนาการที่สำคัญในไตรมาส 4 ปี 2567:**
* **ธุรกิจร้านอาหาร:**
* มีสาขาร้านอาหารทั้งสิ้น 2,699 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทลงทุนเอง 1,400 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 1,299 สาขา
* เปิดร้านอาหาร 38 สาขา ส่วนใหญ่เป็นร้าน Dairy Queen, GAGA, Swensen's และ The Pizza Company ในประเทศไทย
* เปิดตัวร้าน The Steak & More แห่งแรกในประเทศไทย, ร้าน Jiang Jiang Hao ในประเทศจีน และแบรนด์ใหม่ 5 แบรนด์ในประเทศสิงคโปร์
* เปิดตัวร้านแฟรนไชส์แห่งแรกของแบรนด์ Bonchon และ GAGA ในประเทศไทย
* **ธุรกิจโรงแรมและอื่นๆ:**
* เปิดโรงแรม 5 แห่ง ได้แก่ Anantara (2 แห่งในอินเดียและซิมบับเว), Tivoli (1 แห่งในโปรตุเกส), Oaks (1 แห่งในออสเตรเลีย) และ NH (1 แห่งในบราซิล)
**ธุรกิจร้านอาหาร (เพิ่มเติม):**
* **ปี 2567:** ยอดขายโดยรวมทุกสาขา (รวมแฟรนไชส์) เพิ่มขึ้น 2.1% YoY
* **Q4 2567:** ยอดขายโดยรวมทุกสาขาเพิ่มขึ้น 2.6% YoY
* **ประเทศไทย (Q4 2567):** ยอดขายโดยรวมทุกสาขาเพิ่มขึ้น 7.8% YoY, ยอดขายต่อร้านเดิมเพิ่มขึ้น 1.5%
* **สิงคโปร์ (Q4 2567):** ยอดขายโดยรวมทุกสาขาเพิ่มขึ้น 8.4% YoY จากการเปิดตัวแบรนด์ใหม่
* **จีน (Q4 2567):** ยอดขายโดยรวมทุกสาขาลดลง 7.7% YoY, ยอดขายต่อร้านเดิมลดลง 10.9% จากภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
* **ออสเตรเลีย (Q4 2567):** ยอดขายโดยรวมทุกสาขาลดลง 4.3% YoY, ยอดขายต่อร้านเดิมลดลง 1.2% จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ
* รายได้จากผลการดำเนินงานธุรกิจร้านอาหารปี 2567 : 32,132 ล้านบาท เติบโต 4%
* EBITDA ธุรกิจร้านอาหารปี 2567 : 7,323 ล้านบาท เติบโต 9% YoY อัตรากำไร 22.8% สูงกว่าปีก่อนหน้า
**สถานะทางการเงิน:**
* **สินทรัพย์รวม (สิ้นปี 2567):** 346,845 ล้านบาท ลดลงจาก 359,196 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566
* **หนี้สินรวม (สิ้นปี 2567):** 247,708 ล้านบาท ลดลงจาก 271,901 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น (สิ้นปี 2567):** 99,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 87,295 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566
**กระแสเงินสด:**
* **กระแสเงินสดจากการดำเนินงานปี 2567:** เป็นบวก 40,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
* **กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมการลงทุนปี 2567:** 8,644 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดจ่ายสุทธิจากกิจกรรมจัดหาเงินปี 2567:** 32,367 ล้านบาท
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด (สิ้นปี 2567):** 13,319 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดอิสระ (FCF):** เป็นบวก 8,573 ล้านบาท ในปี 2567
**อัตราส่วนทางการเงิน:**
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ลดลงจาก 44.6% ในปี 2566 เป็น 43.8% ในปี 2567
* **อัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ):** เพิ่มขึ้นเป็น 5.1% ในปี 2567 จาก 4.6% ในปี 2566 (ตัวเลขนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยเมื่อพิจารณารายการพิเศษ)
* **อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE):** เพิ่มขึ้นเป็น 9.0% ในปี 2567 จาก 8.4% ในปี 2566
* **อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA):** เพิ่มขึ้นเป็น 2.4% จาก 2.0% ในปี 2566
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น:** ดีขึ้น โดยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเหลือ 0.8 เท่า ณ สิ้นปี 2567 จาก 1.0 เท่า ณ สิ้นปี 2566
* **อัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย:** ยังคงทรงตัวที่ 4.7 เท่า
**รายการพิเศษ (One-time items):**
จากข้อมูลภาคผนวก พบว่ามีรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหลายรายการที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ MINT ในแต่ละไตรมาสและภาพรวมทั้งปี ตัวอย่างเช่น:
* **รายการที่เกี่ยวข้องกับ NH Hotel Group:** ทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
* **กำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน:** จากสัญญาแลกเปลี่ยนสกุลเงินเหรียญสหรัฐ
* **การปรับมูลค่ายุติธรรมของอนุพันธ์อัตราดอกเบี้ย**
* **การป้องกันความเสี่ยงที่ไม่มีประสิทธิภาพ**
* **ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี**
* **กำไร/ขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากสัญญาอนุพันธ์ต่างๆ**
* **การจำหน่ายสินทรัพย์ถาวร และค่าใช้จ่ายสำรองสำหรับการด้อยค่าของสินทรัพย์**
**แนวโน้มในอนาคต:**
* MINT มั่นใจในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 จากการท่องเที่ยวทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นและโครงการเชิงกลยุทธ์ต่างๆ
* ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ต่อปีที่ 6-8% และการเติบโตของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่ 15-20% ในช่วงปี 2567-2570
* ตั้งเป้าผลตอบแทนจากเงินลงทุนให้สูงกว่า 12% และขยายธุรกิจในรูปแบบที่ลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
* ตั้งเป้าให้มีโรงแรมมากกว่า 850 แห่งและร้านอาหาร 4,000 แห่งทั่วโลกภายในปี 2570
* เน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ต่างๆ, การขยายธุรกิจด้วยรูปแบบการลงทุนที่ลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และการเพิ่มผลกำไรสูงสุด
**สรุป:**
MINT มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทั่วโลก และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของธุรกิจหลักทั้งสอง การบริหารจัดการทางการเงินที่แข็งแกร่ง และแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน ทำให้ MINT มีความมั่นใจในการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว อย่างไรก็ตาม **นักลงทุนควรพิจารณารายการพิเศษต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาอย่างละเอียด เพื่อประเมินผลประกอบการที่แท้จริงของบริษัท** และทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในอนาคต
(0.04%)
(3.06%)
(4.67%)
(20.10%)
(4.65%)
(16.53%)
(7.80%)
(16.39%)
(2,330.81%)
(269.03%)
(22.88%)
(32.10%)