สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO มีผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่น่ากังวล รายได้รวมลดลง 18.38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ลดลงตามพอร์ตสินเชื่อ และการคัดกรองคุณภาพสินเชื่อใหม่ที่เข้มงวดขึ้น แต่รายได้ดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืมเพิ่มขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อของบริษัท ไมโคร พฟิน จํากัด อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลง 4.30% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายให้รัดกุม รวมทั้งการควบรวมสาขา ผลขาดทุนด้านเครดิตลดลง 38.09% จากการควบคุมคุณภาพหนี้ และขาดทุนจากทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้น 15.67% จากการลดลงของราคารถบรรทุกมือสอง และการปรับราคาประเมินให้สอดคล้องกับราคาตลาด ผลลัพธ์คือขาดทุนสุทธิ 62.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทวางแผนที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจและพัฒนากลยุทธ์ทางการเงินเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันในอุตสาหกรรม ที่สำคัญคือการปรับปรุงระบบการปล่อยสินเชื่อให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อลดอัตราหนี้เสีย (NPL) และเพิ่มอัตราการผ่านการอนุมัติสินเชื่อ บริษัทมุ่งเน้นไปที่การขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในระยะยาวโดยการเพิ่มจำนวนสินเชื่อและการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

จากผลประกอบการล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง MICRO อาจไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง P/E และ P/BV ต่ำกว่า 1 แสดงถึงการประเมินมูลค่าที่ต่ำ YIELD ที่น้อยกว่า 4% บ่งชี้ว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลไม่น่าสนใจ ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตลอด 52 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ดังนั้น MICRO อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรระยะสั้น โดยหวังว่าบริษัทจะสามารถพลิกฟื้นผลประกอบการและปรับปรุงอัตราส่วนทางการเงินได้ในอนาคต อย่างไรก็ตามควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ