LTS
บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

LTS อัพเดทกลยุทธ์ปี 2568: ขยายตลาดไฟส่องสว่างสู่สากล พร้อมลุยธุรกิจ IT เต็มสูบ

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เป็น Oppday ของ LTS เราจะมาอัปเดตข้อมูลโครงการต่าง ๆ และการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงบริษัทในเครือ โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณพัฒน์ จาโกเมศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คุณนุชนาถ แสงชาติ CFO และคุณกิตติธัช วิมลโนท รอง CEO

ภาพรวมโครงสร้างธุรกิจ LTS

ปัจจุบัน LTS แบ่งธุรกิจหลักเป็น 2 ส่วน:

  1. ธุรกิจไฟส่องสว่าง: เป็นธุรกิจดั้งเดิมของบริษัท
    • ไฟส่องสว่างดั้งเดิม: ขายหลอดไฟ, โคมไฟ, เป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าจากต่างประเทศ
    • Smart Home: เป็นตัวแทนของแบรนด์ Ovibo, ขายระบบ Home Automation และ Home AI เพื่อเพิ่มยอดขายในโครงการต่าง ๆ
    • ตัวแทนจำหน่าย TūWAH: ผลิตภัณฑ์ luxury ซึ่งช่วยให้ LTS สามารถขายสินค้าได้หลากหลายขึ้นในแต่ละโครงการ
  2. ธุรกิจ IT:
    • AI: พัฒนาและให้บริการด้าน AI
    • ENSOF: บริษัทที่เพิ่งทำ EBT (Equity Bridge Transaction) ซึ่งทำธุรกิจด้านวิศวกรรม

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

LTS ได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบจากปัจจัยต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบได้แก่:

  • การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี: การเปลี่ยนจากหลอดไฟทั่วไปเป็นหลอด LED และ Smart Lighting มีผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดไฟ
  • Smart Home และ Green Building: แนวโน้มการใช้ Smart Home และ Green Building ทำให้บริษัทต้องปรับตัวและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ
  • การแข่งขันด้านราคา: ตลาดมีการแข่งขันด้านราคาสูง โดยมีสินค้าNo Brand ราคาถูกเข้ามาตีตลาด ทำให้บริษัทต้องสร้างความแตกต่างด้วยการออกแบบ, บริการ, และเทคโนโลยี

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญดังนี้:

  • ตลาด Smart Home: ตลาด Smart Home ในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยปัจจุบันมีบ้านที่เข้าถึง Smart Lighting เพียง 15% เท่านั้น
  • Green Building และ Smart City: โครงการ Green Building และ Smart City เน้นการประหยัดพลังงานและบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับ LTS ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  • ตลาดต่างประเทศ: ตลาดไฟส่องสว่างในสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 ของโลก และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง LTS ได้จัดตั้งบริษัท Light Up International และ Light Up Technology เพื่อขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกา

กลยุทธ์ในการคว้าโอกาส:

  • โฟกัสตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่น Smart Home และสินค้าที่มีนวัตกรรม
  • เพิ่ม Value ในการให้บริการ เช่น ให้ความรู้ในการออกแบบแสงสว่างและบริการหลังการขาย
  • วางตำแหน่งแบรนด์ให้ชัดเจน โดยเน้นลูกค้าที่มีกำลังซื้อและต้องการสินค้าคุณภาพสูง
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ออกแบบและสนับสนุนงานออกแบบ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

LTS เผชิญความเสี่ยงและความท้าทายหลายด้าน:

  • การแข่งขันด้านราคา: การมีสินค้าNo Brand ราคาถูกเข้ามาตีตลาดทำให้ต้องแข่งขันด้านราคามากขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี: การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วทำให้ต้องติดตามและปรับตัวอยู่เสมอ
  • เศรษฐกิจ: สภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายและโครงการต่าง ๆ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงดังนี้:

  • สร้างความแตกต่าง: ไม่เน้นการแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว แต่สร้างความแตกต่างด้วยการออกแบบ, บริการ, และเทคโนโลยี
  • ขยายตลาด: ขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพื่อลดการพึ่งพิงตลาดในประเทศ
  • บริหารจัดการต้นทุน: ควบคุมและบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ
  • สร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้า: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าและลูกค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความภักดี

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

แนวโน้มของธุรกิจในอนาคต:

  • ตลาดไฟส่องสว่างในประเทศไทย: คาดการณ์ว่าจะเติบโต 6.3% ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า
  • ตลาด LED ทั่วโลก: ประเทศไทยมีสัดส่วนประมาณ 1% ของตลาด LED ทั่วโลก และ 20-25% ของตลาด LED ในอาเซียน
  • แรงขับเคลื่อนการเติบโต: การเปลี่ยนเทคโนโลยี, Smart Lighting, Green Building, และ Smart City จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ

วิสัยทัศน์และเป้าหมาย:

  • เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด Luxury และ High-End
  • ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
  • พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 40:32]

มีการถามคำถามจากนักลงทุนและผู้สนใจเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ดังนี้:

GPU ให้เช่า

  • คำถาม: สถานะปัจจุบันของ GPU ให้เช่าเป็นอย่างไร และมีแผนการทำ Recurring Income อื่น ๆ อีกหรือไม่
  • คำตอบ: GPU ให้เช่าได้ดำเนินการปล่อยเช่าเรียบร้อยแล้ว โดยได้ผู้เช่าเป็นสยาม AI ซึ่งมี Cluster ที่ลูกค้าต่างประเทศจะมาใช้งาน สัญญาเป็นระยะเวลา 1 ปี และมีการวางแผนสำรองหากลูกค้าไม่ต่อสัญญา รวมถึงมีแผนหาลูกค้าสำรองและการขายเครื่องหากมีผู้สนใจ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาโครงการ Recurring Income อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง

ผลประกอบการและงบ ENSOF

  • คำถาม: ผลประกอบการที่ขาดทุนเกิดจากอะไร และงบ ENSOF ที่รวมเข้ามาทำไมมีแต่ค่าใช้จ่าย รายได้ยังไม่รวมเข้ามา
  • คำตอบ: การขาดทุนเกิดจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ และการรับรู้รายได้ของ ENSOF เป็นไปตามมาตรฐาน TFRS15 ซึ่งรับรู้ตาม Percentage Progress ของงานที่ขึ้น หากงานยังไม่เริ่ม หรือ Progress ยังไม่เดิน รายได้จะยังไม่สามารถรับรู้ได้ แม้จะเก็บเงินมาแล้วก็ตาม ทำให้งบ ENSOF ที่รวมเข้ามาในไตรมาส 3 มีค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน แต่รายได้ยังไม่สามารถรับรู้ได้ทั้งหมด

สัดส่วนรายได้และผลกระทบจากเศรษฐกิจ

  • คำถาม: สัดส่วนรายได้ของธุรกิจไฟและ IT เป็นอย่างไร และเศรษฐกิจที่ไม่ดีมีผลกระทบต่อยอดขายหรือไม่
  • คำตอบ: สัดส่วนรายได้ IT จะมากขึ้นกว่าไฟในอนาคต และเศรษฐกิจไม่ดีมีผลกระทบต่อยอดขายไฟบ้าง แต่บริษัทได้หาช่องทางอื่น ๆ เช่น การส่งออก เพื่อสร้างรายได้ทดแทน และคาดว่าจะเริ่มเห็นผลในปีหน้า

การทำ Digital Transformation ให้เทศบาลและหน่วยงานภาครัฐ

  • คำถาม: มีรายละเอียดของการทำ Digital Transformation และนำ AI เข้าไปช่วยงานราชการอย่างไร
  • คำตอบ: บริษัทกำลังพูดคุยกับเทศบาลและหน่วยงานราชการหลายแห่งเพื่อทำ Digitalize และนำ AI เข้าไปช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น การรวบรวมเอกสาร การตอบคำถาม การ Search ข้อมูล โดยจะเริ่มจากเทศบาลกะรนเป็น Pilot Project และหากสำเร็จจะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

โครงการ Smart Park และ Smart City

  • คำถาม: มีความคืบหน้าของโครงการ Smart Park และ Smart City อย่างไร
  • คำตอบ: Smart Park คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ได้ 100% ไม่เกิน Q3 ปีหน้า โดยมียอด Backlog ประมาณ 130 ล้านบาท ส่วน Smart City กำลังทำในหลายจังหวัด และคาดว่าจะมีอีกอย่างน้อย 2 จังหวัดที่จะเริ่มขึ้นในปีหน้า

Synergy จากการควบรวมกับ ENSOF

  • คำถาม: การควบรวมกับ ENSOF มี Synergy อย่างไรบ้าง
  • คำตอบ: การควบรวมทำให้ LTS สามารถเข้างานราชการได้ทันที แบ่งปันประสบการณ์และทรัพยากร Cross-Selling สินค้าและบริการ เข้าถึงงานที่มีความมั่นคง และขยายงานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ที่มีความต้องการ Digital Transformation อีกด้วย

โดยรวมแล้ว LTS ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมและบริการ เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว