สรุป OPPDAY หุ้น LPN
Oppday
สรุป OPPDAY
LPN Oppday สรุปผลประกอบการปี 2568: โอกาสและความท้าทายในตลาดอสังหาฯ
สวัสดีครับน้องทุนทุกท่าน และผู้ที่สนใจเข้ารับฟังข้อมูลของ บมจ. LPN Development จํากัด มหาชน ผมนายวริษฐ์ มีเหมือน เป็นผู้อํานวยการสายงานการเงินและบัญชีของบริษัท LPN
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีปัจจัยทั้งบวกและลบที่ส่งผลต่อธุรกิจ
- ปัจจัยบวก:
- อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลง 3 ครั้ง ปัจจุบันอยู่ที่ 1.5% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ
- การคาดการณ์เศรษฐกิจมีการเติบโตประมาณ 2%
- มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจํานองที่ยืดไปถึงกลางปีหน้า (30 มิถุนายน 2569)
- ปัจจัยลบ:
- ภาวะเงินฝืด (Inflation ต่ำจนติดลบ) ในเดือนที่ผ่านมา
- การปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีแรกลดลง 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 13% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อน
- การเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่ลดลง 27% (Units) และ 18% (มูลค่า) ลดลงในทุก Segment โดยเฉพาะบ้านแนวราบราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท
- สินค้าคงค้างยังคงมีอยู่ค่อนข้างเยอะ และเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5% (ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ)
- บริษัทที่ Listed ในตลาดอสังหาฯ มีรายได้ลดลง 15% และกำไรลดลง 34%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
บริษัทมองเห็นโอกาสในการรักษาอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ รวมถึงมาตรการการโอนและจดจำนองที่ยืดไปถึงกลางปีหน้า
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
- ดัชนีวัสดุก่อสร้างและค่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง
- อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบ
- การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น
- การหาที่ดินในเมืองที่สามารถสร้างบ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 10 ล้านได้ยากขึ้น
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมีการจัดการต้นทุนและคัดเลือก Product รวมถึงการเพิ่ม Value Added เข้าไปใน Product
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
- บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการที่มีอยู่แล้ว
- จะมีการส่งมอบโครงการในไตรมาส 4 คือ Earn by LPN ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะชลบุรี มูลค่า 2,000 ล้านบาท
- ปีหน้ามี 2 โครงการที่จะส่งมอบคือ Place 168 ปิ่นเกล้า และ Place 168 วุฒากาศ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท
- มีการ Diversify ไปยัง Rental และ Service ซึ่งเติบโตขึ้น 10%
- เริ่มมีการขายทรัพย์สินที่เป็นให้เช่า (Investment Property) เช่น ที่รังสิตในโซน F ของโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต คลองหนึ่ง ขายไปแล้ว 95%
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 36:02]
ผลงานปี 2568 และแผนปี 2569
- ผลงานปี 2568:
ยอด Transfer และรายได้รวมต่ำกว่าปีก่อนประมาณ 20% แม้ว่าไตรมาส 4 จะมีการส่งมอบโครงการ Earn by LPN มูลค่า 2,000 ล้านบาท และมียอดขาย 30% แต่ก็ยากที่จะทำให้ตัวเลขเท่ากับปีก่อน อาจจะต่ำกว่าปีก่อนพอสมควร
- แผนปี 2569:
ยังไม่ออกมา จะมีการแถลงข่าวและแจ้งทางสื่อในช่วงต้นปีหน้า
ยอดขายตามแผน 8,500 ล้านบาท
9 เดือนทำได้ 5,500 ล้านบาท ไตรมาส 4 ไม่ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติม ทำให้ยอดขายจะให้ Achieve เท่ากับปีที่แล้วค่อนข้างยาก ไตรมาส 3 ขายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ดังนั้นยอดขายไตรมาส 4 อาจจะไม่ต่างจากเดิมมากนัก การจะไปถึง 3,000 ล้านบาทค่อนข้างเหนื่อย แต่ก็อยู่ในช่วงที่เร่งทำคะแนนในไตรมาสสุดท้าย
ช่วงที่เหลือของปีนี้เปิดอีกกี่โครงการ
ปีนี้ไม่มีเปิดตัวโครงการเพิ่มเติม เปิดไปทั้งหมด 2 โครงการ มูลค่า 2,100 ล้านบาท
ที่ดินในปีหน้ามีกี่แปลง มูลค่าเท่าไหร่
แนวราบมี 2 แปลงคือที่เจษฎาบดินทร์ (จะเปิดตัวช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า) และมีแปลงที่อักษะที่กำลังดูอยู่ว่าจะเปิดตัวช่วงไหน คอนโดมิเนียมมีที่นพรัตน์ (มีที่นพรัตน์รามอินทรา ซึ่งเป็นโปรเจคใหญ่พอสมควร), ที่บางบัวทอง, และที่พระราม 3 อีกแปลงหนึ่ง รวมตัวเลขประมาณ 5 แปลงนี้ถ้าตีเป็น Project Value ก็น่าจะมีตัวเลข 6-7 พันล้านขึ้นไป แต่การเปิดตัวอาจจะสไลด์เปิดเป็นปี 2569 - 2570 ถัดกันไป เพราะต้องดู Demand ในแต่ละจุดด้วยและดู Timing ที่เหมาะสม
แนวโน้มไตรมาส 4 เป็นอย่างไร
ไตรมาส 4 มีการส่งมอบโครงการใหม่ ตัวเลขเชื่อว่าจะทำได้ดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เพราะมีโปรเจคที่ส่งมอบใหม่เข้ามา ประกอบกับภาพที่เรื่องของแผ่นดินไหวต่างๆ ก็สงบไปค่อนข้างเยอะแล้ว อาจจะมีเหตุการณ์ในส่วนของอุทกภัยที่ภาคใต้ที่กำลังประสบกันอยู่ในปัจจุบัน อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบถึงเราโดยตรง แต่ก็ภาพรวมของสภาวะต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้เอื้ออำนวยขนาดนั้น ก็ต้องดูกันต่อไป
สรุป
LPN กำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่ก็ยังมีโอกาสในการเติบโตจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี การ Diversify ธุรกิจ และการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ผู้บริหารยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป