สรุปงบล่าสุด LPN

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ปี 2567
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้รวม 7,991.98 ล้านบาท เติบโต 7.62% จากปีก่อนหน้า แต่กำไรสุทธิกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือเพียง 110.55 ล้านบาท ลดลงถึง 68.65% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 352.66 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 115.55 ล้านบาท ถึงแม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 8.15% สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากการเร่งระบายสินค้าค้างสต็อก และการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ในโครงการแนวราบที่ขายได้ช้า รวมถึงการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,930 ล้านบาท และมียอดขายสะสม 8,545 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) คงเหลือ 1,719 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2568-2570
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต LPN ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเมือง ในราคาที่เข้าถึงได้ (Affordable Price) ภายใต้แนวคิด LPN Design โดยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่เพื่อลดต้นทุน (Economy of Scale) และรักษาความเร็วในการพัฒนาโครงการ (Economy of Speed) ควบคู่ไปกับการสร้างความแตกต่างด้วยกลยุทธ์ "ชุมชนน่าอยู่" (Livable Community) เพื่อสร้างความผูกพันกับลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีธุรกิจให้เช่าและบริการ รวมถึงธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการ ซึ่งมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังไม่ได้มีการประกาศเป้ารายได้หรือยอดขายที่ชัดเจน
การพิจารณา LPN เป็นโอกาสในการลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้ว่าราคาหุ้นจะค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอดีต และมีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่น่าสนใจ แต่ผลประกอบการที่ผันผวน โดยเฉพาะกำไรสุทธิที่ลดลงอย่างมากในปี 2567 เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง หากพิจารณาจาก P/E ratio ล่าสุดที่ 12.98 เท่า อาจดูไม่แพงนัก แต่ต้องคำนึงถึงแนวโน้มการเติบโตของกำไรในอนาคตด้วย นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ที่ 0.88 เท่า ยังถือว่าอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
**โอกาส:**
* ธุรกิจบริหารนิติบุคคล และ ธุรกิจให้เช่า มีการเติบโตต่อเนื่อง เป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง
* ความต้องการที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาในเมืองยังมีสูง
**ความเสี่ยง:**
* ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และความสามารถในการขอสินเชื่อ
* การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่รุนแรงขึ้น
**วิเคราะห์เพิ่มเติม:**
* **รายได้:** แม้ว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การเติบโตส่วนใหญ่มาจากธุรกิจให้เช่าและบริการ รวมถึงธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ
* **กำไร:** การที่กำไรสุทธิลดลงอย่างมาก เป็นผลมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าบริษัทฯ จะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำกำไรได้หรือไม่
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** การที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลง เป็นผลมาจากนโยบายการเร่งระบายสินค้าค้างสต็อก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจเป็นผลดีต่อการลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
* **อัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรสุทธิที่ลดลง สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในการทำกำไรของบริษัทฯ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และควบคุมค่าใช้จ่าย
* **D/E Ratio:** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 0.88 เท่า ถือว่าอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นมากเกินไป
* **ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อกำไร:** การตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ และค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกำไรในระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจเป็นผลดีต่อการลดความเสี่ยง และเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน
**สรุป:** การลงทุนใน LPN มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง นักลงทุนควรพิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ และติดตามผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มการเติบโตในอนาคต และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ
(7.14%)
(8.78%)
(28.19%)
(23.92%)
(22.66%)
(30.05%)
(10.67%)
(2.90%)
(350.50%)
(796.08%)
(1.94%)
(311.38%)