KBANK
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

กำไรสุทธิ 12,653 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2567 ลดลง 6.18% จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักคือรายได้ดอกเบี้ยลดลง 2.75% และรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง 2.66% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยลูกค้า

ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 5.67% จากการลงทุนด้านการตลาดและเทคโนโลยี แต่ธนาคารยังบริหารค่าใช้จ่ายพนักงานได้ดี KBANK มี NPL ที่ 3.18% และ Coverage Ratio อยู่ที่ 151.87%

โอกาสของ KBANK รวมถึงการเติบโตในธุรกิจประกันภัยและการขยายช่องทางบริการ ขณะที่ความเสี่ยงหลักคือเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ต้นทุนสูงขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรง


ผู้เขียน อจน. นุ้ย

สรุปด้วย AI(O) BOT

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 12,653 ล้านบาท ลดลง 6.18% จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง 1,060 ล้านบาท หรือ 2.75% เป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือลูกค้า นอกจากนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิก็ลดลง 221 ล้านบาท หรือ 2.66% ส่วนหนึ่งจากค่าธรรมเนียมรับจากธุรกิจบัตร และค่าธรรมเนียมรับจากการรับรองตัว อาวัล และค้ำประกัน

แม้ว่ารายได้สุทธิจากการรับประกันภัยจะปรับตัวดีขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ เพิ่มขึ้น 1,175 ล้านบาท หรือ 5.67% เป็นผลจากกิจกรรมทางการตลาด การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการขยายช่องทางการให้บริการลูกค้า และเงินช่วยเหลือแทนความห่วงใยให้แก่พนักงาน อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงบริหารจัดการค่าใช้จ่ายพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ณ ไตรมาส 2 ปี 2567 KBANK มี NPL (เงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) อยู่ที่ 3.18% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า Coverage Ratio (ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้) อยู่ที่ 151.87% โดยธนาคารได้พิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 11,672 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า เพื่อให้สำรองอยู่ที่ระดับเหมาะสมและรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ NIM (อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้) อยู่ที่ 3.73% และ Cost to Income Ratio อยู่ที่ 43.40%

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 KBANK มีสินทรัพย์รวม 4,247,540 ล้านบาท ลดลง 71,269 ล้านบาท หรือ 1.65% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยรายการที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญคือ:
- รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิ ลดลง 62,303 ล้านบาท หรือ 10.96% จากการบริหารสภาพคล่องของธนาคาร
- เงินลงทุนสุทธิ ลดลง 17,235 ล้านบาท หรือ 1.71% หลักๆ จากการลดลงของพันธบัตรรัฐบาล
- เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ เพิ่มขึ้น 23,822 ล้านบาท หรือ 0.97% จากการเติบโตของเงินให้สินเชื่ออย่างระมัดระวังตามยุทธศาสตร์ของธนาคาร

อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 6.35% และอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิตและเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 9.46%

โอกาสสำหรับ KBANK ในช่วงนี้ ได้แก่:
- การเติบโตของธุรกิจประกันภัย
- การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการลงทุน
- การขยายช่องทางการให้บริการลูกค้า
- การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

ความเสี่ยงที่ KBANK ต้องเผชิญในช่วงนี้ ได้แก่:
- เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า
- แนวโน้มต้นทุนที่สูงขึ้น
- การแข่งขันในตลาดธนาคาร
- ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

KBANK ยังคงมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินอยู่ที่ 19.42% และมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 17.46% อย่างไรก็ตาม การลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ อาจเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง จึงควรติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด KBANK เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวรอการเติบโตและรับเงินปันผล แต่เนื่องจาก YIELD ยังคงอยู่ในระดับสูง จึงอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้นได้เช่นกัน


NIM

3.67 %

NPL

3.18 %

COV

151.87 %

CREDIT

2,487,593.00 ล้านบาท

รายได้รวม
65,568.57 ล้านบาท
2,347.37ล้านบาท
(3.46%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1,012.13ล้านบาท
(1.57%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
238,584.36 ล้านบาท
5,644.59ล้านบาท
(2.31%)
ไตรมาสก่อนหน้า
7,440.48ล้านบาท
(3.22%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
363.87 ล้านบาท
4.27ล้านบาท
(1.19%)
ไตรมาสก่อนหน้า
5.82ล้านบาท
(1.63%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
32,189.74 ล้านบาท
1,044.35ล้านบาท
(3.35%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1,461.65ล้านบาท
(4.76%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
49.09 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
12,652.92 ล้านบาท
3,364.08ล้านบาท
(21.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1,658.64ล้านบาท
(15.09%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
19.30 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล