สรุป OPPDAY หุ้น ICHI
Oppday
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday ICHI: เจาะลึกผลประกอบการ Q3 ปี 2568 และทิศทางอนาคต
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ของอิชิตัน (ICHI) มีรายได้รวม 2,144.6 ล้านบาท ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) แต่ลดลง 10.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ:
- ปัจจัยภายนอก: สภาพตลาดเครื่องดื่มโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่, อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
- ปัจจัยภายใน: ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่เพิ่มขึ้น
ถึงแม้รายได้จะลดลงเล็กน้อย แต่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี โดยมีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 1,719.8 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิยังคงเป็นบวก
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
อิชิตันมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์:
- ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ความเสี่ยงที่สำคัญ:
- การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องดื่ม
- ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
- ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและนโยบายของรัฐ
ผลกระทบ: อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย, กำไร, และส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
มาตรการแก้ไข:
- เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน
- พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่ง
- ขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ๆ
- ลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
อิชิตันคาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มจะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2569 โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดต่างประเทศและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
เป้าหมายระยะยาว: เป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ
บริษัทให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้น นาทีที่ 38.17
กำไรสุทธิปี 2568 จะใกล้เคียงปีที่แล้วหรือไม่?
เป้าหมายคือให้กำไรสุทธิในไตรมาส 4 ใกล้เคียงกับไตรมาส 3 (ประมาณ 350 ล้านบาท) เพื่อให้กำไรทั้งปีใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ต้นทุนวัตถุดิบในไตรมาส 3 และ 4 เป็นอย่างไร?
ต้นทุนลดลงค่อนข้างเยอะ ประมาณ 2 ดิจิท โดยมีแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ส่งผลดีต่อต้นทุน packaging
ผลกระทบจากมาตรการรัฐ (คนละครึ่ง, บัตรสวัสดิการ)?
ได้รับประโยชน์แน่นอน ช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยและร้านอาหาร
แผนการเติบโตใน 5 ปีข้างหน้า?
นอกจากการเติบโตในประเทศแล้ว จะเน้นการขยายไปต่างประเทศ (New Business) โดยที่ผ่านมามีการคุยกับหลายสิบบริษัทแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะหลายรายทำไม่ได้ตามเป้าที่ตกลงกันไว้ ตอนนี้มีเงินสดพร้อมลงทุน แต่ยังไม่มีธุรกิจที่ถูกใจ
รายได้ OEM Q3 น้อยกว่าเป้า?
เป็นเรื่องของ seasonal โดย Q2 อยู่ที่ 9 แสนกว่าลัง, Q3 อยู่ที่ 6.7 แสนลัง, Q4 จะลดลงอีกเนื่องจากช่วง low season ของจีน
มี OEM รายใหม่หรือไม่?
มี คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ และเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 1 ปีหน้า เพื่อให้ OEM มีเสถียรภาพมากขึ้น
กำไรสะสมลดลงจาก 1,477 ล้านบาท เหลือ 549 ล้านบาท?
เกิดจากการเปลี่ยนรอบการจ่ายเงินปันผล โดยปีที่แล้วจ่ายหลังจบไตรมาส 3 แต่ปีนี้จ่ายเร็วขึ้น (จบไตรมาส 2)
มีคนถามเรื่อง Origin?
Origin ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอิชิตัน เป็นบริษัทส่วนตัวที่ทำธุรกิจโรงแรมที่เชียงใหม่ ศรีราชา และเขาใหญ่
เดือน 10-11 ยอดขายดีกว่าปีก่อนหรือไม่?
ดีกว่าปีก่อน โดยเฉพาะในตลาด Domestic
%GP ปี 2569 จะกลับไปเท่าปี 2567 ได้หรือไม่?
ปี 2568 คาดว่า GP จะไม่ต่ำกว่า 24.75% และ Net Profit จะอยู่ที่ประมาณ 16.50% ซึ่งปีหน้าน่าจะยังใกล้เคียงกัน
One Ocean ศรีราชาคืออะไร?
เป็นศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่ของอิชิตัน เพื่อปลูกฝังทัศนคติในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
คำถามเพิ่มเติม
สำหรับคำถามที่ยังไม่ได้ตอบ จะตอบกลับในเว็บไซต์
หัวข้อที่ถามและคำตอบโดยผู้บริหาร
- เป้าหมายกำไรสุทธิปี 2569: ใกล้เคียงปี 2568 โดยเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มยอดขาย
- การบริหารต้นทุน: มีแผนลดต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการผลิต
- แผนการลงทุน: พร้อมลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต
- การขยายตลาดต่างประเทศ: ให้ความสำคัญกับตลาดอินโดนีเซียและ CLMV
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่: มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
- One Ocean ศรีราชา: ศูนย์การเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
โดยสรุป อิชิตันยังคงเผชิญกับความท้าทายจากสภาพตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, และการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ