HENG
บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday HENG: เจาะลึกกลยุทธ์ขยายตลาดสู่เกษตรกร พร้อมรับมือความท้าทายในยุคเศรษฐกิจผันผวน ปี 2568

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปิตอล จำกัด (มหาชน) ยังคงดำเนินธุรกิจหลักด้านการให้บริการสินเชื่อ โดยแบ่งเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน

  • สัดส่วนสินเชื่อที่มีหลักประกันยังคงสูงถึง 96%
  • สินเชื่อไม่มีหลักประกันขยับขึ้นจาก 3% กว่า เป็น 4% โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 5%

สินเชื่อที่มีหลักประกันแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก:

  1. สินเชื่อจำนำทะเบียน
  2. สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง
  3. สินเชื่อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลง:

  • สัดส่วนเช่าซื้อรถยนต์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ 22%
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนเพิ่มขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ 72%
  • สินเชื่อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอยู่ที่ 2%

บริษัทต้องการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อไม่มีหลักประกัน โดยเน้นที่นาโนไฟแนนซ์ และยังคงให้บริการประกันชีวิต ประกันวงเงิน และประกันวินาศภัย

จำนวนสาขาลดลงจาก 960 สาขาในไตรมาส 2 เหลือ 900 สาขาในไตรมาส 3 โดยปิดสาขาที่ไม่มีประสิทธิภาพ

การกระจายตัวของสาขา:

  • ภาคเหนือ 31%
  • ภาคอีสาน 33%
  • ภาคกลาง 26%

บริษัทมุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืนในรูปแบบ ESG และได้รับการประเมินที่ระดับ 2A รวมถึงได้รับ 5 ดาวด้าน CG ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และได้รับการประเมิน 100 คะแนนเต็มด้านการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

บริษัทยังได้รับรางวัล Clean Office ตั้งแต่ปี 2565 และการรับรองโครงการต่อต้านทุจริตภาคเอกชน (CAC) อย่างต่อเนื่อง

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทมีกลยุทธ์ในการขยายตลาดไปยังกลุ่มเกษตรกรในรูปแบบนาโนไฟแนนซ์ โดยให้บริการสินเชื่อแก่เกษตรกรที่ปลูกพืชและปศุสัตว์

เป้าหมายคือการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อไม่มีหลักประกันจาก 4% เป็น 5% และเน้นสินเชื่อจำนำทะเบียนเป็นหลัก

บริษัทเปิดทางในเรื่องของสินเชื่อเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนหลังฤดูหนาวปี 2568

บริษัทได้ปูพื้นฐานโดยสร้างพันธมิตรเครือข่ายร้านค้าเกษตร 2,500 ร้านค้า และร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า 1,000 ร้านค้า

บริษัทพยายามผลักดันเรื่อง ESG ไปสู่ลูกค้าที่เป็นเกษตรกร โดยสนับสนุนการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และการเตรียมดินเพาะปลูกที่ไม่มีการเผา

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงโดยตรงในส่วนนี้ แต่จากข้อมูลผลประกอบการที่ลดลง อาจเป็นความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทมีการควบรวมสาขาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน รวมถึงปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับขึ้น

บริษัทมีแผนที่จะควบรวมในลักษณะที่มีความเชี่ยวชาญของบุคลากรพิเศษเฉพาะด้านขึ้นมา ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการให้บริการสินเชื่อ หรือการจัดเก็บหนี้

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทคาดการณ์ว่าการปล่อยสินเชื่อในปี 2569 จะมากกว่าปี 2568 แต่จะยังคงระมัดระวังและควบคุมการอนุมัติสินเชื่อเพื่อให้ได้พอร์ตที่มีคุณภาพ

บริษัทมุ่งเน้นการขยายตลาดสู่เกษตรกรและการให้สินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งน่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนในอีก 2 ไตรมาสข้างหน้า

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A ที่นาที 43:30]

  • ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อปี 2569
  • ผู้บริหาร: ยังคงเฝ้าระวังและปล่อยสินเชื่อแบบระมัดระวัง คาดว่าจะปล่อยได้มากกว่าปี 2568 แต่ไม่โหมปล่อย เน้นควบคุมการอนุมัติสินเชื่อเพื่อให้ได้พอร์ตที่มีคุณภาพดี

  • แนวโน้มการตั้งสำรองปี 2569
  • ผู้บริหาร: ด้วยทิศทางการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น มั่นใจในคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่ดีขึ้น ทำให้แนวโน้มการตั้งสำรองเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

  • ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 34.7% ใน Q3 เกิดจากอะไร
  • ผู้บริหาร: หลักๆ คือดอกเบี้ยจ่ายลดลง เนื่องจากมีการชำระพอร์ตเงินกู้ยืมไปค่อนข้างมาก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจากการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการชำระเงินกู้ยืมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง

  • แผนการปิดสาขาเพิ่มเติมใน Q4 ปี 2568 และปี 2569
  • ผู้บริหาร: ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายและปิดสาขาด้วยการควบรวม จะเห็นภาพจำนวนสาขาที่ลดลงในอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้า ยังมีการปิดสาขาเพิ่มเติมอยู่

  • การปิดสาขาจะมีผลกระทบต่อรายได้กี่เปอร์เซ็นต์
  • ผู้บริหาร: คิดว่าจะไม่กระทบกับรายได้ เนื่องจากรายได้หลักมาจากดอกเบี้ยรับจากพอร์ตลูกค้า การควบรวมสาขาและการเพิ่มช่องทางพันธมิตรที่มีอยู่ 9,500 ร้านค้า ถือเป็นการเพิ่มสาขาโดยไม่มีต้นทุนเพิ่ม

  • หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกสาขาที่จะปิด
  • ผู้บริหาร: คํานึงถึงผลประกอบการของสาขาเป็นหลัก สาขาที่มี NPL สูง ค่าใช้จ่ายสูง รายได้ไม่ดี จะถูกพิจารณาปิด โดยจะคงสาขาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในพื้นที่เดียวกัน และคํานึงถึงพันธมิตรในพื้นที่นั้นด้วย

  • เฮงใช้เกณฑ์อะไรในการคัดเลือกพาร์ทเนอร์/ร้านค้าให้สอดคล้องกับการเติบโตระยะยาว
  • ผู้บริหาร: เปิดกว้างสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นพาร์ทเนอร์ ถ้าคิดเห็นตรงกัน โดยมองว่าพาร์ทเนอร์เป็นหนึ่งในสาขาของบริษัทที่ช่วยสนับสนุนการหาลูกค้า และทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน ร้านค้าในอดีตมักจะซื้อขายด้วยเงินสด แต่เมื่อเป็นพันธมิตรกับเฮง จะเป็นการเพิ่มยอดขายให้ร้านค้า ลูกค้าได้รับเครดิตเงินผ่อน และเฮงได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

  • พาร์ทเนอร์ของเฮงช่วยส่งเสริมกำไรหรือคุณภาพพอร์ตสินเชื่อมากกว่ากัน
  • ผู้บริหาร: ช่วยส่งเสริมทั้งสองด้าน พาร์ทเนอร์จะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นในรูปแบบการให้สินเชื่อ และลูกค้าที่ผ่านทางร้านค้ามาต้องผ่านเกณฑ์การควบคุมและอนุมัติสินเชื่อของบริษัทอยู่แล้ว

  • จะขยายผลพาร์ทเนอร์ได้มากแค่ไหน ติดตามผลงานด้านไหนได้บ้าง
  • ผู้บริหาร: พาร์ทเนอร์ดำเนินธุรกิจตามปกติ แต่เมื่อเป็นพาร์ทเนอร์กับเฮง จะมีโอกาสได้ลูกค้ามากขึ้น โดยไม่มีผลกระทบใดๆ และทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน

    โดยสรุป, เฮงลิสซิ่งฯ กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาระดับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ แต่บริษัทก็มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการขยายตลาดไปยังกลุ่มเกษตรกรและสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพภายในองค์กรและการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว