สรุปงบล่าสุด HENG
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ หุ้น HENG บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3 ปี 2568
**สรุปสั้น:**
บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 จำนวน 6.1 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 13.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 68.5 (อ้างอิง: หน้า 6) สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 มีกำไรสุทธิ 71.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 57.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 426.7 (อ้างอิง: หน้า 2) พอร์ตสินเชื่อ ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่ 10,449.1 ล้านบาท ลดลง 2,757.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.9 จากสิ้นปี 2567 (อ้างอิง: หน้า 1)
**เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสล่าสุดในเอกสาร) จำนวนสาขาลดลง 118 สาขา คิดเป็นร้อยละ 11.6 จากสิ้นปี 2567 ทำให้มีสาขาทั้งหมด 900 สาขา ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 (อ้างอิง: หน้า 1)
**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
รายได้รวมสำหรับงวดสามเดือนลดลง 24.7% (171.9 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อและสัญญาเงินให้กู้ยืมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิง: หน้า 3) อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารลดลง 26.2% (74.4 ล้านบาท) จากการปรับโครงสร้างการบริหารงานและกระบวนการทำงาน (อ้างอิง: หน้า 3) ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง 5.0% (9.2 ล้านบาท) (อ้างอิง: หน้า 3) สำหรับงวดเก้าเดือน รายได้รวมลดลง 23.9% (528.3 ล้านบาท) แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 426.7% (57.6 ล้านบาท) เนื่องจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ลดลง (อ้างอิง: หน้า 5)
**สินเชื่อและสัดส่วน:**
พอร์ตสินเชื่อรวมลดลง 20.9% จากสิ้นปี 2567 (อ้างอิง: หน้า 1) อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อลูกหนี้รวมอยู่ที่ 6.5% เท่ากับสิ้นปี 2567 (อ้างอิง: หน้า 1) อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 1.5 เท่า ณ สิ้นปี 2567 เป็น 1.1 เท่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 (อ้างอิง: หน้า 1)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุนโดยตรงในเอกสาร)
**สรุปสั้นท้ายสุด:**
รายได้และกำไรของ HENG ได้รับผลกระทบจากการลดลงของพอร์ตสินเชื่อ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของบริษัท อย่างไรก็ตาม การลดลงของค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหาร รวมถึงผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ช่วยให้บริษัทสามารถรักษาระดับกำไรไว้ได้ แม้ว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 3 จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่สำหรับงวดเก้าเดือน กำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวที่ดีของบริษัทในการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสินเชื่อ (อ้างอิง: หน้า 3, 5)
(5.83%)
(24.71%)
(7.26%)
(25.06%)
(1.51%)
(0.47%)
(11.72%)
(26.25%)
(50.96%)
(68.53%)
(22.72%)
(21.59%)