สรุปงบล่าสุด GUNKUL
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568, GUNKUL มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 457.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.48% เมื่อเทียบกับ 379.41 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2) การเติบโตนี้มีสาเหตุหลักมาจากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจพลังงาน (พลังงานลมและแสงอาทิตย์) รวมถึงดอกเบี้ยรับตามสัญญาเช่าเงินทุนและรายได้อื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินงานที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 38.36% จาก 31.20% ในปีก่อน (หน้า 2-3) อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานตามปกติลดลง 3.55% เป็น 456.17 ล้านบาท (หน้า 2)
รายได้รวมในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 1,837.55 ล้านบาท ลดลง 22.48% จาก 2,370.33 ล้านบาทในปีก่อน (หน้า 3) การลดลงนี้เป็นผลมาจากรายได้ที่ลดลงในส่วนของการก่อสร้างและบริการ, การขาย และการขายทรัพย์สินตามสัญญาเช่าเงินทุน (หน้า 3)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้จัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 จำนวน 17 โครงการ รวม 832.4 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป (หน้า 4)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขายไฟฟ้า:** เพิ่มขึ้น 9.16% เป็น 586.80 ล้านบาท โดยรายได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเพิ่มขึ้น 29.24% เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าที่ดีและประสิทธิภาพ รวมถึงการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมในบริษัทร่วมทุน (หน้า 3)
* **รายได้จากการก่อสร้างและบริการ:** ลดลง 13.16% เป็น 731.78 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่และโครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำในปีก่อน (หน้า 5) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมี Backlog งานบริการก่อสร้างและงานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าราว 8,000 ล้านบาท ที่รอรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 และต่อเนื่องถึงปีหน้า
* **รายได้จากการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า:** ลดลง 34.10% เป็น 331.18 ล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 23.26% เป็น 27.03% จากการบริหารและควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น (หน้า 5)
* **รายได้จากการขายทรัพย์สินตามสัญญาเช่าเงินทุน:** ลดลง 90.64% เป็น 53.50 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้กลุ่มลูกค้าเอกชนกลุ่มค้าปลีกที่มีหลายสาขาในปีก่อน (หน้า 6)
* **รายได้ดอกเบี้ยรับตามสัญญาเช่าเงินทุน:** เพิ่มขึ้น 8.30% เป็น 108.07 ล้านบาท (หน้า 6)
* **ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า:** เพิ่มขึ้น 32.20% เป็น 257.37 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจพลังงานลม (หน้า 8)
* **ต้นทุนรวม:** ลดลง 36.45% เป็น 1,116.47 ล้านบาท สอดคล้องกับการลดลงของรายได้จากการขายและการรับเหมาก่อสร้าง (หน้า 8)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 30,895.83 ล้านบาท ลดลง 5.53% จาก 32,704.22 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 18)
* **หนี้สินรวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 16,684.30 ล้านบาท ลดลง 11.37% จาก 18,824.28 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 18)
**ภาพรวม 9 เดือน:**
* กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 1,308.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.71% เมื่อเทียบกับปีก่อน (หน้า 10)
* รายได้รวมอยู่ที่ 5,923.85 ล้านบาท ลดลง 20.76% (หน้า 10)
* อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 36.48% จาก 31.01% (หน้า 14)
**โครงการในอนาคต:**
บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดรวม 1,599 เมกะวัตต์ โดย 832 เมกะวัตต์อยู่ในประเทศไทยและอยู่ระหว่างการพัฒนา คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป (หน้า 18)
**กลยุทธ์ New S-Curve:**
บริษัทฯ กำลังขยายธุรกิจไปสู่ Green Data Center และโครงสร้างพื้นฐาน โดยร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ (หน้า 20)
**เป้าหมายการเติบโต:**
บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตในช่วง 3 ปี (2568-2570) ไม่ต่ำกว่า 10-15% จาก Backlog งานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและงานบริการก่อสร้างที่มีอยู่กว่า 8,000 ล้านบาท (หน้า 20)
(7.89%)
(31.12%)
(7.52%)
(26.37%)
(0.41%)
(6.90%)
(8.17%)
(29.72%)
(5.66%)
(20.48%)
(182.95%)
(66.45%)