สรุป OPPDAY หุ้น GPSC

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
GPSC: สรุป Oppday ปี 2567 ไตรมาส 4 - พลิกโฉมพลังงานสะอาด สู่ผู้นำภูมิภาค
สวัสดีค่ะ นักลงทุนทุกท่าน วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งเพื่อรายงานผลประกอบการของบริษัท GPSC หรือ Global Power Synergy จำกัด (มหาชน) สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2567 หรือประจำปี 2567 โดยวันนี้ทางบริษัทจะนำเสนอทั้งหมด 3 ช่วง ได้แก่ Business Overview กลยุทธ์ของบริษัท และผลประกอบการในปีที่ผ่านมา
GPSC ปัจจุบันยังเป็น Flagship ของกลุ่ม ปตท. โดยมีผู้ถือหุ้นในกลุ่ม ปตท. ทั้งหมด 75% ปตท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 55% และมี Public (นักลงทุนรายย่อย) ประมาณ 25% ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัท เรายังเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและพลังงานสะอาดของกลุ่ม โดยตั้งเป้าจะเป็น Top 3 ลำดับที่ 3 ของผู้ผลิตไฟฟ้าใน Southeast Asia และมีเมกะวัตต์มากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากไฟฟ้าพลังงานสีเขียว และตั้งเป้าที่จะเป็น Carbon Neutrality ในปี 2050 และ Net Zero ในปี 2060
ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทเอง เราได้รับการจัดลำดับ Credit Rating โดย Tris ที่ AA+ และโดย Fitch ในไทยก็ A+ ที่ต่างประเทศ International ก็ BBB- และก็ได้รับเป็น Member ของ Dow Jones Sustainability Index หรือ DJSI
ในปีนี้จะเห็น Development พัฒนาการของ GPSC ในปี 2020 Operating Capacity ของกลุ่ม ตอนที่เริ่มต้นก่อนที่เราจะไปเข้า Acquire ธุรกิจในประเทศอินเดีย เราจะมีกำลังการผลิตอยู่ประมาณ 4.7 กิกะวัตต์ หรือ 4,750 เมกะวัตต์ ด้วยเราใช้เชื้อเพลิงหลักๆ ในการผลิตไฟฟ้า ไอ น้ำ น้ำอุตสาหกรรม เป็นก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 72% สีฟ้า ถ้าเกิดสีเขียวเนี่ยก็จะเป็น Green หรือพลังงานไฟฟ้าสีเขียว Portfolio อยู่ที่ประมาณ 11%
วันนี้เอง ในปี 2024 GPSC มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 7,058 เมกะวัตต์ โดยที่กำลังผลิตจากพลังงานไฟฟ้าสีเขียวนะคะหรือพวกโซลาร์ วิน เพิ่มขึ้นมาใน Portfolio ที่ 40% เราไม่ได้มีเชื้อเพลิงพึ่งพิงเชื้อเพลิงอย่างใดอย่างเดียวนะคะในการผลิตไฟฟ้านะคะ สัดส่วนของก๊าซธรรมชาตินะคะจาก 72% วันนี้เหลือประมาณ 40%
แล้วในส่วนของตัว Committed Capacity ในปี 2029 ก็จะมีทั้งหมดประมาณ 14 กิกะวัตต์ หรือ 14,076 เมกะวัตต์ ตรงนี้ตามภารกิจหลักๆ ของ GPSC เราบรรลุนะคะ การที่เราขยาย Portfolio ที่เป็น Renewable Energy หรือพลังงานไฟฟ้าสีเขียวขึ้นไปถึง 68% นะคะแล้วสัดส่วนของก๊าซธรรมชาตินะคะก็จะเหลือประมาณ 24% โดยที่เราจะเห็นว่ากำลังการผลิตเราเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 3 เท่านะคะนับจากปี 2020 หลักๆ ก็จะเป็น Solar Portfolio นะคะที่เรามีการขยายการลงทุนในประเทศอินเดียนะคะ แล้วก็เรามีการลงทุนในประเทศไต้หวันเพิ่มขึ้นมานะคะ ในปีที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จในการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวรายละเอียดจะพูดในหน้าถัดไปนะคะ
จากการ Diversify Portfolio นะคะแล้วเราก็มีการบริหารจัดการโครงสร้างรายได้นะคะ มีการใช้แหล่งเชื้อเพลิงในการผลิตที่หลากหลายนะคะ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่ผ่านมานะคะ จะเห็นว่าผลประกอบการของปี 2024 นะคะ หรือ 2567 นะคะ เรามีกำไรนะคะเพิ่มขึ้น 10% นะคะอยู่ที่ 4,062 ล้านบาทนะคะ สาเหตุหลักๆ นะคะมาจากตัวลูกค้านะคะกลับมาผลิตนะคะแล้วก็มี Volume ที่เพิ่มขึ้นนะคะ เป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 27% นะคะ ขณะเดียวกันต้นทุนการผลิตของก๊าซในปีที่ผ่านมามีการปรับตัวลดลงนะคะอยู่ประมาณ 17% นะคะ
แต่มี FT นะคะที่ลดลงเช่นกันแล้วก็ลดลงมากกว่าด้วย ที่ 55% นะคะ FT ทั้งปีในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 39.72 สตางค์นะคะ แต่ทางบริษัทเองเนี่ยมีอย่างที่เรียนน่ะค่ะมีเชื้อเพลิงที่หลากหลายในการเลือกในการผลิตรวมถึงมี Network นะคะในการบริหารการจัดการต้นทุนนะคะ ดังนั้นเราก็ยังสามารถมีรายได้นะคะอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นล้านบาทนะคะถึงแม้จะลดลงจากผลหลักๆ บางส่วนนะฮะที่มาจาก FT หรือก๊าซที่ลดลงนะคะ แต่ว่า EBITDA ท่านจะเห็นว่า EBITDA เรามี EBITDA ที่เพิ่มขึ้นนะคะอยู่ที่ประมาณ 8% นะคะ
แล้วก็ Highlight ของตัวโครงการที่สำเร็จในปีที่ผ่านมานะคะ ที่ส่งเสริมต่อ Net Income ที่ดีขึ้นนะคะ ก็คือเรามีตัวโรงไฟฟ้าที่ COD นะคะของตัว SPP 2 Replacement นะคะแล้วก็ของบริษัทลูกนะคะของ IRPC Clean Power ส่วนขยายนะคะ ตรงนี้เองก็ทำให้ Efficiency หรือว่าการบริหารจัดการต้นทุนเราเนี่ยดีขึ้นเนื่องจาก Heat Rate ของตัวโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เนี่ยก็จะดีขึ้นเช่นกันนะคะ ถัดมาจะเห็นว่าการ การที่เราลงทุนในต่างประเทศนะคะก็เริ่มพี่ดอกออกผลนะคะ ตัว ตัว ชางฟัง ซีดาวที่เราลงใน Wind Offshore ที่ไต้หวันนะคะก็ปีนี้นะคะก็คาดว่าจะได้รับรายได้นะคะเต็มปีนะคะจากไทย Power นะคะของของการขายไฟที่ไต้หวันนะคะ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 595 เมกะวัตต์นะคะ GPSC ถือหุ้นที่ 25% นะคะ
แล้วก็ Awada นะคะ AEPL ที่ GPSC ถือหุ้นอยู่ประมาณ 43% นะคะก็มีกำลังการผลิตที่เติบโตที่ชัดเจนมากขึ้นนะคะแล้วก็เริ่มทยอยรับรู้รายได้นะคะใน ในช่วงแรกนะคะ ถัดมาก็จะเป็นเรื่องของการ M&A นะคะ GPSC ได้มีการปรับโครงสร้างนะคะร่วมกับกลุ่ม ปตท. นะคะมีการเข้าซื้อหุ้น 50% นะคะของ CRP นะคะเป็นบริษัทลูกนะคะ อันนี้มีการลงทุนที่เป็นโซลาร์ในไทยนะคะแล้วก็ที่ไต้หวันนะคะ ปีนี้ก็จะมีการ Consolidate ตัว CRP เข้ามานะคะก็ยกะระดับ EBITDA เพิ่มขึ้นนะคะก็ต่อยอดตัวความแข็งแกร่งของทางการเงินแล้วก็สัดส่วน Ratio ต่างๆ ของบริษัทนะคะ
สุดท้ายนะคะ Highlight หลักๆ ก็คือการที่ GPSC มี มีการร่วมทุนกับ Partner นะคะหรือ Keppel นะคะที่เป็นผู้ผลิตพลังงานนะคะ เอ่อ ในประเทศสิงคโปร์นะคะแล้วต่อยอดในการขยายธุรกิจตัว District Cooling นะคะหรือว่า Energy Solution นะคะในประเทศไทยต่อยอดกับอาคารต่างๆ นะคะทั้งโรงเรียน โรงแรมหรือว่าโรงพยาบาลต่างๆ นะคะเพื่อที่จะได้ทำการขยายตัวเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อต่อยอดของ Energy Saving นะคะแล้วก็ส่งผลต่อผลประกอบการของ GPSC ได้ดีขึ้นนะคะ
หน้า นี้เองก็จะเป็น Highlight นะคะเช่นกันนะคะ ว่า ใน ในเดือนที่ผ่านมานะคะผลประกอบการของ GPSC ก็มีการปรับตัวที่ดีขึ้นนะคะ ดังนั้นทุกท่านก็จะเห็นว่าเราก็ขาดไม่ได้นะคะในส่วนของตัวเงินปันผลนะคะ เนื่องจากตามนโยบายขั้นต่ำของเงินปันผลของเราจะต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 30 ร้อยละ 30% นะคะของกำไรสุทธินะคะ แต่คณะกรรมการบริษัทปีนี้เห็นว่าผลประกอบการที่ดีแล้วเราก็มีกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแข็งแกร่งนะคะถึงแม้จะเผชิญความท้าทายต่างๆ นานาอย่างที่ทุกท่านเห็นนะคะในธุรกิจไฟฟ้านะคะ ก็ได้รับการอนุมัติในการจ่ายเงินปันผลนะคะทั้งปีนะคะอยู่ที่ 90 สตางค์นะคะ โดยที่ครึ่งปีแรกมีการจ่ายไปแล้วนะคะอยู่ที่ 45 สตางค์นะคะแล้วก็เหลือจ่ายอีก 45 สตางค์นะคะก็จะจ่ายเมื่อเราได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นนะคะในปี 2568 นะคะโดยที่จะจ่ายให้กับผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏ Record Date นะคะในวันที่ 4 มีนาคมแล้วก็จะขึ้นเครื่องหมาย XD นะคะในวันที่ 13 มีนาคมนี้นะคะ แล้วก็กำหนดจ่ายในวันที่ 23 เมษายนนะคะแต่ก็อดใจรอนิดนึงนะคะเดี๋ยวรอผู้ถือหุ้นอนุมัตินะคะแล้วก็เราจะดำเนินการตามตารางที่เราได้มี Commitment ที่ได้อนุมัติมาตามนี้นะคะ แล้วก็อีก Highlight นึงก็คือปีนี้ตัว Pay out Ratio นะคะก็ขึ้นไปที่ 62.5% นะคะ
ใน Part ถัดมานะคะจะเป็นกลยุทธ์นะคะ กลยุทธ์นี้เราไม่ ไม่ ไม่ขอโฟกัส ในมุมที่หลากหลายนะคะขอโฟกัสเลยว่าตัวที่จะทำให้ทาง GPSC มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมีผลประกอบการที่มั่นคงนะฮะ หลักๆ เลยนะฮะกลยุทธ์แรกเนี่ยขาดไม่ได้ที่เป็น Core Business ของ GPSC นะคะ ดังนั้นทุกคนฝ่ายจัดการทุกคนของบริษัทเนี่ยเราก็จะต้องProvide ตัว ผลิตภัณฑ์นะคะที่เป็นทั้งไฟฟ้า ไอ น้ำ น้ำอุตสาหกรรมนะคะให้กับลูกค้านะคะได้อย่างต่อเนื่องนะคะและมั่นคง ดังนั้นเรามั่นใจได้เลยว่าจาก Baseline ของการบริหารจัดการ Unit Trip เองนะคะเราดีกว่าเป้าหมาย หรือว่า Baseline ของของในนิคมนั้นเองนะคะ ดังนั้นตรงนี้เราก็จะสามารถมีกระแสเงินสดแล้วก็มีรายได้ที่ที่ต่อยอดอย่างมั่นคงเช่นกันนะคะ โดยการต่อยอดตรงนี้นะคะทาง Operation เองเนี่ยเราก็พยายามดูเรื่องของมาตรฐานยกะระดับมาตรฐานนะคะต่างๆ นานาใน ในส่วนของการที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการในภาพรวมนะคะทั้งในมุมของ Opex นะคะทั้งในมุมของการบริหาร Efficiency นะคะ ในมุมของการเพิ่มประสิทธิภาพ Optimize ของตัว Spa part นะคะเนื่องจากตัว ใน Map เองเราก็จะมี Network นะคะเราก็คิดว่าตรงนี้จะเป็น Core Value หลักๆ นะคะในการที่จะ บริหารจัดการลูกค้าแล้วก็ยกะระดับ EBITDA ในปีนี้นะคะ
อย่างที่เรียนไปนะคะด้วย Power Sector ที่ผ่านมาค่อนข้างจะมี ความท้าทายนะคะ แต่กลยุทธ์ของ GPSC เองนะคะเราสามารถบริหารจัดการที่ชัดๆ เลยนะคะแบ่งเป็น 3 ด้านนะคะ ด้านแรกเลยเรามีความแข็งแกร่งทางด้าน สายส่งและ Network นะคะ ด้านภาพด้านซ้ายทุกท่านจะเห็นว่าเรามีการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าทั้ง ด้าน มุมสีเขียว สีเหลือง สีส้มทุกท่านจะเห็นแต่ละ แท่งเนี่ยก็จะสะท้อนต้นทุนในการผลิตนะคะ เรามีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงนะคะเราก็คาดว่าเราสามารถบริหารจัดการเชื้อเพลิงที่หลากหลายไม่ได้พึ่งพาก๊าซธรรมชาติอย่างเดียวก็จะสามารถบริหารจัดการ Margin ได้เช่นกันนะคะ ทางด้านขวามือนะคะท่านจะเห็นว่าเอ้ยก็จะมีประเด็นเรื่อง FT นะคะ ก็จะให้ให้เห็นว่าด้วย Portfolio ของ SPP ของเราเองแล้วนะคะก็จะ มีโครงสร้างทางรายได้ ค่อนข้างหลากหลายเช่นกันนะคะทั้งในมุมของการที่ขายไฟฟ้าขายไอ น้ำ ไอ น้ำแน่นอนเลยว่าเป็น การส่งผ่านต้นทุนในการผลิตนะคะ ในโครงสร้างรายได้นะคะดังนั้นเราจะมี Margin ที่แน่นอนนะคะ ไฟฟ้าจะมีบางส่วนเท่านั้นนะคะที่อ้างอิงตัว FT นะคะ แต่ด้วย Benefit ต่างๆ ของการบริหารจัดการเชื้อเพลิงเราก็มั่นใจได้ว่าเราก็จะสามารถบริหารจัดการ Margin ของเราได้ดีอย่างต่อเนื่องนะคะ
ค่ะ แล้วก็สุดท้ายเลยเนี่ยที่ทางด้าน Operation ให้ความสำคัญนะคะก็คือเรื่องของการบริหารจัดการ Fuel Source นะคะจากก๊าซแล้วก็ถ่านหินนะคะ หน้า ถัดไปเลยค่ะ หน้านี้จะตอกย้ำให้ทุกท่านเห็นนะคะว่ากลยุทธ์ที่ GPSC ได้ ได้ วางแผนมานะคะเป็นกลยุทธ์ที่ ที่ ที่คิดว่าทำให้เราสามารถ Maintain นะคะลูกค้านะคะ ในนิคมได้อย่างต่อเนื่องนะคะเนื่องจากเราสามารถบริหารจัดการ Network นะคะมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งนะคะมีการProvide ตัว Utility ทั้งไฟฟ้า ไอ น้ำ แล้วก็น้ำอุตสาหกรรมนะคะแล้วก็ด้านขวามือเนื่องจากรายได้เราก็อยู่ที่ประมาณ 19 หมื่นล้านบาทนะคะรายได้ก็จะมาจาก กฟผ. นะคะแล้วก็มาจากลูกค้าอุตสาหกรรมนะคะอย่างที่เรียนไปว่าเรามีความเสี่ยงของตัว FT นะคะอยู่แค่บางส่วนในส่วนของตัวไฟฟ้าเท่านั้นนะคะประมาณ 30% นะคะที่เหลือก็จะส่งผ่านต้นทุนไปทั้งหมดค่ะ สำหรับกลยุทธ์ถัดไปอันนี้ขาดไม่ได้นะคะ
ก็อย่างที่เรียนไปว่ากลยุทธ์นี้ทำให้ เอ่อ กำลังการผลิตหรือ Portfolio ของ GPSC นะคะได้บรรลุตามภารกิจที่เราตั้งเป้าหมายไว้นะคะ แต่กลยุทธ์นี้นะคะเรามุ่งเน้นในเรื่องของการ Scale up ของตัว เอ่อ Renewable Portfolio หรือไฟฟ้าสีเขียวของเรานะคะทั้ง Thailand ทั้งในประเทศไทยนะคะแล้วก็ต่างประเทศนะคะ โดยในประเทศไทยเองเนี่ยเราก็มีความแข็งแกร่งร่วมกับ Partner นะคะที่มีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคนะคะหรือว่าเป็นเจ้าของพื้นที่นะคะในประเทศไทยในการต่อยอดแล้วก็เราก็สามารถบริหารจัดการต้นทุนแล้วก็มีความ Competitive รวมถึงความเชี่ยวชาญของในกลุ่ม ปตท. ที่เรามีด้านของการจัดหาเงินนะคะก็จะทำให้โครงการต่างๆ เนี่ยก็สามารถได้รับ Return นะคะถึงแม้ว่าจะประสบเรื่องของ เอ่อ การ เอ่อ Regulate ในมุมของ รายได้ค่าไฟหรือว่าแผนงานต่างๆ นะคะเราก็ยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตามนโยบายภาครัฐในประเทศไทยนะคะ อีกด้านนึงนะคะที่เรา เอ่อ เป็นแชมเปี้ยนนะคะจาก เอ่อ กลยุทธ์ของ ปตท. ก็คือให้ GPSC นะคะเป็น เอ่อ แชมเปี้ยนของ Decarbonization นะคะในนิคมมาบตาพุดนะคะ
อย่างที่เรียนไปว่าลูกค้ าหลักๆ ของเราในนิคมนะคะก็ต้องการไฟฟ้าที่มีความเสถียรภาพแล้วก็มั่นคงนะคะ แต่ต่อยอดด้วยการส่ง มอบไฟฟ้าสีเขียวนะคะทำยังไงให้เราสามารถได้ไฟฟ้าสีเขียวได้ 24/7 คือ 24 ชั่วโมงนะคะดังนั้นเราสามารถ Provide ทั้ง Network ตรงนี้ค่ะในการบริหารจัดการ Source ของการผลิตเนี่ยได้ค่อนข้างหลากหลายใน Network ตรงนี้มากขึ้นนะคะก็ยังเป็นเป้าหมายนะคะแล้วก็พยายามขยาย Portfolio แล้วก็ดำเนินการ Network เนี่ยให้แข็งแกร่งมากขึ้นในนิคมนะคะ ด้านขวามือจะเห็นว่าเราก็ไปลงทุนในประเทศอินเดียนะคะ อินเดียเองนะคะด้วยตัวลักษณะของ PPA นะคะก็จะเป็นลักษณะคล้ายๆ ประเทศไทยในมุมของ Fit In Tariff นะคะดังนั้นแล้วก็มีสัญญาระยะยาวดังนั้นมั่นใจได้ว่าถึงแม้ว่าตัว เอ่อ กำไรสุทธิในช่วงต้นอาจจะยังไม่กลับมานะคะแต่ถ้ามองเห็น EBITDA ของตัวโปรเจคเนี่ยนะคะก็คือจะมีการ EBITDA ที่เติบโตตามเมกะวัตต์ที่ ที่กำลังแบบ COD นะคะ ปี 2024 นะคะกำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของอินเดียนะคะอยู่ที่ประมาณ 4.7 กิกะวัตต์หรือ 4,600 เอ่อเมกะวัตต์นะคะ
แล้วก็เรามี Committed นะคะที่ Building ได้แล้วก็ร่วมอยู่ในระหว่างการก่อสร้างแล้วก็อยู่ในการพัฒนานะคะรวมแล้วทั้งหมดอยู่ประมาณ 20,000 เมกะวัตต์นะคะที่อินเดีย GPSC ถือหุ้นอยู่ประมาณ 43% นะคะ แล้วก็ตัวที่เป็น Highlight เช่นกันนะคะก็คือที่ไต้หวันนะคะอันนี้ก็ประสบความสำเร็จตามแผนนะคะ COD ได้ทั้ง 62 ต้นเรียบร้อยแล้วนะคะแล้วก็เราก็มี เอ่อ ลูกค้า Off Taker นะคะเป็นไทย Power นะคะก็ค่อนข้างมี Credit ที่แข็งแกร่งดังนั้นมั่นใจได้ว่ากระแสเงินสดกลับมาที่บริษัทแน่นอนค่ะ สำหรับกลยุทธ์ที่ 3 และ 4 นะคะขอ ขอเชิญคุณ พัชชุดาค่ะ
ค่ะก็สำหรับกลยุทธ์นะคะที่ 3 นะคะหรือว่า New S Curve นะคะก็เป็นกลยุทธ์ที่เราเข้ามารองรับในเรื่องของ New Energy Transition นะคะ แล้วก็ในลักษณะสนับสนุนในเรื่องของ Decarbonization ในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุดนะคะแล้วก็สนับเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนลูกค้าของเรานะคะให้มี Green Competitive ที่สามารถจะแข่งขันในตลาดการส่งออกได้นะคะ โดยในกลยุทธ์ S3 นะคะเราก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะคะในส่วนแรกก็จะมุ่งเน้นในเรื่องของ Energy Future นะ คะผ่าน โครง การ Small Modular Reactor หรือว่า SMR นะคะ โดยการพัฒนา SMR ของเรานะคะเราก็จะมุ่งเน้นปัจจัย 4 4 ประการนะคะซึ่ง เรื่องแรกเนี่ยก็จะเป็นในเรื่องของการจัด เอ่อ จัดจำหน่ายแล้วก็ผลิต และจัดจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมนะคะอย่างมีเสถียรภาพ 2 ก็จะเป็นในเรื่องของการบริหารต้นทุนนะคะเพื่อให้มีราคาขายไอที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ 3 ก็จะเป็นในเรื่องของสิ่งแวดล้อมนะคะก็คือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วก็ 4 นะคะจะเป็นในเรื่องของความปลอดภัยนะคะ ที่จะต้องมีความปลอดภัยที่สูงนะคะ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนะคะเราก็ เอ่อ ร่วมการศึกษากับ Partner นะ คะก็คือ Cbox นะคะซึ่ง Cbox เนี่ยเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาพลัง อ่า เทคโนโลยีพลังงานของประเทศเดนมาร์กนะคะโดย ณ ปัจจุบันนะคะเราก็อยู่ในเฟสที่ศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นนะคะแล้วก็คาดว่าจะได้รับผลลัพธ์เนี่ยในช่วงประมาณไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ค่ะ
แต่สำหรับในการ อ่า ในการลงทุนในโครงการนะคะเราก็ อ่า จะเป็นไปตาม Align กับแผน PDP ของประเทศไทยนะคะซึ่งก็คาดว่าจะอยู่ในช่วงประมาณปี 2578 นะคะ แล้วก็กำลังการผลิตเป้าหมายที่เราตั้งเป้าเอาไว้นะคะก็จะอยู่ที่ประมาณ 200-400 เมกะวัตต์ค่ะ แล้วก็อีกในส่วนหนึ่งนะคะก็คือ เอ่อ กลยุทธ์ S3 นะคะเราก็มุ่งเน้นในเรื่องของการลด การ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นะคะผ่านโครงการหลักๆ 2 โครงการนะคะ ก็คือในเรื่องของตัว Carbon Capture System นะคะ ซึ่งปัจจุบันเนี่ยเราก็ทำดำเนินโครงการร่วมกับในกลุ่ม ปตท. นะคะโดยมุ่งเน้นในเรื่องของการดักจับแล้วก็กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีประสิทธิภาพนะคะรวมถึงก็ร่วมศึกษากับ Technology Partner ของเรานะคะ เพื่อที่จะพัฒนาให้เป็น Carbon Capture as a Service ในอนาคตค่ะ แล้วก็อีกโครงการนึงนะคะก็จะเป็นในเรื่องของ แอมโมเนีย โคฟลิ่ง นะคะ ก็คือจะเป็นการนำก๊าซแอมโมเนียนะคะเข้ามาเป็นต้นทุนในการผลิตนะค่ะ เอ่อ ในโรงไฟฟ้าถ่านหินนะคะเพื่อที่จะช่วยลดต้นทุน เอ่อ ขออภัยค่ะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นะคะซึ่งเราก็มีเป้าหมายนะคะที่จะนำตัวแอมโมเนียเนี่ยเข้ามาอยู่ที่ประมาณ 50% นะคะเพื่อที่จะ เอ่อ ลดเลเวลการปล่อยก๊าซ เอ่อ คาร์บอนไดออกไซด์ของโรงไฟฟ้าถ่านหินให้เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงค่ะ
ค่ะ หน้าถัดไปค่ะ ค่ะ สำหรับกลยุทธ์ถัดไปนะคะก็จะเป็นกลยุทธ์ S4 นะ คะ หรือ Shift to Customer Centric นะ คะ ก็ GPSC นะ คะ ปัจจุบันเราก็ดำเนินกลยุทธ์นะคะผ่านบริษัทในเครือนะคะก็คือบริษัท CHP นะ คะเป็นบริษัทย่อยที่เราถือหุ้นอยู่ที่ 100% นะ คะ เราก็ดำเนินกิจการนะคะโดยเน้นในเรื่องของ Innovative Energy Solution นะ คะ ก็จะเน้นในเรื่องของการทำ Power as a Service นะ คะ Battery as a Service แล้วก็ Cooling as a Service นะ คะ โดย อ่า โดยบริการหลักๆ ที่เรานำให้กับลูกค้านะคะก็จะเป็นในเรื่องของ EPC นะ คะ การทำ Energy Optimization รวมถึงในการจัดเตรียมในเรื่องของ Carbon Credit Certification ให้กับลูกค้าด้วยนะคะ โดยลูกค้าหลักๆ ก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นอาคารสีเขียวนะคะ โรง งานสีเขียวแล้วก็ Smart Solution ค่ะ โดยสำหรับ CHP นะ คะ เราก็มีเป้าหมายนะคะที่จะขยายตัว Demand นะ คะของ Power as a Service นะ คะให้ได้ประมาณ 200 เมกะวัตต์นะคะภายในปี 2571 ค่ะ แล้วก็ทางด้านขวานะคะก็จะเป็นในส่วนของ Cooling as a Service นะคะซึ่งเราก็ดำเนินการนะคะผ่านบริษัท Cool Connect นะ คะก็เป็นบริษัทร่วมทุนของ GPSC แล้วก็ Keppel นะ คะซึ่ง Keppel ก็เป็นบริษัท เอ่อ เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตแล้วก็จัดจำหน่ายสาธารณูปโภคจากประเทศสิงคโปร์นะคะก็สำหรับ Cool Connect นะ คะเราเองก็มีบริการนะคะในลักษณะของ One Stop Service นะ คะแล้วก็เป็น Taylor Solution นะ คะก็คือบริการตั้งแต่ออกแบบนะคะติดตั้งซ่อมบำรุงลงทุนแล้วก็จัดทำสัญญาระยะยาวนะคะให้กับลูกค้า โดยลูกค้าหลักๆ นะคะก็จะเป็นอาคารพาณิชย์นะคะที่เป็น Mix นะ คะ โรงพยาบาล นะคะ โรงงานแล้วก็ตัว Data Center นะ คะ รวมถึง เอ่อ โรงงานอุตสาหกรรมนะคะที่เป็น อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความต้องการการใช้น้ำเย็นในปริมาณที่สูงนะคะ โดยเราก็ตั้งเป้าเอาไว้นะคะว่าจะขยาย Demand ของลูกค้านะ คะประมาณ 10 เท่าของปัจจุบันนะคะ หรือว่าอยู่ที่ประมาณ 100,000 ตันความเย็นค่ะ
ค่ะ ถัดไปค่ะ ค่ะ ในส่วนถัดไปนะคะก็จะเป็นการอัปเดตนะคะของโครงการ นะคะ ก็จะขอ เอ่อ ขอ recap นิดนึงนะคะ โครงการ นะ คะ ก็จะเป็นโรงไฟฟ้านะคะที่จะผลิตไฟฟ้าแล้วก็ไอ น้ำ นะ คะโดยใช้เชื้อเพลิงจากกากน้ำมันแล้วก็เป็นโครงการที่อยู่ภายใต้โครงการ CFP นะ คะ ของบริษัท ไทยออยล์โดย ณ ปัจจุบันนะคะ ความก้าวหน้าของโครงการเนี่ยอยู่ที่ประมาณ 95% นะ คะ โดยเงินลงทุนทั้งโครงการนะคะอยู่ที่ 757 ล้านดอลลาร์สหรัฐนะคะแล้วก็นะ ณ ปัจจุบันนะคะ GPSC เราก็รอเงินลงไปนะคะประมาณ 15% นะ คะ หรือว่า 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐนะคะทีนี้ในส่วน เงินลงทุนส่วนที่เหลือนนะคะก็ ตามสัญญานะคะ GPSC เนี่ยเราจะชำระเงินลงทุนส่วนที่เหลือก็ต่อเมื่อโครงการนะคะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วก็ทางไทยออยล์นะคะก็ส่งมอบโครงการเรียบร้อยนะคะ แต่ก็อย่างที่ อ่า ทุกท่านทราบนะคะก็คือตอนนี้เนี่ย อ่า การ COD นะคะก็จะเลื่อนไปเป็นในปี 2572 นะ คะแล้วก็เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานะคะทางไทยออยล์ก็ ทาง เอ่อ ที่ประชุม EGM นะคะของทางไทยออยล์ก็มีการอนุมัติการเพิ่มทุนนะคะ ในการลงทุนในโครงการ CFP เรียบร้อยแล้วนะคะ แต่สำหรับฝั่งของ GPSC เองนะคะ เอ่อ การเพิ่มทุนนะคะเราก็อยู่ระหว่างการพิจารณาแล้วก็เจรจาอยู่นะคะ ถ้าเกิดว่ามีความคืบหน้าอย่างไรนะคะเราก็จะนำมาเรียนให้กับท่านนักลงทุนทราบนะคะ แต่ว่าเราก็ให้ความมั่นใจได้นะคะว่า เอ่อ ใน ในเรื่องของผลตอบแทนนะคะเราก็ยังคงได้รับผลตอบแทนตามที่เราตั้งเป้าเอาไว้นะคะตาม Target ที่เราเข้าร่วมลงทุนในครั้งแรกค่ะ
ค่ะ ถัดไปค่ะ ค่ะ ในส่วนถัดไปนะคะก็จะเป็นในเรื่องของความท้าทายนะคะในปี 2568 นะ คะ ก็เรามีปัจจัยภายนอกนะคะ หลักๆ เลยเนี่ยก็จะเป็นในเรื่องของ Rule and Regulation นะ คะก็เป็นนโยบายทางภาครัฐนะคะอย่างที่ทุกท่านทราบกันนะคะ ประการที่ 2 นะ คะก็จะมาในเรื่องของการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานะคะ ของ ท่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นะคะก็นโยบายต่างๆ นะคะก็อาจจะมีส่งผลในหลายๆ ภาคส่วนนะคะทั้งในด้านบวกแล้วก็ในด้านลบนะคะแล้วก็ในปัจจัยในเรื่องของเศรษฐกิจนะคะทั้งเศรษฐกิจโลกแล้วก็เศรษฐกิจไทยนะคะที่ก็อยู่ในภาวะชะลอตัวนะคะ แต่ว่าใน GPSC เองนะคะเราก็มีการติดตามสถานการณ์นะคะแล้วก็ประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดนะคะรวมถึงมีความพยายามในการที่จะปรับตัวนะคะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงนะคะสัญญาจาก FT Link นะ คะ ให้ไปเป็น เอ่อ แก๊ส Link นะ คะในสัดส่วนที่เยอะขึ้นนะคะเพื่อที่จะป้องกันนะคะความเสี่ยงที่เกิดจากราคาค่าไฟนะคะแล้วก็ในอีกส่วนหนึ่งเราก็มีการ เอ่อ มีการดำเนินโครงการนะคะในเรื่องของ efficiency Improvement นะ คะ เพื่อที่จะช่วยอัพลิฟผลประกอบการนะคะ ก็อย่างที่ทุกท่านได้เห็นนะคะก็ผลเนี่ยก็จะออกมาในในเรื่องของผลประกอบการในปี 2567 นะ คะที่ก็แสดงให้เห็นว่าทางบริษัทเองนะคะเราก็มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างที่มีประสิทธิภาพนะคะ ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่านี้นะคะเราก็ดำเนินต่อไปในปี 2568 ค่ะ
แล้วก็ในส่วนของการลงทุนในประเทศอินเดียนะคะก็นะ ปัจจุบันนะคะเราก็ลงทุนใน อวาดา นะ คะซึ่งก็เป็นไปด้วยดีนะคะแล้ว GPSC เองเนี่ยเราก็มองหาโอกาสนะคะอื่นๆ ที่เพิ่มเติมนะคะในการลงทุนในประเทศอินเดียด้วยเช่นกันนะคะ นอกจากประเทศอินเดียก็เป็นประเทศที่ เอ่อ มีอัตราการเติบโตที่สูงมากนะคะแล้วก็โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมของพลังงานแล้วก็ไฟฟ้านะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับการเติบโตนะคะ ของ บริษัท นะ คะแล้วก็รองรับในเรื่องของ Energy Transition ด้วยค่ะ ถัดไปค่ะ ถัดไปนะคะก็จะเป็นในส่วนของผลประกอบการนะคะของปี 2567 ค่ะ ค่ะ ก็ขอเริ่มต้นนะคะในส่วนของตัว Key Driver นะ คะ สำหรับราคา FT นะ คะ ในปี 2567 ก็คงที่ตลอดทั้งปีนะคะอยู่ที่ 39.72 นะ คะ ก็ถ้าเทียบไตรมาสที่ 4 นะ คะไตรมาสเดียวกัน อ่า ในปีที่แล้วนะคะก็จะปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 19 สตางค์ นะ คะ แล้วก็จะถ้าเทียบเป็นเฉลี่ยทั้งปีนะคะก็ลดลงนะคะประมาณ 49 สตางค์ นะ คะ แต่ อย่างไรก็ตามนะคะ GPSC เองเนี่ยเราก็ขายทั้งไฟฟ้านะคะแล้วก็ไอ น้ำ แล้วก็สาธารณูปโภคอื่นๆ ด้วยนะคะ โดยรายได้รวมของเรานะคะกว่า 70% นะคะ เป็น Link กับราคาเชื้อเพลิงก็คือสามารถที่จะส่งผ่านต้นทุนนะคะไปยังราคาในโครงสร้างราคา รายได้ได้นะคะแล้วก็เรามีแค่ประมาณแค่ 1 ใน 3 นะ คะเท่านั้นที่เรา Link กับราคา FT นะ คะ ประกอบกับในปีที่ผ่านมานะคะเราเองก็มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพนะคะซึ่งก็จะสะท้อนนะคะในส่วนของ contribution Margin นะ คะแล้วก็กำไรสุทธิที่ปรับตัวสูงขึ้นค่ะ แล้วก็ในส่วนของราคาเชื้อเพลิงนะคะราคาก๊าซทางด้านล่างนะคะเราก็ปรับตัวลดลงนะคะทั้ง Q on Q year on year แล้วก็ year to date นะ คะ แล้วก็ในส่วนของราคาถ่านหินนะคะทางด้านขวานะคะก็ทั้งราคาถ่านหินที่ใช้กับโรงไฟฟ้า IPP แล้วก็ SPP นะ คะ ในปี 2567 เนี่ยก็ค่อนข้างที่จะทรงตัวนะคะ อาจจะปรับตัวลงเล็กน้อยในไตรมาสสุดท้ายนะคะ แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้วนะคะเฉลี่ยทั้งปีก็ลดลงค่อนข้างมากนะคะ ก็เป็นไปตามราคาตลาดส่วนหนึ่งแล้วก็ทาง GPSC เองเราก็มีการบริหารจัดการนะคะการนำเข้าถ่านหินนะคะที่มี Index ที่หลากหลายนะคะก็ช่วยให้ต้นทุนนะคะลดลงค่ะ
ค่ะ หน้าถัดไปค่ะ ค่ะ ถัดไป นะ คะ ในด้านซ้ายบนนะคะก็จะเป็นอัตราค่าความพร้อมจ่ายนะคะของโรงไฟฟ้า IPP นะ คะ ก็ในไตรมาสที่ 4 นะ คะแล้วก็เฉลี่ยทั้งปี 2024 นะ คะทั้งโรงไฟฟ้าศรีราชา IPP แล้วก็ เก็กโกะวัน นะ คะมีอัตราค่าความพร้อมจ่าย เอ่อ ดีขึ้นนะคะเมื่อเทียบกับ Period ก่อนหน้า อันนี้ก็จะเป็นไปตาม อ่า การดำเนินงานนะคะตามแผนงานนะคะเนื่องจากมีการซ่อมบำรุงค่ะ แล้วก็ในส่วนของด้านขวาบนนะคะก็จะเป็นในส่วนของราคาค่าไฟนะคะ ในไตรมาสที่ 4 นะ คะราคาค่าไฟจะอยู่ที่ 3.44 นะ คะก็ทรงตัวนะคะค่อนข้างทรงตัวใน ปี ใน ช่วงปี 2567 นะ คะ แล้วก็ถ้าเทียบกับปี ถ้า เฉลี่ยทั้งปีนะคะจะอยู่ที่ 3.53 นะ คะก็ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลักๆ เนี่ยก็จะมาจาก อ่า 2 ส่วนนะคะก็จะเป็นในส่วนของ ค่า FT นะ คะแล้วก็อีกส่วนหนึ่งจะเป็นราคาเชื้อเพลิงนะคะเนื่องจากเราก็มีราคาขายที่ เอ่อ มีโครงสร้างที่ Link กับราคาเชื้อเพลิงค่ะ ใน ใน ถัดไปนะคะก็จะเป็นในส่วนของ อ่า ตัว Sale Volume นะ คะ โดยในไตรมาสที่ 4 นะ คะแล้วก็เฉลี่ยทั้งปีนะคะ Volume การขายไฟฟ้านะคะก็ปรับตัวสูงขึ้นนะคะซึ่งหลักๆ ก็จะเป็นมาจากการกลับมาเดินเครื่องของโรงไฟฟ้า เก็กโกะวัน นะ คะ แต่ถ้าเราดูในส่วนของลูกค้าอุตสาหกรรมนะคะก็คือตัว SPP นะ คะ ในไตรมาสที่ 4 ก็ลดลงเล็กน้อยนะคะเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าก็เป็นผลมาจากมีลูกค้าอุตสาหกรรมนะคะที่หยุด การดำเนินงานตามแผน แต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วนะคะก็ปรับตัวดีขึ้นนะคะก็เป็นไปตามเนื่องจากลูกค้าเนี่ยกลับมาดำเนินงานนะคะจากปีที่แล้วที่ลูกค้ามี อัน แพลน ชัดดาวน์ นะ คะบางส่วนแล้วก็ Market Demand เนี่ยปรับตัวดีขึ้นค่ะ แล้วก็ในส่วนของ Volume นะ คะ ปริมาณการขายของไอ น้ำ นะ คะก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับไฟฟ้านะคะของ SPP ก็คือถ้าเราเทียบ Q on Q นะ คะก็จะลดลงนะคะแต่ว่าถ้าเทียบกับปีที่แล้วก็ปรับตัวดีขึ้นค่ะ
ค่ะ ถัดไปนะคะอันนี้ก็จะเป็นผลประกอบการในภาพรวมนะคะ โดยในปี 2000 เอ่อ 2567 นะ คะ เรามีรายได้รวมนะคะอยู่ที่ 9730 ล้านบาทนะคะมี EBITDA นะ คะอยู่ที่ 199 ล้านบาทแล้วก็มีกำไรสุทธินะคะอยู่ที่ 4,062 ล้านบาทแล้วก็มีกำไรต่อหุ้นนะคะอยู่ที่ 1.44 บาทต่อหุ้นนะคะ ก็ในปี 2567 นะ คะในด้านปัจจัยภายนอกเศรษฐกิจนะคะก็ชะลอตัวนะคะ แต่ว่าในปัจจัยภายในนะคะเราก็มีในด้านที่เป็น ขา ลบ นะ คะจากตัวชาว Profit นะ คะหลักๆ ก็จะมาจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีนะคะที่มีการปิดเดินเครื่องไปทั้งหมด 17 วันนะคะแล้วก็ในส่วนของ Awada นะ คะที่เรามี อ่า รายการ One Time Item นะ คะก็มีการเป็นการพรีเพยเมนท์ นะ คะที่เกิดจากการรีไฟแนนซ์ แต่ อย่างไรก็ตามนะคะบริษัทเนี่ยเรามีการบริหารจัดการต้นทุนนะคะได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เชื้อเพลิง นะ คะที่หลากหลายการบริหารตัว Opex นะ คะแล้วก็ Financial cost นะ คะก็เลยส่งผลให้บริษัทนะคะเรามี EBITDA ที่เติบโตสูงขึ้นนะคะแล้วก็มีกำไรสุทธิที่ดีขึ้นนะคะเมื่อเทียบกับปีที่แล้วค่ะ
ค่ะ ถัดไปนะคะก็จะเป็นในส่วนของ Cash Flow นะ คะ ณ สิ้นปีนะคะเราก็มีเงินสดนะคะสุทธิอยู่ที่ 25492 ล้านบาทนะคะก็ปรับตัวสูงขึ้นนะคะจากปลายปีที่แล้วหลักๆ เลยนะคะ 24,000 ล้านบาทก็มาจากเงินสดจากการดำเนินงานนะคะแล้วก็อาจจะ Offset ไปด้วยเงินสดที่เราใช้ลงทุนนะคะในการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่นะคะ จ่าย Dividend นะคะแล้วก็มีการจ่ายดอกเบี้ยนะคะแล้วก็คืนเงินกู้นะคะซึ่งก็เป็นไปตามแผนงานของบริษัทค่ะ ทีนี้ถ้ามาดูในส่วนของงบดุลนะคะ ณ สิ้นปีนะคะเราก็มีสินทรัพย์สุทธินะคะอยู่ที่ประมาณ 288,100 ล้านบาทนะคะมี หนี้สินสุทธินะคะอยู่ที่ประมาณ 169 พัน ล้านบาทแล้วก็มีส่วน ของ เจ้าของนะคะอยู่ที่ 119 พัน ล้านบาทค่ะ ในส่วนของ อ่า portfolio นะ คะ อ่า อัตราส่วน net depth to equity นะ คะก็จะอยู่ที่ 0.87 นะ คะอันนี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์นะคะก็คือต่ำกว่า 1 นะ คะมี Interest coverage นะ คะอยู่ที่ 1.54 นะ คะ แล้วก็ cost of depth ของเรานะคะอยู่ที่ประมาณ 3.6 นะ คะแล้วก็ตัว Life นะ คะ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 ปีนะคะแล้วก็อัตราดอกเบี้ยเงินกู้นะคะในพอร์ตของเราเนี่ยเป็น Fix Rate นะ คะอยู่ที่ประมาณ 54% ค่ะ ในส่วนของ Credit Rating นะ คะก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจาก ที่แล้วนะคะ
ค่ะ ถัดไปค่ะ ค่ะ ถัดไปนะคะก็จะเป็นในส่วนของ Outlook นะ คะ ของปี 2568 นะ คะ ในส่วนของ FT นะ คะ ในไตรมาสที่ 1 ก็จะอยู่ที่ประมาณ 36.72 สตางค์ นะ คะ อันนี้ก็เป็นไปตามที่ กกพ. ประกาศนะคะ แต่ว่าถ้าเป็นในภาพทั้งปีนะคะเราก็มองว่าจะอยู่ในกรอบที่ 19.72 -36.72 สตางค์ นะ คะ แต่ อย่างไรก็ตามเนี่ยเราก็ เอ่อ ต้องรอนะคะทางภาครัฐประกาศอีกครั้งหนึ่งนะคะ ในส่วนของราคาก๊าซนะคะก็คาดว่าจะอยู่ในกรอบที่ 330-340 บาทนะคะก็อาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนะคะถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมา แล้วก็ราคาถ่านหินนะคะอันนี้ทรงตัวนะคะก็จะอยู่ที่ประมาณ 120-130 ดอลลาร์ต่อตันนะคะ แล้วก็ในส่วนของ Demand ของลูกค้าอุตสาหกรรมนะคะก็ทรงตัวนะคะ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วนะคะอาจจะมีปรับลดลงเล็กน้อยก็เป็นไปตามแผนการดำเนินงานของลูกค้านะคะ แล้วก็ในส่วนของราคาอัตราแลกเปลี่ยนนะคะก็ทรงตัวนะคะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาค่ะ แต่ อย่างไรก็ตามนะคะบริษัทเราเองนะคะจากปัจจัยภายนอกต่างๆ เราเองก็โฟกัสนะคะในการดำเนินงานในเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุนนะคะให้มีประสิทธิภาพนะคะรวมถึงเราก็มีการดำเนินโครงการนะคะที่จะช่วยอัพลิฟผลประกอบการนะคะ ก็เป็นโครงการในเรื่องของ efficiency Improvement ต่างๆ นะ คะรวมถึงบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนนะคะให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดแล้วก็ให้ได้ผลตอบแทนนะคะตามที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ค่ะ
ค่ะ ค่ะ ทางบริษัทก็ขอจบการรายงานนะคะเพียงเท่านี้ นะ คะถ้าก็มีถัดไปก็จะเป็นใน Section ของ Q&A ค่ะ ก็เดี๋ยวมีคำถามจากทางบ้านนะคะเดี๋ยวขอ ตอบ ขอสไลด์ก่อนหน้านิดนึง มีคำถามว่าแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 นะคะจะดีขึ้นกว่าปี 2567 ไหมเพราะอะไร นะคะแล้วก็มีแนวทางเปลี่ยน SPP เป็นก๊าซลิ้งค์มากขึ้นหรือเปล่านะคะ แล้วก็ เอ่อ เราจะมีการบริหารจัดการโครงสร้างต้นทุนยังไงนะคะจริงๆ อย่างที่ทางคุณพัชชุดาแจ้งไปอ่ะนะคะใน ในหน้าเรื่องของตัว Outlook อ่ะค่ะ ก็ด้วยตัวลูกค้าเองอ่ะนะคะก็คงที่นะคะอาจจะ ต่อเป็น Key Factor หลักๆ นะคะแล้วก็ต้นทุนในการผลิตนะคะเนื่องจากอย่างที่บอกว่าราคาก๊าซอาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนะคะแต่ว่าราคาโคก็อาจจะมี เอ่อ คงที่หรือ ลดลงนะคะแล้วก็การบริหารจัดการ Efficiency ทาง Network ของ GPSC เนี่ยเราก็สามารถบริหารจัดการได้อันนี้ต้อง ต้อง เอ่อ เน้นย้ำนักลงทุนนิดนึงนะคะว่า GPSC เราไม่ได้ขายไฟฟ้าอย่างเดียวนะคะ เราขายทั้งไฟฟ้า ไอ น้ำ นะ คะ แล้วก็เน้นเรื่องของความมั่นคงทางด้านพลังงาน Reliability ให้กับอุตสาหกรรมนะคะในนิคมเป็นหลักนะคะดังนั้น ดังนั้นเรื่องของการบริหารจัดการที่เป็นเรื่องของ Pass Through Concept นะ คะ รวมถึง เอ่อ การอ้างอิง FT เป็นแค่ส่วนหนึ่งนะคะ เราก็คาดว่าการ การ การดูแลภายใต้ โครง โครงข่ายที่แข็งแกร่งของ GPSC เนี่ยก็สามารถ เอ่อ ดูแลในเรื่องของ Margin หลักๆ ของธุรกิจที่เป็น Core Value ของเราได้นะคะ ประกอบกับเราคาดว่าปี ปีนี้เองนะคะตัวต้นทุนทางการเงินนะคะก็ ก็คิดว่า จะลดลงนะคะจากที่เป็นเราฟิกไว้ 50 กว่า% นะ คะแล้วเราก็มองว่าเดี๋ยวเราบริหารจัดการ เอ่อ ต้นทุนที่เราอ้างอิง เอ่อ อัตราดอกเบี้ยที่เป็น Float นะคะได้ดีขึ้นนะคะรวมถึงเราพิจารณาเรื่องของ เอ่อ การลงทุนต่างๆ ที่เราลงทุนไปนะคะเรามีการ Balancing Monetization นะ คะในการบริหารจัดการให้เข้มข้น