สรุปงบล่าสุด GPSC

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
GPSC ไตรมาส 4/67 กำไรสุทธิ 1,000 ล้านบาท (+30% QoQ), ทั้งปี 4,062 ล้านบาท (+10% YoY) หนุนโดยเงินปันผลและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น แม้ราคาก๊าซลดลง 6% และความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศลดลงเล็กน้อย รายได้รวม +2% QoQ, แต่กำไรขั้นต้นลดลง 7% D/E Ratio ต่ำ 0.87 เท่า
GPSC คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศเพิ่ม 2.6% ในปี 68 ท้าทายจากราคาเชื้อเพลิง, การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า, และเศรษฐกิจโลก GPSC เน้นลงทุนพลังงานหมุนเวียน, พัฒนาเทคโนโลยีใหม่, และ TPA
IAA คาดการณ์แนวโน้ม GPSC ปี 68 ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 38.57 บาท, P/E ปัจจุบัน 19.26 Yield 3.24%, Dividend 0.90 บาท
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการและวิเคราะห์หุ้น GPSC ปี 2567 (อัปเดตล่าสุด)
**สรุปผลการดำเนินงานปี 2567 และแนวโน้มธุรกิจ**
GPSC รายงานผลกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 4,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) จากปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าค่า Ft จะลดลง (4.15 บาท/หน่วย ในงวด ม.ค.-เม.ย. 68 ลดลงจาก 4.18 บาท/หน่วย ในงวด ก.ย.-ธ.ค. 67) แต่โครงสร้างรายได้หลักของ GPSC ยังคงแข็งแกร่งจากการส่งผ่านต้นทุนได้ อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) มีกำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันมีค่าเชื้อเพลิงส่วนต่างลดลงซึ่งเป็นผลทางบัญชี นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับเงินชดเชยค่าความเสียหายจากบริษัทประกันภัยกรณีโรงไฟฟ้า CGD หยุดเดินเครื่องนอกแผนงานในปี 2564 จำนวน 431 ล้านบาท ในด้านการลงทุน GPSC ได้เข้าซื้อหุ้น Global Renewable Power (GRP) เพิ่มเติม ทำให้ GRP กลายเป็นบริษัทย่อย
* โรงไฟฟ้า IPP มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 99% จาก Q4/66 โดยหลักมาจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันที่กลับมาดำเนินการผลิตตามแผนของ กฟผ. (ไม่มี shutdown ใน Q4/67 ต่างจาก Q4/66 ที่มี shutdown ตลอดไตรมาส) แต่กำไรขั้นต้นลดลง 40% YoY เนื่องจากต้นทุนถ่านหินคงคลังต้นปี 67 สูงกว่าราคาถ่านหินในตลาด
* โรงไฟฟ้า SPP มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 3% จาก Q4/66 จากรายได้ของ IRPC Clean Power และศูนย์ผลิตสาธารณูปการระยองที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าโรงไฟฟ้า SPP ของ Glow จะมีรายได้ลดลง และมีกำไรขั้นต้นลดลง 6% YoY เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำลดลง
* โรงไฟฟ้า VSPP และอื่นๆ มีรายได้รวมลดลง 28% จาก Q4/66 เนื่องจากรายได้จากการออกแบบและก่อสร้าง (EPC) ลดลงตามงวดงาน และกำไรขั้นต้นลดลง 4% YoY เนื่องจากค่าซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น
**แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต**
GPSC วางแผนที่จะมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงานใหม่ๆ (New S-Curve) โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในพอร์ตโฟลิโอให้มากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร ในปี 2568 หน่วยงานด้านเศรษฐกิจคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่อง (ประมาณการความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2.6% ในปี 2568) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม GPSC ยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากสงครามการค้าระลอกใหม่ การแข่งขันจากสินค้าจีน และความท้าทายด้านความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย
* ต้นทุนเชื้อเพลิงนำเข้า (โดยเฉพาะ LNG) ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2567 อาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น
* การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าในอนาคต อาจส่งผลกระทบต่อราคาขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมที่อ้างอิงตามราคาขายปลีกของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
* การเปิดใช้ระบบโครงข่ายไฟฟ้าแก่บุคคลที่สาม (Third Party Access: TPA) เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดเสรีในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด
**ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงและการเปลี่ยนแปลงราคา**
* IPP: การใช้ก๊าซธรรมชาติรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ แต่ลดลง YoY ส่วนการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY
* SPP: การใช้ก๊าซธรรมชาติรวมลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY ส่วนการใช้ถ่านหินลดลงทั้ง QoQ และ YoY
* ราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยของ SPP อยู่ที่ 324 บาท/ล้าน BTU ลดลง 7% QoQ และ 337 บาท/ล้าน BTU ลดลง 17% YoY
* ราคาถ่านหินเฉลี่ย IPP อยู่ที่ 258 USD/ตัน ลดลง 2% QoQ และ 277 USD/ตัน เพิ่มขึ้น 7% YoY
* ราคาถ่านหินเฉลี่ย SPP อยู่ที่ 134 USD/ตัน ลดลง 2% QoQ และ 141 USD/ตัน ลดลง 44% YoY
**ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่สำคัญ**
* ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 9% YoY จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและเงินกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น
* ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 510 ล้านบาท YoY จากการบันทึกปรับมูลค่าเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ
* ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 10% YoY จากค่าที่ปรึกษาพัฒนาธุรกิจที่ลดลง
* ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง 43% YoY จากการปรับปรุงค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ของปี 2566
**โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน**
จากการวิเคราะห์ข้อมูลผลประกอบการ ราคาหุ้น และอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ GPSC มีความน่าสนใจในการลงทุน โดยพิจารณาจากปัจจัยดังนี้
* **โอกาส:**
* การเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน: GPSC มีศักยภาพในการเติบโตในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นเทรนด์ที่สำคัญในอนาคต และได้รับการสนับสนุนจากการเปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า (TPA)
* การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย: การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะส่งผลดีต่อความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำ ซึ่งเป็นรายได้หลักของ GPSC และการคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในปี 2568
* การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ: GPSC มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยรักษากำไรให้คงที่ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
* **ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของราคาเชื้อเพลิง: ราคาเชื้อเพลิงมีความผันผวน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ GPSC โดยเฉพาะ LNG ที่มีการนำเข้าในสัดส่วนสูง
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมไฟฟ้า: อุตสาหกรรมไฟฟ้ามีการแข่งขันสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งการตลาดและราคาขายไฟฟ้าของ GPSC
* ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ: กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ GPSC โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าในอนาคต
**ความสัมพันธ์ของข้อมูลทางการเงิน**
* **รายได้และกำไร:** รายได้รวมของ GPSC เพิ่มขึ้นในปี 2567 แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านต้นทุน
* **อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
* **D/E Ratio:** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ในระดับที่ต่ำ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของ GPSC
* **P/E และ P/BV:** ค่า P/E อยู่ที่ 23.1 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนต่อการเติบโตของกำไรในอนาคต และค่า P/BV อยู่ที่ 0.77 ซึ่งต่ำกว่า 1 บ่งชี้ว่าราคาหุ้นอาจต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี
* **Yield:** อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Yield) อยู่ที่ 2.55% ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้จากเงินปันผล
**สรุป**
GPSC เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน และติดตามข้อมูลผลประกอบการและข่าวสารของบริษัทอย่างใกล้ชิด รวมถึงปัจจัยภายนอกที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น ราคาเชื้อเพลิง นโยบายภาครัฐ และการแข่งขันในอุตสาหกรรม
***
Disclaimer: ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน
***
(8.07%)
(18.94%)
(0.26%)
(42.60%)
(7.64%)
(19.96%)
(90.88%)
(5.15%)
(29.83%)
(109.27%)
(38.79%)
(1.99%)