สรุป OPPDAY หุ้น EKH
Oppday
สรุป OPPDAY
EKH Oppday สรุปผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566: ฝ่าวิกฤตฝนช้า โรคระบาดล่าช้า มุ่งสู่ Q4 ที่เติบโต
สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 ของบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) โดยเน้นภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ โอกาสและความเสี่ยง แนวทางการแก้ไขปัญหา แนวโน้มในอนาคต และช่วงถาม-ตอบ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
EKH มีรายได้รวมในงบการเงินรวม 335.2 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้จากโรงพยาบาลเอกชัย 259 ล้านบาท ลดลง 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2
- ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ:
- ฝนมาช้า: ทำให้โรคระบาดมาช้า ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยในไตรมาส 3 ลดลง
- นักท่องเที่ยวจีนลดลง: ส่งผลกระทบต่อรายได้จากศูนย์ IVF
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
- Q4 โตกว่าปีก่อน: คาดการณ์ว่าการระบาดของโรคจะทำให้รายได้ในไตรมาส 4 เติบโตกว่าปีก่อน
- ธุรกิจใหม่: การเปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือด
- การขยายโรงพยาบาลคูน: กำลังมองหาโอกาสในการขยายโรงพยาบาลคูน พหลโยธิน
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
- ความเข้มงวดของบริษัทประกัน: นโยบายที่เข้มงวดส่งผลให้การอนุมัติการรักษาในโรงพยาบาลยากขึ้น
- การแข่งขัน: การแข่งขันในตลาดการแพทย์
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
- การบริหารจัดการต้นทุน: ควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ
- การขยายฐานลูกค้า: เพิ่มลูกค้าจากกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มลูกค้าทั่วไปและลูกค้าคู่สัญญา
- การปรับกลยุทธ์: ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เข้ากับสถานการณ์
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
- การเติบโตในอนาคต: คาดการณ์การเติบโตจากธุรกิจใหม่และการขยายธุรกิจ
- การจ่ายปันผล: คาดว่าจะสามารถจ่ายปันผลได้ใกล้เคียงกับปันผลประจำปีปกติของปี 2565
- โครงการในอนาคต:
- โรงพยาบาลคูน วัฒนแพทย์อ่าวนาง ที่กระบี่
- อาคาร C ที่โรงพยาบาลเอกชัย
- โรงพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช (โรงพยาบาลบรูม)
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [01:04:32]
เหตุใดปีนี้จึงไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล?
ปีที่แล้วมีการจ่ายปันผลมากกว่ากำไรเพราะได้รับเงินเพิ่มทุนจากการ PP กับการแปลงวอร์แรนต์ ใช่หรือไม่?
ผู้บริหารตอบว่า: ที่ปี 2566 (2023) จ่าย 2 งวดเนื่องจากงวดแรกมาจากการขายคลินิกออกไป ทำให้มีกำไรเข้ามา จึงปันผลให้ผู้ถือหุ้น ส่วนงวดที่ 2 มาจากกำไรปกติของธุรกิจ และเงินเพิ่มทุนไม่สามารถนำมาปันผลได้ ต้องมาจากกำไรเท่านั้น
รายได้ที่ลดลงของบริษัทได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดของบริษัทประกันเกี่ยวกับเรื่อง Co-payment อย่างไร?
ผู้บริหารตอบว่า: ยอมรับว่านโยบายของบริษัทประกันมีผลกระทบทำให้การ admit คนไข้ได้น้อยลง จำนวนวันนอนลดลง แต่โรงพยาบาลก็ต้องรักษาคนไข้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ทำให้เกิดความขัดแย้งเล็กน้อย แต่สถานการณ์ดีขึ้น สินค้าใหม่ๆ ของบริษัทประกันผ่อนคลายขึ้น แต่โดยรวมก็เข้มงวดกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่โรงพยาบาลยึดหลักมาตรฐานการรักษา อะไรที่จำเป็นต้องนอนก็ให้นอน คนไข้ก็เริ่มเข้าใจและยอมจ่ายหากต้องการนอนเพิ่ม ซึ่งโรงพยาบาลก็ยินดี
รายได้ที่ลดลงได้รับผลกระทบจากการที่ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้โรงพยาบาลอื่นหรือไม่?
ผู้บริหารตอบว่า: เท่าที่ประเมินดูไม่ใช่ เพราะโรงพยาบาลอื่นก็เจอปัญหาเดียวกัน และโรงพยาบาลก็มีการถามไถ่สถานการณ์กันอยู่แล้ว
การประเมินสถานการณ์ในปัจจุบัน บริษัทคิดว่าจะมีคนไข้ที่จะเข้ามาใช้บริการอาคาร C เป็นไปตามที่บริษัทได้ประเมินไว้หรือไม่?
ผู้บริหารตอบว่า: คาดว่าอาคาร C ที่มี 60 ห้อง จะมีคนไข้ occupy อย่างน้อย 1 ชั้น และมีแผนที่จะให้บริการอื่นๆ เช่น การดูแลผู้ป่วยหลังคลอด ผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้ utilize พื้นที่ได้เต็มที่
คูนอ่าวนาง เมื่อเปิดให้บริการแล้วมีบุคลากรเพียงพอรองรับคนไข้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ของ capacity?
ผู้บริหารตอบว่า: เรื่องบุคลากรต้องยกให้ทางอ่าวนางเป็นผู้บริหารจัดการ โดย EKH จะสนับสนุนเรื่องวิชาการและ skill ต่างๆ เชื่อว่าทางอ่าวนางจะดูแลได้ เพราะมีหลายโรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่
โรงพยาบาลคูนกรุงเทพฯ แห่งที่ 2 คาดว่าจะเปิดเมื่อปีไหน?
ผู้บริหารตอบว่า: เนื่องจากคูนที่กรุงเทพฯ มี occupation สูงมาก ทำให้คิดอยู่แล้วว่าจะต้องขยาย แต่ขออนุญาตดูความพร้อมก่อน ตอนนี้กำลังวางแผนคุยกันอยู่
ในส่วนของการแข่งขันในตลาด palliative care?
นักลงทุนอยากขอความรู้
ผู้บริหารตอบว่า: ไม่มองเป็นการแข่งขัน เพราะกลุ่มคนไข้ palliative care มีผู้เล่นน้อย และสังคมเริ่มยอมรับเรื่องนี้มากขึ้น ใครจะลงมาเล่นก็ยินดี ให้บริการคนไข้ได้ดีขึ้น ให้สุขสบายยามสุดท้ายของชีวิต ถือว่าเป็นบุญกุศลและมาช่วยๆ กัน
ศูนย์หัวใจ ตอนนี้เฉลี่ยเดือนละกี่เคส และถึงจุดคุ้มทุนต้องมีกี่เคสต่อเดือน?
ผู้บริหารตอบว่า: ตั้งแต่เปิดกลางเดือนสิงหาคมถึงตอนนี้ (พฤศจิกายน) มีประมาณ 100 เคส เฉลี่ยเดือนละ 30 เคส เท่าที่ดูงบแล้ว ถ้าเกิน 25-30 เคสก็ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว
มีเคสรับเคส Emergency?
ไปเบิกกับหน่วยงาน
ผู้บริหารตอบว่า: ที่ Emergency เนี่ย เป็นเคสฉุกเฉินที่เรียกว่า UCEP ทางภาครัฐก็ให้เบิกอยู่แล้ว คนไข้ไม่ต้องจ่ายตังค์ ซึ่งห้องฉุกเฉินเปิดรับตลอดเวลา และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะมาที่โรงพยาบาล สามารถเบิกในเรื่องของ สปสช.ได้ ส่วนหนึ่งอาจจะไม่มากมาย แต่ช่วยกันสร้าง skill และคนไข้ปลอดภัย
ทำไมเอกชัยจึงเลือกเป็นการร่วมทุนแทนการทำเองทั้งหมด?
ผู้บริหารตอบว่า: เวลาจะเปิดศูนย์อะไรสักอย่าง ต้องมีความมั่นใจเรื่องทีม ทีมต้องแข็งแกร่งที่สุด ถ้าเปิดเองทีมยังไม่แข็งพออาจจะเหนื่อย การได้ทีมที่ดีมา หมายถึงแพทย์ที่เก่ง มีประสบการณ์ จะทำให้โรงพยาบาลมีชื่อเสียงเเละมีผู้ใช้บริการมากขึ้น หากทีมพร้อมเราถึงจะทำ
รายได้แบ่งกันยังไง?
ผู้บริหารตอบว่า: ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเลย แล้ว EKH ถือ 50.5% ทีมหมอถือ 49% กำไรก็แบ่งกันตามสัดส่วนหุ้น
นอกจากศูนย์หัวใจแล้ว มีศูนย์อื่นอีกไหมที่เป็นโมเดลร่วมทุน มีข้อดีข้อเสียของรูปแบบนี้อย่างไรบ้าง?
ผู้บริหารตอบว่า: มองอยู่ว่าศูนย์ไหนที่อยากจะโปรโมทมากๆ แล้วยังไม่พร้อม ถ้ามีใครที่พร้อมจะมาร่วมลงทุนก็เปิดรับอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ปิ๊ง
งบประมาณการลงทุนในการปรับปรุงอาคาร วอร์ดต่างๆ?
ตรงนี้จดปีละเท่าไหร่
ผู้บริหารตอบว่า: ไม่เยอะ เป็นการซ่อมแซมมากกว่า อะไรเสียก็ซ่อมไป ประมาณ 5 ปีอาจจะมีเมเจอร์ renovation ทีหนึ่งแล้วค่อยทำ
IFV รายได้ลดลง แต่ยังมีกำไร
ผู้บริหารตอบว่า: การที่ IFV รายได้ลดลงเนื่องจากคนจีนหายไป แต่ข้อดีคือเปิด IFV เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ได้สัญญาเช่าจากอาคาร 6 ปี ทำให้ตอนนี้ค่าเสื่อมจะหมดแล้ว รายได้ลดลงแต่ยังมีกำไร เพราะไม่มีค่าเสื่อมเข้ามาใน P&L บริหารต้นทุนได้ดี ใช้ยาและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่ดี
ผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์และส่วนใหญ่เป็นชาติไหน?
ผู้บริหารตอบว่า: IFV คงเป็นจีน 90% ในคูนก็มีต่างชาติอยู่ แต่ไม่ significant ประมาณ 10% ในสมุทรสาครส่วนใหญ่เป็นคนไทย 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ อาจจะมีพม่าที่ค้าขายบ้าง ไม่เยอะ
รายได้ปี 2569 (2026) วางเป้าไว้โตกี่เปอร์เซ็นต์?
ผู้บริหารตอบว่า: ตั้งเป้าว่าจะโตจากปี 2568 (2025) ประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ โดยโตด้วย same store sale growth ด้วย และโตด้วย new business ด้วย
ทางโรงพยาบาลมีแผนที่จะขยายไปธุรกิจอื่นหรือขยายออกไปยังโซนสมุทรสาคร?
ผู้บริหารตอบว่า: ที่ผ่านมาก็มีคนมาคุยเรื่องการร่วมทุนทำธุรกิจหลายอย่าง แต่ก็มองอยู่ว่าต้องอยู่ในเรื่องของสุขภาพ บางอย่างอาจจะไม่ค่อยใกล้เคียงสุขภาพมาก ก็ฟังๆ ไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่ปิดกั้น แต่ยังไม่มีอะไรที่ปิ๊งเลย เรามี cash อยู่เกือบ 1,000 ล้าน และมีแผนที่จะทำ M&A ในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่ทุกอย่างจะต้องอยู่ในโซน Healthcare Location ไม่ได้เป็นประเด็น เราไม่ได้อยากจะขยายธุรกิจเฉพาะในสมุทรสาคร ธุรกิจใหม่ๆ ก็มีที่กรุงเทพฯ ที่อ่าวนาง และก็มีการพูดคุยกับหลาย deal ซึ่งก็กระจายอยู่ทั่วประเทศ ตอนนี้ยังเป็นในประเทศไทยอยู่ การออกไปต่างประเทศตอนนี้มีความเสี่ยงหลายๆ เรื่อง
เนื่องจากทำเลของโรงพยาบาลหาลูกค้าต่างชาติยาก ทางโรงพยาบาลมีแนวคิดเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างอัตรากำไรอย่างไร?
ผู้บริหารตอบว่า: มองว่าโรงพยาบาลเอกชัยในสมุทรสาครยังมี room ที่จะรับคนไข้เพิ่มขึ้นได้อีกพอสมควร มีคนไข้อยู่จำนวนมากในแถบนี้ที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เราพยายามที่จะหาบุคลากรต่างๆ เข้ามารองรับให้ได้ สิ่งต่างๆ เตรียมพร้อม เครื่องมือพร้อม แต่ต้องหาบุคลากรที่เชื่อถือได้ ตอนนี้กลุ่ม A กลุ่ม B อาจจะยังไม่ค่อยอยากจะอยู่ที่ท้องถิ่นสมุทรสาครนัก ก็เข้ากรุงเทพฯ ซะ แต่ถ้าเราดักไม่ให้เข้ากรุงเทพฯ ได้ ถ้าเขาเชื่อใจเรามากกว่านี้ ก็สบาย คือเป็นโรงพยาบาลโรงพยาบาลหนึ่งในเขตหนึ่งของกรุงเทพฯ ไปได้เลย แถบสมุทร สงคราม ราชบุรีก็มาหาเราอยู่ตอนนี้ เชื่อว่าเฉพาะในศูนย์ในโรงพยาบาลเอกชัย สามารถที่จะขยายเบรกได้อีกพอสมควร
ในส่วนของโรงพยาบาลจิตเวชไม่รับประกัน ทางโรงพยาบาลมีแผนการตลาดในการหาลูกค้าอย่างไร?
ผู้บริหารตอบว่า: แผนการตลาดมีแล้ว ตอนนี้เพียงแต่ว่าจิตเวชมีหลายแบบ มี B2C มี B2B ทั้งคนไข้เอง ทั้งกลุ่มบริษัท เราทำแผนการตลาดไปแล้ว ปีหน้าอาจจะอัปเดตนำเสนอให้ทุกท่านฟัง ส่วนใหญ่ประกันไม่รับอยู่แล้ว ปกติลูกค้าจิตเวชส่วนใหญ่ชำระเอง
สรุป: EKH เผชิญความท้าทายในไตรมาส 3 ปี 2566 จากปัจจัยภายนอก แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตในอนาคตผ่านการบริหารจัดการต้นทุน การขยายฐานลูกค้า การปรับกลยุทธ์ และการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในด้านการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและยั่งยืน