EGCO
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

เจาะลึกผลประกอบการ EGCO ไตรมาส 3 ปี 2568: วิเคราะห์โอกาสและความท้าทายในตลาดพลังงาน

สวัสดีค่ะ ท่านนักลงทุนและท่านผู้บริหารทุกท่าน ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Opportunity Day เพื่อแถลงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ของบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด มหาชน หรือ เอ็กโก กรุ๊ปค่ะ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา EGCO รับรู้ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 2,340 ล้านบาท แต่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 844 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 656 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลขาดทุนสุทธิจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากการอ่อนตัวของค่าเงินไต้หวันเมื่อเทียบกับยูโร

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

EGCO ดำเนินการลงทุนในโครงการ Apex Clean Energy โดยถือหุ้นอยู่ประมาณ 17% และมีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสนี้ มี 2 โครงการที่เริ่มเดินเครื่องแล้วเสร็จเพิ่มเติม คือ โครงการกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ Angela ขนาด 100 เมกะวัตต์ (แล้วเสร็จเมื่อกรกฎาคม) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Weed Borro Solar กำลังการผลิตรวม 125 เมกะวัตต์ (แล้วเสร็จเมื่อ 15 สิงหาคม) นอกจากนี้ EGCO ยังถือสัดส่วนการลงทุน 49% ใน Pinnacle ซึ่งมีโครงการ Down East Wind (acquire ตั้งแต่มิถุนายน) ขนาด 126 เมกะวัตต์ และโครงการ Weed Borro ที่ Apex เสร็จแล้ว โดย EGCO รับรู้และปิดดีลเสร็จสมบูรณ์เมื่อ 26 กันยายน 2568

โครงการสุดท้ายคือ Linden Cogen ซึ่ง EGCO ถืออยู่แล้ว 28% และถือหุ้นเพิ่มเป็น 38% โครงการนี้เป็นพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิตรวม 980 เมกะวัตต์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะขยายการลงทุนในตลาดพลังงานสหรัฐอเมริกา

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

ถึงแม้ EGCO จะมีผลประกอบการที่ไม่สวยงามในไตรมาสนี้ แต่บริษัทก็ยังคงได้รับอันดับเครดิตเรตติ้ง AA จากสถาบัน TRIS Rating โดยมีแนวโน้มอยู่ที่คงที่

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน และได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่ม DJSI (ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ตั้งแต่ปี 2020

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

EGCO ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจหลักที่การผลิตไฟฟ้า และขยายการลงทุนในธุรกิจเสริม เช่น โครงการนิคมอุตสาหกรรมที่ระยอง (อยู่ระหว่างการหา partner และผู้สนใจลงทุน) และโครงการพื้นฐานที่อินโดนีเซีย (ผ่าน CDI) สำหรับธุรกิจปลายน้ำ EGCO มีธุรกิจบำรุงรักษาในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และลาว รวมถึงธุรกิจนวัตกรรมเพิ่มเติมในประเทศไทย (InnoPower ภายใต้ EGAT Group)

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 42.38]

  1. โครงการยู่หลินที่ผลงานไม่ค่อยดีจะมีการขายออกไปลงทุนอย่างอื่นหรือไม่?

    โครงการยู่หลินเพิ่งก่อสร้างเต็ม 80 ต้นและเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้ากลางปีนี้เอง ปกติไตรมาส 2-3 ลมจะไม่ค่อยเยอะ รายได้จะเยอะในไตรมาส 4 และ 1 ต้องรอดูสถานการณ์และผลประกอบการในอนาคตประกอบกันว่าจะมีการพิจารณาเรื่อง asset recycling หรือไม่

  2. ทำไมบริษัทต้องตั้ง impairment loss ทุกปี ทำไมไม่ตั้งสมมติฐานที่ conservative จะได้ไม่ต้องมาตั้งสำรอง?

    ตอนตั้งสมมติฐานตอนจะลงทุนมีการจ้างที่ปรึกษาและทำ due diligence ตั้งที่ conservative แล้ว แต่ระหว่างการก่อสร้างมีบางสิ่งที่ไม่ได้คาดหมายเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไปจากสมมติฐาน เช่น เรื่อง COVID ที่กระทบโครงการยู่หลิน หรือโครงการ TPN ที่ยอดขายไม่มาตามที่คาดหวังไว้ การใช้รถบรรทุกขนน้ำมันยังไม่ได้ลดน้อยลงไปอย่างมีนัยยะแล้วย้ายมาใช้ส่งน้ำมันทางท่อ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการ transition ต้องใช้เวลาพอสมควร นอกจากนี้ก็มีเรื่องสภาพเศรษฐกิจทั่วไป เช่น อัตราดอกเบี้ย ค่า FT เป็นหนึ่งในสูตรในการคำนวณการตั้ง impairment loss ด้วย

  3. บริษัทจะปันผลเยอะกว่านี้ได้ไหม หรือคิดว่าเอาไปลงทุนจะดีกว่าปันผล?

    แนวคิดบริษัทจะแบ่งส่วนเวลาเรามีกำไรจะปันผล 40% ส่วน 60% ขอเอาไปลงทุนเพื่อให้กระแสเงินสดที่จะกลับมาในอนาคตมีความยั่งยืนต่อไป ดังนั้นที่ผู้บริหารทำคือต้องสร้างผลกำไรให้เพิ่มขึ้นในระยะยาว เงินปันผลก็จะเพิ่มขึ้นเองอัตโนมัติ

  4. บริษัทไม่คิดจะทำ treasury stock บ้างหรือ เห็นคนอื่นทำกัน?

    บริษัทมีการ monitor ตลาดและคำนวณผลตอบแทนของการทำ treasury stock โดยเทียบกับการเอาเงินไปลงทุนในโครงการอื่นๆ และมีการอัปเดตกับทางคณะกรรมการเป็นระยะๆ ไม่ได้มีการปิดว่าห้ามทำ ถ้ามีความเหมาะสมก็มีโอกาสที่จะทำ เนื่องจากบริษัทก็ยังมีเงินอยู่ในมือ แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีแผน

  5. สอบถามเรื่องหุ้น CDI EGCO สามารถขายหุ้นได้ไหม เพราะกำไรจากหุ้นสูงมาก เอามากำไรสร้าง growth ได้มากกว่ารอปันผลจาก CDI ผิดกฎหมายหรือไม่?

    EGCO ลงทุนใน CDI มองเรื่องของ CDI เป็นแพลตฟอร์ม เน้นเรื่องของการลงทุนระยะยาวและเน้นสร้างความเติบโต ตอนนี้ก็ยังเป็นช่วงเริ่มต้นเราก็ยังมองถึงศักยภาพที่จะขยายได้อีกค่อนข้างมากทั้งในเรื่องของธุรกิจต่างๆ ซึ่งตอนนี้ก็จะเน้นไปเรื่องของตัวธุรกิจ port กับตัว logistics เป็นหลัก ตอนนี้ Chandra Asri ได้มีการเข้าไปลงทุนในเรื่องของโรงกลั่นในสิงคโปร์ ซึ่งจะเป็น opportunity เพิ่มเติมของ CDI ที่จะเข้าไป support เรื่องของตัว infrastructure ด้วย เราก็มองว่ามันก็จะเป็นโอกาสการเติบโตให้กับ EGCO ในระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว ทีนี้ถามว่าสามารถขายหุ้นได้ไหมก็สามารถขายได้ แต่เราก็มองเรื่องของการเติบโตเป็นสำคัญแล้วก็ดูช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกที

เพิ่มเติม: CDI ปัจจุบันอยู่ในช่วง silent period ยังไม่สามารถขายได้ ถ้าช่วงที่จะหมด silent period ก็จะมีการทำการวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง แล้วก็จะตัดสินใจ แต่ความตั้งใจเดิมเราตั้งใจที่จะเป็นผู้ถือหุ้นระยะยาว

โดยสรุป, EGCO เผชิญกับความท้าทายในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 แต่ยังคงมีโอกาสในการเติบโตจากโครงการใหม่และการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหา, การบริหารความเสี่ยง, และการปรับตัวเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว โดยยังคงให้ความสำคัญกับผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ผู้ถือหุ้น