สรุปงบล่าสุด ECF
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) : บทวิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ได้ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 379.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการส่งออก โดยเฉพาะประเทศอินเดียและฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท เควายซี นาว จำกัด เพื่อให้บริการตรวจสอบอัตลักษณ์และบริการอินเทอร์เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบอัตลักษณ์ อีกทั้งยังมีความคืบหน้าในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมืองมินบู ประเทศเมียนมาร์ โดยบริษัท กรีนเอิร์ธพาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทย่อยของ ECF ได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับ 6กล 7ท่นหาดท ไหเธเทสนือทล] Engineering Co., Ltd. ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบู เฟส 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกกะวัตต์
บริษัทฯ ได้วางแผนที่จะขยายโอกาสทางการตลาดโดยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในอนาคต ECF มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากลูกค้าให้การตอบรับสินค้าของบริษัทฯ เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ในปี 2567 เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลขายสินค้าในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นสำหรับธุรกิจเฟอร์นิเจอร์
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่ ECF ต้องเผชิญ แม้ว่าบริษัทฯ จะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ผลกำไรกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 114.96 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้น ร้อยละ 4-5 รวมไปถึงค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงขึ้น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เพิ่มขึ้นจาก 2.42 เท่า เป็น 2.95 เท่า ซึ่งบ่งบอกถึงภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ECF ยังต้องเผชิญกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากทิศทางค่าเงินบาทที่ผันผวน
## โอกาสและความเสี่ยง
**โอกาส**
* **การเติบโตของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์** ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทยและต่างประเทศยังคงมีแนวโน้มการเติบโต
* **การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย** ECF มีแผนที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่
* **การลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน** โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมืองมินบู เป็นโอกาสสร้างรายได้และเพิ่มความยั่งยืนให้กับธุรกิจ
**ความเสี่ยง**
* **ต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวน** ราคาไม้และวัตถุดิบอื่น ๆ อาจปรับตัวสูงขึ้น
* **การแข่งขันที่รุนแรง** ตลาดเฟอร์นิเจอร์มีการแข่งขันสูง
* **ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน** ค่าเงินบาทผันผวนอาจส่งผลต่อผลประกอบการของธุรกิจส่งออก
## เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบใด
จากผลประกอบการและอัตราส่วนทางการเงินที่ผ่านมา ECF ถือเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง P/E และ P/BV อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนในผลประกอบการของบริษัทฯ โดยเฉพาะผลขาดทุนสุทธิที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน ECF อาจเหมาะกับนักลงทุนที่
* **เก็งกำไรระยะสั้น** โดยมองหาจังหวะซื้อเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลง และขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้น
* **นักลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง** เช่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และพลังงานทดแทน
* **นักลงทุนที่ยินดีรับความเสี่ยงสูง** เนื่องจาก ECF มีความผันผวนของผลประกอบการค่อนข้างสูง
**หมายเหตุ:** ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน
**ข้อมูลเพิ่มเติม**
* นางสาวพชนัน สิงห์ภู่ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงินของ ECF
(11.71%)
(1.62%)
(0.75%)
(3.55%)
(9.84%)
(1.99%)
(5.99%)
(30.64%)
(70.59%)
(330.31%)
(114.46%)
(120.58%)