สรุปงบล่าสุด DRT

สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการของ บมจ. ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) ไตรมาส 3 ปี 2568

**ภาพรวมผลการดำเนินงาน**

บริษัทผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT รายงานผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 และงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้:

* **กำไรสุทธิ:** ไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 41.72 ล้านบาท ลดลง 51.78% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 ที่มีกำไรสุทธิ 86.52 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 244.39 ล้านบาท ลดลง 44.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 440.43 ล้านบาท (หน้า 1)

**1. สรุปรายได้รวม:**

* **รายได้จากการดำเนินงาน:** ในไตรมาส 3 ปี 2568 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 987.9 ล้านบาท ลดลง 11.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 และลดลง 18.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 มีรายได้จากการดำเนินงาน 3,565.3 ล้านบาท ลดลง 10.1% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนปี 2567 (หน้า 1, 2, 6)
* **สาเหตุหลัก:** การลดลงของรายได้มาจากการปรับลดราคาขายเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค, ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน, ยอดขายที่ลดลงในหลายผลิตภัณฑ์, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลูกค้าที่ลดการสต็อกสินค้า, ผลกระทบจากฤดูฝนที่ยาวนาน, และการชะลอตัวของคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ (หน้า 2, 3)
* **รายได้ในประเทศ:** ลดลง 10.2% ในไตรมาส 3 และ 11.9% ในงวด 9 เดือน เนื่องจากการลดราคา, สินเชื่อที่เข้มงวด, ยอดขายที่ลดลง, การลดสต็อกสินค้า, และผลกระทบจากฤดูฝน (หน้า 7)
* **รายได้ต่างประเทศ:** ลดลง 18.8% ในไตรมาส 3 และ 0.4% ในงวด 9 เดือน เนื่องจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อจากกัมพูชา แต่ตลาดฟิลิปปินส์ยังคงเติบโตได้ดี (หน้า 7)

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**

* **ภาพรวมอุตสาหกรรม:** DRT คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์จะยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูง, หนี้ครัวเรือน, และภาวะอุปทานส่วนเกินในบางกลุ่มผลิตภัณฑ์ (หน้า 2)
* **โอกาส:** บริษัทยังคงเห็นโอกาสในการเติบโตจากตลาดเมืองรองและกลุ่มลูกค้าใหม่ เช่น วัด, หน่วยงานราชการ, โรงเรียน, โรงพยาบาล, โรงแรม, รีสอร์ท, บ้านสำหรับผู้สูงอายุ, บ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง, ร้านกาแฟเครือข่าย, การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว, และกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี รวมถึงการขยายตัวของตลาดวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืนและนวัตกรรมใหม่ๆ (หน้า 2)
* **แนวโน้มการลงทุนก่อสร้าง:** SCB EIC คาดการณ์ว่ามูลค่าการลงทุนก่อสร้างในประเทศไทยจะขยายตัว 3.4% ในช่วงปี 2567-2568F โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งรัดโครงการภาครัฐ, การฟื้นตัวของภาคเอกชน, การลงทุนภาคอุตสาหกรรม, และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว (หน้า 4)

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**

* **อัตรากำไรขั้นต้น:** ในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 21.4% ลดลงจาก 25.5% ในไตรมาส 3 ปี 2567 และ 23.5% ในไตรมาส 2 ปี 2568 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของยอดขาย, อัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง, ต้นทุนคงที่ต่อหน่วยที่สูงขึ้น, และต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่างปูนซีเมนต์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (หน้า 3, 8)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** ในไตรมาส 3 ปี 2568 ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 20.4% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในช่วงทดลองการผลิตสินค้าประเภทอิฐมวลเบาของโรงงาน AAC-2 (หน้า 9)
* **รายได้อื่น:** เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการจำหน่ายสินค้าอิฐมวลเบาจากโรงงาน AAC-2 ในช่วงทดลองการผลิต (หน้า 9)

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**

* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีสินทรัพย์รวม 4,003.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากวันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 12)
* **หนี้สินรวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีหนี้สินรวม 1,819.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.8% จากวันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 13)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 2,184.0 ล้านบาท ลดลง 17.0% จากวันที่ 31 ธันวาคม 2567 (หน้า 13)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** เพิ่มขึ้นจาก 0.46 เท่า ณ สิ้นปี 2567 เป็น 0.83 เท่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 (หน้า 15)
* **สภาพคล่อง:** อัตราส่วนสภาพคล่องลดลงจาก 1.51 เท่า ณ สิ้นปี 2567 เป็น 1.27 เท่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 (หน้า 15)

**สรุปประเด็นสำคัญ:**

DRT มีผลประกอบการที่ลดลงในไตรมาส 3 ปี 2568 และงวด 9 เดือนปี 2568 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตจากตลาดใหม่และมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขยายตลาดส่งออกและการเพิ่มกำลังการผลิตจากโรงงานใหม่ (หน้า 2, 4)