DOHOME
บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

โอเคครับ เริ่มทำการสรุปผล Oppday หุ้น DOHOME ตามโครงสร้างที่กำหนดนะครับ

DOHOME เผยผลประกอบการปี 67: กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

รายได้รวมของบริษัทในปีนี้อยู่ที่ 31,327 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าประมาณ 0.78% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของ Same Store Sales Growth (SSSG)

อย่างไรก็ตาม Gross Profit อยู่ที่ 5,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.31% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า

EBITDA อยู่ที่ 3,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.93% และ Net Profit อยู่ที่ 674 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.17%

ในไตรมาส 4 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 7,623 ล้านบาท เติบโต 4% และ SSSG ในไตรมาส 4 เป็นบวกที่ 1.5% โดยบวกในทุกๆ เดือนตั้งแต่ตุลาคมถึงธันวาคม และในทุกภูมิภาค ยกเว้นกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ยังซอฟต์อยู่ แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว

รายได้รวมปี 2024 อยู่ที่ 30,991 ล้านบาท SSSG ทั้งปีติดลบ 5.3% โดยไตรมาส 1 ติดลบ 9.8% จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจและการดีเลย์งบประมาณของรัฐบาล

ไตรมาส 2 ติดลบ 5.3% แต่เริ่มดีขึ้น และลูกค้ากลุ่ม Back Office ในไตรมาส 3 เริ่มฟื้นตัว SSSG กลับมาเป็นบวก

ไตรมาส 3 ติดลบ 4.5% แต่ลูกค้ากลุ่ม Back Office เป็นบวกแล้ว ยังคงได้รับผลกระทบจากกลุ่มลูกค้า End User

ในไตรมาส 4 กลุ่มลูกค้าทั้ง End User และ Back Office เริ่มฟื้นตัว และ SSSG กลับมาเป็นบวก รวมถึงไตรมาส 1 ปี 2025 ก็ยังเห็นสัญญาณที่ดี

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

ทุกช่องทางของบริษัท SSSG ยังบวกได้ต่อเนื่องและยังเห็นการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง TruGOS ยังมี Room ที่จะ Improve ขึ้นได้อีก ในกับจำนวน Store ที่จะขยายเพิ่มขึ้น

E-Commerce ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเติบโตประมาณ 101% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในส่วนของนายช่างที่เติบโตประมาณ 565%

บริษัทมองว่าใน Long Term ยังมี Room ที่จะ Improve ให้ Performance ดีขึ้นอีก และเติบโตได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้นอีก

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ความเสี่ยงหลักคือภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาด

ความเสี่ยงจากความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขาย

ความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการต้นทุนและสินค้าคงคลัง

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทเน้นการบริหารจัดการต้นทุนสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพในทุกกลุ่มสินค้า

การปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง โดยใช้ระบบ AI เพื่อช่วยในการวางแผน

การขยายช่องทางการขายไปยัง E-Commerce และ TruGO เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า

การควบคุมค่าใช้จ่ายและ Lean Process รวมถึงการนำระบบเข้ามาช่วย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A)

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่ม Gross Profit ให้มากกว่า 17% ในปีนี้ และยังมี Room ในการ Improve ในหลายๆ ด้าน

บริษัทคาดการณ์ว่า SG&A จะลดลงได้อีกจากการ Lean Process และการนำระบบต่างๆ เข้ามาช่วย

บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขา TruGO เพิ่มขึ้น 8-10 สาขาในปีนี้ และมีแผนที่จะเปิดสาขา Large Store Format (ไซส์ L) อีก 3 สาขาในปี 2025

บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายของ House Brand ให้เป็น 21% ในสิ้นปี 2025

บริษัทมีเป้าหมายที่จะ Net Zero ในปี 2050

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 33:48]
  1. แผนการขยายสาขา TruGO:
    • *คำถาม:* บริษัทมีแผนขยายสาขา TruGO จาก 15 เป็น 50 สาขาใน 3 ปี อะไรเป็นปัญหาที่ทำให้ก่อนหน้านี้ขยายไม่ได้ และอะไรทำให้เร่งขยายใน 3 ปีนี้?
    • *คำตอบ:* หลักๆ มาจากความพร้อมของทีมงานและ Performance ของบริษัทที่ดีขึ้น ทำให้มั่นใจในการขยายสาขามากขึ้น
  2. เป้าหมายการเติบโตและงบลงทุนปี 2568:
    • *คำถาม:* ตั้งเป้าเติบโตไว้เท่าไร เติบโตจากอะไรบ้าง และวางงบลงทุนปีนี้เท่าไร ใช้อะไรบ้าง?
    • *คำตอบ:* ตั้งเป้า SSSG เป็นบวกประมาณกลางๆ (5-6-7%) โตจาก Large Store Format, TruGO, E-Commerce, ทีมช่าง งบลงทุน Store ไซส์ L ประมาณ 400-450 ล้านบาทต่อ Store (ไม่รวมค่าที่ดินและ Inventory) Inventory สำหรับ New Store ประมาณ 200-300 ล้านบาท
  3. แนวโน้มไตรมาส 1 และสัญญาณฤดูร้อน:
    • *คำถาม:* แนวโน้มไตรมาส 1 เป็นอย่างไร และเริ่มเห็นสัญญาณจากช่วงฤดูร้อนหรือยัง?
    • *คำตอบ:* ไตรมาส 1 ไม่ได้แตกต่างจากไตรมาส 4 SSSG เป็นบวก คาดว่าไม่น่าจะแตกต่างกันมาก Product Mix อาจมีการเปลี่ยนแปลง วัสดุก่อสร้างเริ่มขายได้ดี ซ่อมแซมจะตามมา ซ่อมแซมมี GP ที่ดีกว่าวัสดุก่อสร้าง
  4. สัดส่วนรายได้ของ Store แต่ละ Format:
    • *คำถาม:* สัดส่วนรายได้ของ XL, L และ TruGO ปี 2024 และปี 2027 จะเป็นเท่าไร?
    • *คำตอบ:* ปัจจุบัน TruGO, E-Commerce และนายช่างรวมกันประมาณ 3-4% ปี 2027 ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลข แต่คิดว่าเนื่องจากเป็นฐานที่ค่อนข้างต่ำ สัดส่วนจะค่อนข้างก้าวกระโดด TruGO มี GP ที่ดีกว่าไซส์ L
  5. เป้าหมาย SG&A และการควบคุมค่าใช้จ่าย:
    • *คำถาม:* ปีนี้วางเป้า SG&A ไว้กี่เปอร์เซ็นต์ สามารถควบคุมได้ที่ 13% ไหม?
    • *คำตอบ:* มองว่าทำได้ ในช่วงที่เปิด Store ใหม่ จะมีเวลา Setup Store ประมาณ 2-3 เดือน ช่วงนั้นค่าใช้จ่ายจะมาอย่างเดียว แต่หลังจากเปิด Store ไปแล้ว Level ของค่าใช้จ่ายน่าจะกลับมาเป็นปกติ Store นึงหลังจากเปิดมาสัก 3-4 เดือน ก็มีกำไรสุทธิหักดอกเบี้ย หักค่าใช้จ่าย หักค่าเสื่อมทุกชิ้นเริ่มเป็นบวกแล้ว คุมได้ไหมที่ 13 ก็คิดว่าคุมได้ และมี Room ในการ Control ค่าใช้จ่ายพอสมควร
  6. ทิศทาง GP ในปีนี้:
    • *คำถาม:* จากการที่บริษัทจะเน้น GP ในปีนี้ ไตรมาส 1 มีทิศทาง GP เป็นอย่างไร?
    • *คำตอบ:* ดูตัวเลข GP สูงกว่าไตรมาส 4 หน่อยนึง น่าจะอยู่ที่ประมาณ 18% น่าจะเป็นไปได้
  7. สถานการณ์ราคาเหล็กและผลกระทบ:
    • *คำถาม:* ช่วยอัปเดตสถานการณ์ราคาเหล็กโลกปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร และส่งผลกระทบต่อราคาเหล็กในไทยมากน้อยแค่ไหน?
    • *คำตอบ:* GP ของเหล็กตอนนี้ขยับสูงขึ้นมาจากไตรมาส 4 เห็น Gross Profit Margin ของเหล็กอยู่ที่ประมาณ 9-10% และปัจจุบันนี้ราคาเหล็กยังทรงๆ อยู่ พยายาม Stabilize GP เหล็กให้มันนิ่งที่ประมาณ Level เท่านี้ เพื่อที่จะให้ GP ไม่กระชาก และ Net Profit มันก็จะ Balance Net Profit ไปด้วย
  8. การขยาย TruGO และพื้นที่เป้าหมาย:
    • *คำถาม:* การขยาย TruGO จะยังคงเน้นในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือเปล่า ไม่แน่ใจมีแผนขยายไปต่างจังหวัดบ้างไหม?
    • *คำตอบ:* ปัจจุบันนี้ยังเน้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปีนี้ (ปี 2025) ยังเน้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล
  9. เป้าหมาย Inventory Day:
    • *คำถาม:* ตั้งเป้า Inventory Day On Hand ในปีนี้เท่าไร?
    • *คำตอบ:* อยากจะได้ต่ำกว่า 175 วัน ซึ่งในเดือนที่ 1 ที่ดูตัวเลขมาเนี่ยก็ประมาณ 174-175 วันแล้ว ก็อยู่ในทรงดี และมีการ Kick Off ตัว System ที่เป็น AI Calculate Demand Plan เพราะฉะนั้นก็คาดว่า System เดี๋ยว Kick Off ในต้นปี และ Plan ที่จะ Go Live เนี่ยภายในไตรมาสที่ 3 เพราะฉะนั้นก็จะเห็น Change ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4
  10. โอกาสเพิ่มสัดส่วนยอดขาย House Brand:
    • *คำถาม:* ในอนาคตบริษัทคาดว่าจะมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนยอดขาย House Brand ได้สูงสุดสักกี่เปอร์เซ็นต์ของยอดขาย?
    • *คำตอบ:* ในสิ้นปี 2025 อยากได้ประมาณ 21% Gross Profit Margin ของ House Brand ก็จะสูงกว่าตัวที่ไม่ใช่ House Brand อีกเท่านึง ประมาณ 30% อัพ บางกลุ่มก็จะได้ถึง 35-36-37
  11. ราคาเหล็กและแนวทางการจัดการ:
    • *คำถาม:* ราคาเหล็กมีความกังวลมากน้อยแค่ไหน มีแนวทางในการจัดการอย่างไร ในเชิงของราคาขายและ Stock?
    • *คำตอบ:* เหล็กเป็น Commodity เพราะฉะนั้นถ้าดูทุกๆ Category ของบริษัทเราก็จะมีเหล็กอยู่เดียวที่ GP อาจจะ Swing หน่อย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ปัจจุบันนี้เราพยายามทำก็คือ พยายามลด Stock ลง เราก็พูดกับ Investor ทุกครั้งว่าเรามีการ เรามีขายเหล็กสัดส่วนที่เยอะจริง แต่ถ้าเกิดเราดูยอดขายเฉลี่ยต่อบิลของกลุ่มเหล็กเนี่ยเป็นหลักหมื่น เพราะฉะนั้นเวลาที่เหล็กลาคาลงเนี่ย เราจะไม่ Impact เยอะเหมือน เหมือนหลายๆ ที่ที่ขายส่งเหล็กอย่างเดียว เรามีลูกค้าที่เป็น Small Ticket Size ในการขายเหล็กด้วย เพราะฉะนั้นก็จะทำให้ GP ของเหล็กที่เราดูดีกว่าพวกที่เป็น Trading
  12. สาเหตุที่ House Brand ไม่ถึงเป้า:
    • *คำถาม:* อยากทราบสาเหตุที่เปอร์เซ็นต์ Contribution ของ House Brand ในปี 2024 ไม่ถึงเป้า?
    • *คำตอบ:* Same Store Same Growth ของเราตกลงในไตรมาสที่ 1-2-3 และก็ไตรมาสที่ 4 ดูดีขึ้น ไตรมาสที่ 4 ดูดีขึ้นเนี่ยส่วนหนึ่งมาจาก งบประมาณของภาครัฐที่ปรับสูงขึ้น พองบประมาณภาครัฐที่ปรับสูงขึ้นปุ๊บ Category แรกที่เราขายได้ก็จะเป็นวัสดุก่อสร้าง ซึ่งวัสดุก่อสร้างเนี่ยมีสัดส่วนที่เป็น House Brand น้อยกว่าเพื่อน เพราะฉะนั้นพอสัดส่วนวัสดุก่อสร้างมันโตขึ้นมันก็ทำให้ สัดส่วนการขายของ House Brand ต่ำลง อย่างไรก็ตามแต่ สินค้าต้นน้ำคือเหล็กตอนนี้เซลล์มาแล้ว เพราะฉะนั้นใน Next Step ก็จะเริ่มขายพวกซ่อมแซมตกแต่งได้ ซึ่งกลุ่มซ่อมแซมตกแต่งเนี่ยก็จะมี House Brand เบรนดิตที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นเราก็เลยคาดหวังว่าสิ้นปี 2025 เนี่ยสัดส่วนเซลล์ของ House Brand ควรจะ Pickup สูงขึ้นกว่า 19% ซึ่งเรา Target 21
  13. ผลกระทบต่อ DOHOME จากสถานการณ์เหล็ก:
    • *คำถาม:* อยากทราบสถานการณ์เกี่ยวกับเหล็กในตอนนี้ส่งผลต่อดูโฮมอย่างไรบ้าง?
    • *คำตอบ:* GP เหล็กกลับมาเป็นปกติในเดือนธันวาคม พฤศจิกายนธันวาคมเริ่มกลับเป็นปกติแล้ว ปัจจุบันนี้เราเห็น GP เหล็กที่ 9-10% แล้วก็ปัจจุบันนี้ที่เห็นก็คือ GP เหล็กค่อนข้างนิ่ง ไม่ได้ราคาไม่ได้สวิงอะไร แล้วก็พยายามลด Stock เพื่อให้ เพื่อให้เวลาราคามันสวิงใน Impact เราจะน้อยลง
  14. แผนการขยายสาขาและการจัดเตรียม Capital:
    • *คำถาม:* สำหรับเป้าหมายในการขยายสาขาไซส์ L กับ XL ในอีก 3 ปีข้างหน้า มีการจัดเตรียม Capital อย่างไรบ้าง ใช้เงินกู้กี่เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะต้องเพิ่มทุนหรือไม่?
    • *คำตอบ:* ปัจจุบันนี้เราไม่ได้มี Plan การเพิ่มทุน Business Plan ที่เราทำมาเนี่ย เราคำนวณไปแล้วว่า Debt Equity ของบริษัทเราที่ธนาคารให้เนี่ย 3 หรือ 4 เท่า หรือ 2.5 เท่าเนี่ย มันอยู่ใน Level ที่ธนาคารรับได้ เพราะฉะนั้นสัดส่วนในการกู้เงินก็จะ ก็จะ พยายามขืน Debt Equity ไว้ไม่เกินที่ 3 ไม่เกินที่ 3 เท่า ไม่เกิน 2.5 เพราะฉะนั้นมี Room ในการขยายไหมมี เอาเงินมาจากไหนก็กู้ธนาคารบางส่วน แล้วก็ใช้เงินจาก Operating Cash Flow ในหลายๆ ส่วน
  15. ปัจจัยที่ทำให้ House Brand โต:
    • *คำถาม:* ปัจจัยที่ทำให้ House Brand โต 20% คืออะไร?
    • *คำตอบ:* ตอนนี้สัดส่วนวัสดุก่อสร้างมาละ เพราะฉะนั้นเสร็จต่อไปซ่อมแซมก็จะตามมา
  16. ผลกระทบจากการลด Inventory Day:
    • *คำถาม:* การลด Inventory Day ลง จะเพิ่มโอกาสสินค้าขาดที่หน้าร้าน ซึ่งจะทำให้สูญเสียโอกาสการขายที่ทำให้ลูกค้าต้องรอหรือไม่?
    • *คำตอบ:* ปัจจุบันนี้ Day เรา 100 ตีว่า ตีง่ายๆ คือ 180 วัน เพราะฉะนั้นการที่เรา Target Stock ลดลงเป็น 150 หรือ 160 หรือ 170 เนี่ย มันยังเหลือ Buffer ที่ Stock ไม่ขาดอยู่เยอะพอสมควร แล้วก็ดูโฮมเองเป็นสินค้าที่มีลักษณะเป็น Long Tail เยอะ เพราะฉะนั้นเวลาเรา ที่จะ Lean Inventory เราก็มี Room ในการ Lean Inventory เยอะพอสมควรโดยที่คิดว่าไม่กระทบต่อการขาย
  17. แผนการบริหารหุ้นกู้ที่ครบกำหนด:
    • *คำถาม:* หุ้นกู้ที่จะครบในปีนี้มีแผนจะบริหารอย่างไร?
    • *คำตอบ:* เราก็จะชำระหุ้นกู้ แล้วก็คิดว่าจะยังไม่ออกหุ้นกู้ฉบับใหม่ เพราะว่าเรามองว่าตอนนี้เนี่ย Cost Of Fund ที่เรากู้จากธนาคารเนี่ย ดอกเบี้ยถูกกว่าหุ้นกู้ค่อนข้างเยอะ อย่าง อย่าง ตอนนี้เนี่ย Rate ที่เรากู้กับธนาคารประมาณไม่ถึง 3% เพราะฉะนั้นก็ดูแล้วเนี่ยกู้ธนาคารน่าจะถูกกว่า เพราะฉะนั้นหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดก็จะคืน แล้วก็ไม่ได้เปิดหุ้นกู้ฉบับใหม่
  18. แผนการออกหุ้นกู้เพื่อลดดอกเบี้ย:
    • *คำถาม:* บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้เพื่อลดดอกเบี้ยไหม?
    • *คำตอบ:* ไม่ เพราะว่าที่ธนาคารให้บริษัทเรากู้อยู่ดอกเบี้ยถูกกว่าหุ้นกู้ค่อนข้างเยอะ

โดยสรุป DOHOME เผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ผันผวน แต่ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การขยายช่องทางการขาย และการควบคุมค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการลงทุนและการขยายสาขาที่ชัดเจน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต