สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ในไตรมาส 3 ปี 2567 รายงานผลประกอบการโดยมีรายได้รวม 7,505.17 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยเพียง 0.04% จากไตรมาส 3 ปี 2566 แม้จะเผชิญกับสภาวะโลว์ซีซันของภาคการก่อสร้างและปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ บริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เช่น งาน "ดูโฮม แฟร์" เพื่อกระตุ้นยอดขาย และพัฒนาช่องทางการขาย โดยเฉพาะสาขาขนาดเล็ก (DOHOME express) ช่องทางออนไลน์ และบริการโฮมเซอร์วิส "นายช่าง" ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 15.5% เป็น 16.4% จากการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นในสินค้ากลุ่มซ่อมแซมและกลุ่มตกแต่ง แต่กำไรสุทธิลดลง 14.9% จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาขนาดใหญ่และสาขาขนาดเล็กใหม่ บริษัทฯ ได้เปิดสาขาขนาดเล็กเพิ่ม 2 สาขา ทำให้มีสาขาขนาดใหญ่ทั้งหมด 24 สาขา และสาขาขนาดเล็กทั้งหมด 15 สาขา

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ของ DOHOME ในอนาคตเน้นการขยายสาขา พัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ และบริการโฮมเซอร์วิส เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ควบคุมค่าใช้จ่าย และบริหารจัดการหนี้สิน เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร บริษัทฯ คาดการณ์ว่าปี 2567 จะมีรายได้รวมเติบโต โดยตั้งเป้ารายได้รวมไม่ต่ำกว่า 32,000 ล้านบาท

DOHOME มีความน่าสนใจในการลงทุน โดยมีอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลังที่น่าพอใจ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 46.36 ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนในระดับสูง P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 2.67 และ YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 0.05% ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังในช่วง 5 ปี อยู่ที่ 18.93 บาท D/E ล่าสุดอยู่ที่ 1.79 บ่งบอกถึงภาระหนี้สินที่ต่ำ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 77.08 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ สะท้อนการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ วงจรเงินสดอยู่ที่ 145.9 แสดงถึงการมีประสิทธิภาพในการบริหารเงินสด ทั้งนี้ DOHOME มีโอกาสและความเสี่ยงดังนี้

**โอกาส**

- ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการขยายสาขา พัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ และบริการโฮมเซอร์วิส
- อัตรากำไรขั้นต้นสูง และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
- D/E ต่ำ พื้นฐานแข็งแกร่ง
- วงจรเงินสดน้อย บริหารเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

**ความเสี่ยง**

- สภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภค
- การแข่งขันในตลาด
- ต้นทุนวัตถุดิบ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

โดยรวมแล้ว DOHOME เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ซึ่งมีการเติบโต มีกำไร และมีการบริหารจัดการที่ดี อย่างไรก็ตาม ควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด