สรุปงบล่าสุด DMT

บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการหุ้น DMT: บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด)
**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567**
บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT สิ้นสุดปี 2567 ด้วยรายได้รวมที่ 2,585.19 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2566 กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 899.33 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้รายได้เติบโตคือปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น 4.7% และการปรับขึ้นค่าผ่านทางใหม่ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากการปรับปรุงการตัดจ่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับ
**กระแสเงินสดปี 2567**
* **กระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน:** 1,645.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2566
* **กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน:** -3.66 ล้านบาท ลดลง 97% จากปี 2566
* **กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน:** -1,575.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ สิ้นปี:** 284.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากปี 2566
**อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ**
* **กำไรสุทธิต่อหุ้น:** 0.76 บาท ลดลงจาก 0.85 บาทในปี 2566
* **EBITDA Margin:** 76.75% ลดลงจากปี 2566
* **NPAT Margin:** 36.59% ลดลงจาก 43.14% ในปี 2566
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น:** 0.11 เท่า ลดลงจาก 0.18 เท่า ณ สิ้นปี 2566
* **อัตราส่วนสภาพคล่อง:** 1.17 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2566
* **อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว:** 1.15 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2566
**การจ่ายเงินปันผล**
บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสำหรับปี ภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
**ความสำเร็จด้านความยั่งยืนและพันธมิตร**
นอกเหนือจากผลประกอบการทางการเงิน DMT ยังได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ "AA" จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น บริษัท เอซีซี อินฟรา จำกัด และได้ริเริ่มโครงการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System: BESS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสะอาด
**ภาพรวมเศรษฐกิจและผลกระทบ**
ในปี 2567 เศรษฐกิจไทยโดยรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับศักยภาพ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนสูงจากนโยบายเศรษฐกิจของต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ การชะลอตัวของสินเชื่อในบางภาคส่วนธุรกิจก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตา แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวและการบริการจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย
**การวิเคราะห์รายได้และกำไร**
การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไรของ DMT ในปี 2567 มาจากหลายปัจจัย ได้แก่:
* **รายได้ค่าผ่านทาง:** ปี 2567 มีจำนวน 2,458.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจากปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันในปี 2567 เพิ่มขึ้น 4.7% และการจัดเก็บอัตราค่าผ่านทางใหม่ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2567
* **ต้นทุนการให้บริการทางยกระดับ:** ปี 2567 มีจำนวน 1,089.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจาก มีการปรับปรุงอัตราส่วนปริมาณจราจรที่ใช้สําหรับปี ส่งผลให้การค่าตัดจำหน่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับเพิมขึ้น
* **ค่าใช้จ่าย:** ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ
* **กำไรสำหรับงวด:** ในปี 2567 มีจำนวน 899.33 ล้านบาท ลดลง 10.34% เนื่องจากต้นทุนให้บริการทางยกระดับเพิ่มขึ้น
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** [โปรดระบุอัตรากำไรขั้นต้น] ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานหลักของบริษัท
* **อัตรากำไรสุทธิ:** [โปรดระบุอัตรากำไรสุทธิ] ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
**ผลการดำเนินงานรายไตรมาส 4 ปี 2567**
เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567:
* รายได้ค่าผ่านทาง: เพิ่มขึ้น 2% เป็น 632.71 ล้านบาท
* ต้นทุนการให้บริการทางยกระดับ: เพิ่มขึ้น 75% เป็น 407.42 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับปรุงอัตราส่วนปริมาณจราจรที่ใช้สําหรับปี ส่งผลให้ค่าตัดจำหน่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับ ตามที่ได้รายงานในหัวข้อที่ 2) เหตุการณ์สําคัญของบริษัทฯ ปี 2567 หัวข้อย่อย 3 การปรับปรุงการตัดจ่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับ ส่งผลให้ค่าตัด จำหน่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับ ซึ่งเป็น Non-Cash expense ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 มีจำนวน 303.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาสที่ 3 จำนวน 168.45 ล้านบาท
* กำไรสำหรับงวด: ลดลง 51% เป็น 128.93 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566:
* รายได้ค่าผ่านทาง: เพิ่มขึ้น 5% เป็น 632.71 ล้านบาท
* ต้นทุนการให้บริการทางยกระดับ: เพิ่มขึ้น 75% เป็น 407.42 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับปรุงอัตราส่วนปริมาณจราจรที่ใช้สําหรับปี ส่งผลให้ค่าตัด จำหน่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับ ตามที่ได้รายงานในหัวข้อที่ 2) เหตุการณ์สําคัญของบริษัทฯ ปี 2567 หัวข้อย่อย 3 การปรับปรุงการตัดจ่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับ ส่งผลให้ค่าตัด จำหน่ายต้นทุนสัมปทานในการใช้ทางยกระดับ ซึ่งเป็น Non-Cash expense ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 มีจำนวน 303..01 ล้านบาท
* กำไรสำหรับงวด: ลดลง 48% เป็น 128.93 ล้านบาท
**ปริมาณจราจร**
* ปริมาณจราจรเฉลี่ยรายวันตลอดทั้งปี 2567: สัมปทานเดิม 71,155 คันต่อวัน, ตอนต่อขยายด้านทิศเหนือ 40,767 คันต่อวัน รวม 111,922 คันต่อวัน
* ปริมาณจราจรเฉลี่ยรายวันตลอดทั้งปี 2566: สัมปทานเดิม 67,332 คันต่อวัน, ตอนต่อขยายด้านทิศเหนือ 39,575 คันต่อวัน รวม 106,907 คันต่อวัน
* ปี 2567 ปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 4.7 ผลการดําเนินงานภาพรวมปริมาณจราจรอยู่ในกรอบที่ฝ่ายบริหารคาดการณ์ไว้ โดยแนวโน้ม ณ สินปี 2567 ต่อเนื่องไปยังปี 2568
**ฐานะทางการเงิน**
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567:
* สินทรัพย์รวม: 9,406.08 ล้านบาท ลดลง 6% จากปี 2566
* หนี้สินรวม: 935.81 ล้านบาท ลดลง 39% จากปี 2566
* ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม: 8,4670.26 ล้านบาท ลดชิ้น 22.49 ล้านบาท
* มีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้เป็นจำนวนเงินรวม 2,000 ล้านบาท
* บริษัทฯ ได้จัดสรรทุนสํารองตามกฎหมายไว้ครบจํานวนร้อยละ 10 ของทุน จดทะเบียน
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.11 เท่า แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินของบริษัท และความสามารถในการชำระหนี้
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส**
**ความเสี่ยง:**
* ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ: ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการจราจรบนทางยกระดับ
* ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน: การแข่งขันจากทางเลือกในการเดินทางอื่นๆ อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท
* ความเสี่ยงด้านกฎหมาย: การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทางยกระดับ
**โอกาส:**
* การขยายตัวของเมือง: การขยายตัวของเมืองและการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรจะส่งผลให้ปริมาณการจราจรบนทางยกระดับเพิ่มขึ้น
* การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งจะช่วยเชื่อมต่อทางยกระดับกับพื้นที่ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
* การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน: การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินงานจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
* การกลับมาให้บริการของสายการบินระหว่างประเทศที่สนามบินดอนเมือง: จะส่งผลให้ปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองสูงขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ตามฤดูการท่องเที่ยวและการกระตุ้นของภาครัฐ
**แนวโน้มปริมาณจราจรปี 2568**
คาดการณ์แนวโน้มปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองปี 2568 ยังคงคาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งต้องประเมินการเติบโตของปริมาณจราจรหลังจากนี้จะเป็นการเติบโตโดยธรรมชาติที่ตามปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ภาครัฐคาดว่า GDP ของประเทศอยู่ที่ประมาณ 2.7% ต่อปี โดยปัจจัยขึ้นอยู่กับภาคการบริการและการท่องเที่ยว
**ผลการดำเนินงานตามแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 2568-2572 (Sustainability Plan)**
บริษัทฯ ได้จัดทำกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเป็นแผนระยะยาว โดยมีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนทั้งหมด 7 กลยุทธ์ ได้แก่:
1. **Management/Maintenance:** พัฒนาและสร้างมาตรฐานการทำงานด้านการดำเนินงานและบำรุงรักษาทางเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ใช้ทางยกระดับ
2. **Inclusive Growth:** การสร้างพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการทางด่วนและทางพิเศษเส้นทางใหม่เพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจ
3. **New Business Venture:** การศึกษาเพื่อลงทุนในธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจทางด่วนและทางพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงจากการมีรายได้ทางเดียวและความมั่นคงทางธุรกิจในระยะยาว
4. **ESG Compliance:** การวางกลยุทธ์กิจกรรมต่างๆ ในแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และกำกับดูแลกิจการหรือเศรษฐกิจ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม กฎหมาย และพฤติกรรมผู้บริโภค
5. **High Performance & Great Working Place:** การพัฒนาศักยภาพของพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญขั้นสูงและมีความยืดหยุ่นในการทำงาน พร้อมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี
6. **Synergy Development:** การสร้างพันธมิตร คู่ค้า หรือชุมชนโดยรอบ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและทันต่อความเปลี่ยนแปลง
7. **Operational Excellence & Recognition:** การสร้างการรับรู้ความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ให้เป็นที่รับรู้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ
**แนวโน้มอนาคต**
DMT มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวของเมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และการดำเนินงานตามแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
**สรุปความสัมพันธ์ของปัจจัยสำคัญ**
รายได้และกำไรของ DMT มีความสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณการจราจรบนทางยกระดับ อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ การบริหารจัดการปัจจัยเหล่านี้อย่างเหมาะสมจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของ DMT ในระยะยาว นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และการดำเนินงานตามแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในระยะยาวและเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน
(2.27%)
(3.75%)
(41.76%)
(39.50%)
(43.06%)
(41.69%)
(20.85%)
(3.57%)
(52.54%)
(48.63%)
(98.47%)
(0.00%)