สรุปงบล่าสุด CPW

สรุปด้วย AI(O) BOT

บทความสรุปผลประกอบการของ หุ้น CPW บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) ในไตรมาส 3 ปี 2568

รายได้รวมของ CPW ในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 2,481.95 ล้านบาท ลดลง 2.88% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 25.30% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 มีรายได้รวม 7,651.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 25.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.03% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสำหรับงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 67.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.47% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตนี้มีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าทุกประเภท (หน้า 1)

สถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสล่าสุดมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงในรายได้จากการขายสินค้าคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการเติบโตในส่วนของสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์และรายได้จากการบริการ (หน้า 2)

การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไรของบริษัทมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ โดยอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 13.51% เพิ่มขึ้นจาก 12.60% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และ 11.94% ในไตรมาส 2 ปี 2568 สำหรับงวด 9 เดือน อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.43% เพิ่มขึ้นจาก 12.16% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ค่าเช่า และค่าเสื่อมราคาจากการเปิดสาขาใหม่ รวมถึงค่าธรรมเนียมการขายจากช่องทาง Online ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น (หน้า 3)

สินทรัพย์รวมของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 2,462.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2567 จำนวน 61.28 ล้านบาท หนี้สินรวมมีจำนวน 1,638.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.74 ล้านบาทจากสิ้นปี 2567 ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 823.87 ล้านบาท ลดลง 28.46 ล้านบาทจากสิ้นปี 2567 อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ไม่ได้ระบุไว้โดยตรง แต่สามารถคำนวณได้จากข้อมูลสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น (หน้า 4, 5)

บริษัทจ่ายเงินปันผลจำนวน 96 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งมีผลกระทบต่อกระแสเงินสด (หน้า 5)

ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญคือการแข่งขันในตลาดสินค้าไอทีและดิจิทัลไลฟ์สไตล์ โอกาสในการเติบโตอยู่ที่การขยายสาขาและการเพิ่มยอดขายผ่านช่องทาง Online แนวโน้มอนาคตของการลงทุนในบริษัทขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขาย รวมถึงการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในกลุ่มสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ (หน้า 3, 5)

โดยสรุป ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อกำไรในช่วงรายงาน ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าทุกประเภท โดยเฉพาะสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขาย และการเปลี่ยนแปลงในอัตรากำไรขั้นต้น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ไม่ได้ระบุไว้โดยตรง แต่สามารถคำนวณได้จากข้อมูลสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น