สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3 ปี 2567

บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL) ในไตรมาส 3 ปี 2567 บันทึกผลขาดทุนสุทธิ 10.67 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขาดทุนสุทธิร้อยละ 26.96 ลดลงจากไตรมาส 3 ปี 2566 โดยรายได้จากการขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 62.56 ล้านบาท เหลือเพียง 39.02 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความล่าช้าของงบประมาณภาครัฐ ส่งผลต่อปริมาณการขายแผ่นผนังและแผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป บริษัทได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตโดยการก่อสร้างไลน์การผลิตแห่งที่ 2 ซึ่งทำให้สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 15.18% โดยการลงทุนนี้ทำให้บริษัทมีหนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 37.33% เนื่องจากการกู้ยืมเงินระยะยาวจากสถาบันการเงิน

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของบริษัทเน้นการขยายตลาดและสร้างความแข็งแกร่งด้านการผลิต โดยการลงทุนในไลน์การผลิตแห่งที่ 2 นี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้สามารถรองรับความต้องการของตลาดได้มากขึ้น รวมถึงลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2567 ไว้ที่ 480 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ส่งผลให้ความต้องการของตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัว

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด บริษัท CPANEL แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวน อัตราส่วนทางการเงินที่น่าสนใจ เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ล่าสุดอยู่ที่ 0.84 ซึ่งต่ำกว่า 1 แสดงถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น การลงทุนในไลน์การผลิตแห่งที่ 2 นี้ แม้จะทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยส่วนของผู้ถือหุ้นที่ลดลงจากการจ่ายเงินปันผลและขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2567

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 5.09 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 12 เดือนที่ผ่านมาที่ 7.29 บาท P/E ล่าสุดอยู่ที่ 13.92 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 1.31 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด แสดงถึงราคาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี บริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (YIELD) ล่าสุดอยู่ที่ 4% ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

**โอกาส**
- การลงทุนในไลน์การผลิตแห่งที่ 2 จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพการผลิต
- ภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี จะส่งผลต่อความต้องการของตลาด
- อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำ ทำให้บริษัทมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

**ความเสี่ยง**
- ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนอาจส่งผลต่อความต้องการของตลาด
- การแข่งขันในอุตสาหกรรม
- ความล่าช้าของงบประมาณภาครัฐ

โดยภาพรวม CPANEL อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตและพร้อมรับความเสี่ยงในช่วงเวลาเศรษฐกิจที่ผันผวน นักลงทุนอาจพิจารณาการลงทุนเพื่อรับเงินปันผลจากผลตอบแทนที่น่าสนใจ แต่สำหรับนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรระยะสั้น ควรติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน