CPALL
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567

Q&A สรุปถามตอบ OPPDAY

```html สรุปข้อมูล Oppday

สรุปข้อมูลจากการประชุม Oppday

ภาพรวมธุรกิจและกลยุทธ์

  • เน้นสินค้าตามความต้องการของลูกค้า (Fan Based): พยายามจับตลาด Ambient และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของลูกค้า
  • ขยายสาขาด้วยรูปแบบใหม่: มุ่งเน้นเปิดสาขาขนาดใหญ่ที่มีที่จอดรถมากขึ้น โดยมีสินค้าหลากหลายทั้งอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค
  • เพิ่มความหลากหลายของสินค้า (Product Variety): มีสินค้าที่แตกต่างกันไปตามขนาดสาขาและพื้นที่ เช่น มุมอาหารพร้อมทาน, ตู้แช่, และ Cafe Corner
  • รักษา Product Category เหมือนกันทุกสาขา: แต่ความหลากหลายของสินค้าอาจแตกต่างกันไปตามขนาดและที่ตั้งของสาขา

แผนการดำเนินงานและเป้าหมาย

  • การขยายสาขา
    • เป้าหมายขยายสาขา: ยังคงเป้าหมายเปิด 700 สาขาต่อปีในประเทศไทย
    • คาดการณ์จำนวนสาขา Cafe Corner: มี Cafe Corner ประมาณ 10-12 สาขาต่อปี
    • คาดการณ์จำนวนสาขาทั้งหมด: รวม 12,000 - 13,000 สาขา
  • การลงทุนและพัฒนา
    • การลงทุน IP และ DC: ครึ่งหนึ่งของการลงทุนเน้นการพัฒนา In-house IP และการสร้าง Distribution Center (DC)
    • การจัดการค่าใช้จ่าย: มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย
  • การจ่ายปันผล
    • นโยบายการจ่ายปันผล: ไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ แต่ที่ผ่านมามีการจ่ายมากกว่า 50%

ข้อมูลผลิตภัณฑ์และยอดขาย

  • สินค้าขายดี
    • กลุ่มสินค้าขายดี: กลุ่มอาหารและ Ready-to-Eat ขายดีที่สุด
    • ความแตกต่างด้านพฤติกรรมผู้บริโภค: ในลาวและกัมพูชา ผู้บริโภคเน้นสินค้าพร้อมทาน
  • จำนวนสาขา
    • จำนวนสาขาในกัมพูชา: มี 98 สาขาในปัจจุบัน
    • จำนวนสาขาในลาว: มี 9 สาขาในปัจจุบัน
  • บรรจุภัณฑ์
    • บรรจุภัณฑ์กาแฟ: แก้วกาแฟร้อนเป็นกระดาษ ส่วนแก้วเย็นยังเป็นพลาสติก (เน้น ESG)

การบริหารจัดการและค่าใช้จ่าย

  • การประหยัดพลังงาน: ปรับปรุงตู้เย็นให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
  • การจัดการค่าใช้จ่าย: ควบคุมค่าใช้จ่ายให้เติบโตไม่เกินยอดขาย
  • การปรับปรุงประสิทธิภาพ: พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

การขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ

  • การขยายสาขาในต่างประเทศ: มีความพร้อม แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์

การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง (Lotus's)

  • ความแตกต่างทางธุรกิจ: 7-Eleven เน้นความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า ส่วน Lotus's เน้นการขายสินค้าแบบ Big Pack

แนวโน้มและปัจจัยเสี่ยง

  • การเติบโตของกำไร: มุ่งเน้นการเพิ่มยอดขาย บริหาร Product Mix และควบคุมค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่ม Net Profit
  • การเติบโตของยอดขาย: คาดว่าจะเติบโตตาม GDP ของประเทศไทย แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภาคการบริโภคและการท่องเที่ยว
  • ช่วงเวลา Festive Season: คาดว่า Festive Season จะส่งผลดีต่อยอดขาย
  • ปัจจัยเสี่ยง: ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการแข่งขันในตลาด

ข้อมูลเพิ่มเติม

บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพ การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
```


สรุปด้วย AI(O) BOT

เอกสาร OPPDAY

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL แสดงผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 241,282 ล้านบาท (รวมบริษัทในเครือ) และ 115,775 ล้านบาท (เฉพาะบริษัทหลัก) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิปรับปรุงแล้ว (หลังหักกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ CP Axtra) อยู่ที่ 6,190 ล้านบาท (รวมบริษัทในเครือ) และ 4,467 ล้านบาท (เฉพาะบริษัทหลัก) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.7% (รวมบริษัทในเครือ) และ 29.1% (เฉพาะบริษัทหลัก) อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4.8% (รวมบริษัทในเครือ) และ 6.4% (เฉพาะบริษัทหลัก) สะท้อนถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุน ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 รายได้รวมสูงถึง 730,233 ล้านบาท (รวมบริษัทในเครือ) และ 351,785 ล้านบาท (เฉพาะบริษัทหลัก) กำไรสุทธิปรับปรุงแล้ว 18,458 ล้านบาท (รวมบริษัทในเครือ) และ 17,390 ล้านบาท (เฉพาะบริษัทหลัก)

จำนวนสาขา ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 มีทั้งหมด 15,053 สาขา (รวมบริษัทในเครือ) แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 13,838 สาขา และต่างจังหวัด 1,215 สาขา บริษัทขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 98 สาขาใน 9 เดือนแรกของปี แผนธุรกิจของ CPALL เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ กลยุทธ์ O2O ประสบความสำเร็จ มีสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ 3% ในไตรมาส 3/67 การบริหารจัดการสินค้าเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญ โดยเน้นสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรสูง เช่น สินค้าดูแลส่วนตัว สินค้าครัวเรือน เป็นต้น ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 48,565 ล้านบาท (รวมบริษัทในเครือ) และ 31,510 ล้านบาท (เฉพาะบริษัทหลัก) คิดเป็น 19.7% และ 27.3% ของรายได้รวมตามลำดับ

ข้อมูลทางการเงินแสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของ CPALL อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่ดี การเติบโตอย่างต่อเนื่องสะท้อนถึงศักยภาพ แม้ไม่มีข้อมูล D/E Ratio อย่างชัดเจน แต่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ การขยายสาขา ยอดขายออนไลน์ และการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย สนับสนุนกำไร แผนการลงทุนในอนาคต CPALL วางแผนลงทุนในสาขาใหม่ 3,800-4,000 สาขา ปรับปรุงสาขาเดิม 2,900-3,500 สาขา ลงทุนในโครงการใหม่ๆ บริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้า 4,000-4,100 ล้านบาท และลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและระบบไอที 1,300-1,400 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 12,000-13,000 ล้านบาท แสดงถึงแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ CPALL เป็นหุ้นที่น่าสนใจ แต่ควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ การแข่งขัน และนโยบายของรัฐบาลด้วย ข้อมูลงบการเงินแยกเฉพาะบริษัทหลัก แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างหนี้สินที่ค่อนข้างสูง เมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม แต่บริษัทฯ มีกระแสเงินสดและกำไรที่แข็งแกร่ง จึงยังคงมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุน อย่างไรก็ตาม ควรวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน