สรุปงบล่าสุด CPALL
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
รายได้รวม 248,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงการขยายตัวของการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 54,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% ส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 48,836 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 6,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นได้แก่ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มรายได้จากการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น รวมถึงการลดต้นทุนทางการเงินจากการจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อยังรายงานการเปิดสาขาใหม่ 124 สาขาในไตรมาสนี้ ทำให้ยอดรวมสาขาทั่วประเทศอยู่ที่ 14,854 สาขา
สำหรับแผนอนาคต บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะขยายสาขาร้านสะดวกซื้อเพิ่มอีก 700 สาขาในปี 2567 โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 12,000 - 13,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการคัดสรรสินค้าเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นและการขยายช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศในอนาคต
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL): ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 บ่งบอกถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 248,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ จากการบริโภคภายในประเทศที่ยังคงขยายตัว รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงวันหยุดยาวก็มีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งกลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจก็เป็นปัจจัยเสริมในการเติบโตของรายได้ด้วย
บริษัทฯ วางแผนขยายสาขาร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทยประมาณ 700 สาขา ในปี 2567 และมีเป้าหมายที่จะเปิดร้านใหม่เพิ่มในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว บริษัทฯ คาดการณ์อัตราการเติบโตของรายได้จะมาจากการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ ยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม และยอดขายจากช่องทางอื่นๆ อาทิ 7-Delivery และ 7-Go ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในด้านกำไรขั้นต้น บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเน้นการพัฒนาการคัดสรรสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และผลักดันให้มีสัดส่วนของสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น ทั้งจากสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภค
## CPALL โอกาสการลงทุนหรือไม่?
CPALL เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาวที่มองหาการเติบโตอย่างยั่งยืน ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 2.37% ในปี 2566 อย่างไรก็ตาม P/E ที่อยู่ที่ 25.09 และ P/BV ที่ 4.39 บ่งบอกว่าความคาดหวังของนักลงทุนอยู่ในระดับปานกลาง
จุดแข็งของ CPALL คือ
- **รายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง**: CPALL มีรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาวะเศรษฐกิจ
- **ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง**: CPALL มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับผู้บริโภค
- **ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ**: CPALL มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- **D/E ที่ต่ำ**: D/E ของ CPALL อยู่ที่ 2.07 แสดงถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินของบริษัทฯ และมีโอกาสได้รับสินเชื่อจากเจ้าหนี้สูงขึ้น
- **วงจรเงินสดที่น้อย**: วงจรเงินสดของ CPALL อยู่ที่ -32.1 ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ ทำให้มีเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ เช่น การลงทุน การจ่ายเงินปันผล การจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้
- **เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่สูง**: เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานของ CPALL อยู่ที่ 87,171.845659 ล้านบาท บ่งบอกถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอย่างมั่นคง
- **การลงทุนต่อยอดธุรกิจ**: เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนของ CPALL ติดลบ แสดงให้เห็นว่าบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ
## ความเสี่ยง
- **การแข่งขันในตลาดที่สูง**: ตลาดค้าปลีกในประเทศไทยมีการแข่งขันที่สูง CPALL ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากมาย
- **ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น**: ค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ เช่น ค่าแรง ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทฯ
- **การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค**: พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว CPALL ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
**CPALL เป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีโอกาสเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ในตลาดอย่างใกล้ชิด และประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน**
(2.78%)
(6.91%)
(3.48%)
(9.15%)
(0.69%)
(2.10%)
(4.93%)
(6.47%)
(1.26%)
(40.58%)
(33.49%)
(4.09%)