สรุปงบล่าสุด CKP

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการและวิเคราะห์ CK Power (CKP) ปี 2567 (อัพเดทล่าสุด)
ภาพรวมผลประกอบการ CKP ปี 2567 แสดงถึงความสามารถในการปรับตัวภายใต้สภาวะตลาดที่ผันผวน โดยมี **รายได้รวมลดลงเล็กน้อย 1.4% YoY** คิดเป็น 10,788.8 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น (BIC) ที่ **ลดลง 13.6% YoY** จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง อย่างไรก็ตาม **รายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 25.3% YoY** จากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สูงขึ้นอันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ลานีญา ทำให้ NN2 สามารถประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้าได้มากขึ้น แม้ว่า **กำไรสุทธิจะลดลง 8.0% YoY** อยู่ที่ 1,344.5 ล้านบาท แต่ **กระแสเงินสดจากการดำเนินงานยังคงแข็งแกร่งที่ 4,276.4 ล้านบาท** นอกจากนี้ สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 5.1% จากสิ้นปี 2566 โดยหลักมาจากเงินสดที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานและการออกหุ้นกู้ ขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 7.7% จากการออกหุ้นกู้เช่นกัน และส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 3.1% จากผลการดำเนินงาน
CKP วางแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 95% ภายในปี 2586 โดยมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กับ BEM จำนวน 3 โครงการ และคาดว่าจะเริ่มทยอยผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ครบทุกโครงการในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 นอกจากนี้ CKP ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทริสเรทติ้งได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ CKP เป็น "A-" แนวโน้ม "คงที่" สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงินและความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัท นอกจากนี้ CKP ยังให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนโดยมีกลยุทธ์ "CLEAN" ที่ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
การพิจารณา CKP เป็นโอกาสในการลงทุนนั้น จำเป็นต้องมองภาพรวมในระยะยาวมากกว่าผลประกอบการในไตรมาสใดไตรมาสหนึ่ง แม้ว่าผลประกอบการปี 2567 จะลดลงเล็กน้อย แต่ความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ทำให้ CKP เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาการเติบโตในระยะยาว
**ภาพรวมผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง:**
* **โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2):** รายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น และความพร้อมจ่ายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 26.3% YoY
* **โรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น (BIC):** รายได้ลดลงจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง รวมถึงมีผลกระทบจากฝนตกนอกฤดูและการซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า
* **โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์:** ปริมาณการขายไฟฟ้าลดลงเล็กน้อยจาก 22.8 ล้านหน่วยในปี 2566 เป็น 21.8 ล้านหน่วยในปี 2567
* **โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี (XPCL):** ส่วนแบ่งกำไรลดลงจากปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้ต้องหยุดผลิตไฟฟ้าชั่วคราว ต้นทุนขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
**ส่วนแบ่งกำไร(ขาดทุน)จากเงินลงทุนในการรวมค้าและบริษัทร่วม:**
*ปี2566 = 858.8 ล้านบาท
*ปี2567 = 615.1 ล้านบาท
**ต้นทุนการดำเนินงาน:** ลดลง 9.4% YoY โดยมีรายละเอียดดังนี้:
* **ค่าเชื้อเพลิง (BIC):** ลดลง 18.3% ตามราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง
* **ค่าผ่านสาย:** เพิ่มขึ้น 23.4% ตามปริมาณการส่งไฟฟ้าของ NN2 ที่เพิ่มขึ้น
* **ค่าสัมปทาน:** เพิ่มขึ้น 23.7% สอดคล้องกับรายได้ขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของ NN2
**ฐานะทางการเงิน (สิ้นปี 2567):**
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:** เพิ่มขึ้น 52.8% จากสิ้นปี 2566
* **เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน:** เพิ่มขึ้น 14.4% จากสิ้นปี 2566
* **หุ้นกู้:** เพิ่มขึ้น 4.8% จากสิ้นปี 2566
* **อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม:** 0.80 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.77 เท่าในปีก่อน
* **อัตราส่วนสภาพคล่อง:** 1.86 เท่า ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.68 เท่าในปีก่อน
**อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ:**
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** เพิ่มขึ้นจาก 24.5% เป็น 31.0%
* **อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin):** เพิ่มขึ้น
* **อัตรากำไรสุทธิ:** ลดลง
* **อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA):** ลดลง
* **อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE):** ลดลง
**ปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานในอนาคต:**
* ประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า
* วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า (เช่น ก๊าซธรรมชาติ)
* การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
* การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีด้านพลังงาน
* ความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
**พัฒนาการด้านความยั่งยืน (ปี 2567):**
* ได้รับรางวัล RAI Responsible Enterprise Awards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
* ได้รับการคัดเลือกเข้าทำเนียบบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน (THSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
* ได้รับเกียรติบัตรโครงการ ESG ชุดความรู้ด้านความยั่งยืน
* ได้รับรางวัลองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization)
* ได้รับคะแนนการกำกับดูแลกิจการ (CG Score) ในระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
* ได้รับการประเมินให้เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่มีการบริหารจัดการด้านความยั่งยืนในระดับ "AAA"
* โรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชัน ได้รับรางวัล DIW Continuous Award
**โอกาส:**
* การเติบโตของตลาดพลังงานหมุนเวียน
* การสนับสนุนจากภาครัฐสำหรับพลังงานสะอาด
* การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
**ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติ
* ความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ
* ความเสี่ยงในการก่อสร้างโครงการใหม่
(81.39%)
(74.17%)
(12.60%)
(111.12%)
(37.92%)
(21.22%)
(124.42%)
(31.65%)
(93.31%)
(85.31%)
(35.10%)
(2.50%)