CHG
บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

กำไรสุทธิ 192.3 ล้านบาท ลดลง 13.7 ล้านบาท หรือ 7% เมื่อเทียบ YoY โดยรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 10% QoQ เป็น 1,985.5 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปและการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้นทุนจากการประกอบกิจการและค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลงจาก 23.25% เป็น 21.51% ขณะที่เงินสดสุทธิจากการดำเนินงานลดลงและหนี้สินรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้เกิดความเสี่ยงในด้านการบริหารจัดการกระแสเงินสดและหนี้สิน

ในด้านการดำเนินงาน, จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% QoQ แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการบริหารจะเพิ่มขึ้น 8% QoQ จากการขยายกิจการและการปรับเพิ่มค่าตอบแทน แต่กำไรขั้นต้นยังคงลดลง เช่นเดียวกับอัตรากำไรสุทธิที่ลดลงจาก 11% เป็น 9% QoQ

สรุป, การขยายสาขาและการลงทุนในโรงพยาบาลใหม่ช่วยเพิ่มรายได้และการเติบโตของธุรกิจ แต่ต้องพิจารณาปรับปรุงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาอัตรากำไรให้คงที่ ในอนาคต บริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องมือแพทย์และเทคโนโลยี รวมถึงการร่วมลงทุนในโครงการใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขยายกิจการในอนาคต


ผู้เขียน อจน. นุ้ย

สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG): ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567

บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG) ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2567 โดยรายได้รวมอยู่ที่ 2,055.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส 2 ปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งเพิ่มขึ้น 14% โดยรายได้จากผู้ป่วยนอก เพิ่มขึ้น 15% และรายได้จากผู้ป่วยใน เพิ่มขึ้น 12% จากการกลับเข้ามาใช้บริการของกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดิม และการเพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าใหม่ นอกจากนี้ รายได้จากโครงการภาครัฐอื่นๆ เพิ่มขึ้นถึง 109% เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้หัวใจและการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 192.3 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนจากการประกอบกิจการโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับอัตราค่าตอบแทนและการขยายจำนวนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลงทุนในเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและการจัดหาทีมแพทย์เฉพาะทางในหลากหลายสาขา นอกจากนี้ การขยายพื้นที่การให้บริการและการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ก็นับเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ CHG ยังคงเน้นการขยายศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านโรคยากที่มีความซับซ้อน รวมถึงการขยายฐานลูกค้าจากการเปิดให้บริการของโรงพยาบาลแห่งใหม่และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนในเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อยกระดับคุณภาพการบริการและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน CHG คาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2567 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการขยายบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยในกลุ่มเป้าหมาย

จากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง CHG อาจเป็นโอกาสลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาการเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนในกลุ่มธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ราคาหุ้นเฉลี่ยของ CHG ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 3 บาท ในขณะที่ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 24.68 ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน D/E อยู่ที่ 0.31 ซึ่งต่ำกว่า 1 แสดงถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทฯ มีศักยภาพในการก่อหนี้เพื่อขยายกิจการได้อีกสูงมาก และยังเป็นไปตามแผนการขยายของบริษัทฯ นอกจากนี้ วงจรเงินสดของ CHG ในปีที่ผ่านมา “ติดลบ” ซึ่งอาจสะท้อนถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในระยะยาว และ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานมีแนวโน้มที่ดี ในขณะที่ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน “ติดลบ” สะท้อนถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ อย่างไรก็ตาม YIELD อยู่ที่ 2.92% ซึ่งไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาการรับเงินปันผล

**โอกาส:**

* การขยายบริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านโรคยากที่มีความซับซ้อน
* การเปิดให้บริการของโรงพยาบาลแห่งใหม่และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
* การลงทุนในเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและพัฒนาระบบสารสนเทศ
* พื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง

**ความเสี่ยง:**

* ต้นทุนการดำเนินงานที่อาจสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบุคลากรทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์ และการขยายพื้นที่การให้บริการ
* การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพ
* ความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงาน
* ผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประกันสุขภาพ

CHG เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาการเติบโตอย่างมั่นคง และยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจบริการด้านสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการลงทุนแบบ Value Investing หรือ Growth Investing


รายได้รวม
2,055.75 ล้านบาท
50.85ล้านบาท
(2.41%)
ไตรมาสก่อนหน้า
187.47ล้านบาท
(10.03%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
426.97 ล้านบาท
96.02ล้านบาท
(18.36%)
ไตรมาสก่อนหน้า
8.89ล้านบาท
(2.13%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
20.77 ล้านบาท
4.06ล้านบาท
(16.35%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1.61ล้านบาท
(7.19%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
240.47 ล้านบาท
18.60ล้านบาท
(7.18%)
ไตรมาสก่อนหน้า
18.55ล้านบาท
(8.36%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
11.70 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
192.26 ล้านบาท
71.71ล้านบาท
(27.17%)
ไตรมาสก่อนหน้า
13.79ล้านบาท
(6.69%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
9.35 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
338.53 ล้านบาท
122.56ล้านบาท
(26.58%)
ไตรมาสก่อนหน้า
38.09ล้านบาท
(12.68%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล