สรุปงบล่าสุด CGD
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการของ หุ้น CGD บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน ปี 2568**
**ภาพรวมธุรกิจ**
บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างผลกำไรจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ การเปิดตัวโครงการใหม่ และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้ต่ำ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการกระจายการลงทุนเชิงกลยุทธ์ไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ โดยเฉพาะในภาคการศึกษา เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของรายได้และการเติบโตอย่างยั่งยืน (หน้า 1)
**สถานการณ์เศรษฐกิจ**
บริษัทไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม แต่เน้นถึงผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นและกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น (หน้า 7, 9)
**ผลการดำเนินงาน (งวด 3 เดือน สิ้นสุด 30 กันยายน 2568)**
* **รายได้รวม:** 191.4 ล้านบาท ลดลง 70.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (651.8 ล้านบาท) (หน้า 6)
* **ต้นทุนขาย:** 67.4 ล้านบาท ลดลง 79.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (320.4 ล้านบาท) (หน้า 6)
* **ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและบริหาร:** 220.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (165.4 ล้านบาท) (หน้า 6)
* **ขาดทุนจากการดำเนินงาน:** 96.6 ล้านบาท ลดลง 158.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (กำไร 165.1 ล้านบาท) (หน้า 6)
* **รายได้ทางการเงิน:** 28.6 ล้านบาท ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (29.1 ล้านบาท) (หน้า 6)
* **ต้นทุนทางการเงิน:** 147.9 ล้านบาท ลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (154.9 ล้านบาท) (หน้า 6)
* **ขาดทุนสุทธิ:** 210.1 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.4 ล้านบาท (หน้า 7)
**ประเด็นสำคัญ:**
* รายได้รวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าบริษัทจะใช้กลยุทธ์ด้านราคาใหม่เพื่อเพิ่มราคาขาย แต่ก็ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลง (หน้า 7)
* การลดลงของรายได้และต้นทุนขายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานสุทธิลดลง (หน้า 7)
* รายได้หลักยังคงมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ (หน้า 7)
* ต้นทุนทางการเงินลดลงเนื่องจากการชำระคืนหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะสั้น (หน้า 7)
**ผลการดำเนินงาน (งวด 9 เดือน สิ้นสุด 30 กันยายน 2568)**
* **รายได้รวม:** 902.0 ล้านบาท ลดลง 59.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (2,229.6 ล้านบาท) (หน้า 8)
* **ต้นทุนขาย:** 337.7 ล้านบาท ลดลง 70.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1,149.2 ล้านบาท) (หน้า 8)
* **ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและบริหาร:** 557.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (552.9 ล้านบาท) (หน้า 8)
* **กำไรจากการดำเนินงาน:** 6.4 ล้านบาท ลดลง 98.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (526.0 ล้านบาท) (หน้า 8)
* **รายได้ทางการเงิน:** 89.4 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (95.1 ล้านบาท) (หน้า 8)
* **ต้นทุนทางการเงิน:** 440.5 ล้านบาท ลดลง 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (470.5 ล้านบาท) (หน้า 8)
* **ขาดทุนสุทธิ:** 358.5 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50.9 ล้านบาท (หน้า 8)
**ประเด็นสำคัญ:**
* รายได้รวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าบริษัทจะใช้กลยุทธ์ด้านราคาใหม่เพื่อเพิ่มราคาขาย แต่ก็ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลง (หน้า 9)
* การลดลงของรายได้และต้นทุนขายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานสุทธิลดลง (หน้า 9)
* รายได้หลักยังคงมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ (หน้า 9)
* ต้นทุนทางการเงินลดลงเนื่องจากการชำระคืนหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะสั้น (หน้า 9)
**สินทรัพย์และหนี้สิน**
* อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.2 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2567 ที่ 1.0 เท่า (หน้า 5)
* อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุนอยู่ที่ 3.0 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 2.7 ณ สิ้นปี 2567 (หน้า 5)
**โครงการสำคัญ**
* **โครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ:** มียอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเกือบสมบูรณ์ และบริษัทได้ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ด้านราคา ทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้นถึง 36% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (หน้า 1)
* **โครงการบอนส์ พระราม 3:** โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Ultra-Luxury อยู่ระหว่างการพัฒนา ติดกับโรงเรียนนานาชาติ SPGS International School Bangkok (หน้า 2)
* **SPGS International School Bangkok (St Paul’s Bangkok):** โรงเรียนนานาชาติระดับพรีเมียม คาดว่าจะเปิดภาคเรียนปลายเดือนสิงหาคม 2569 (หน้า 2)
**วิเคราะห์เพิ่มเติม**
ถึงแม้ว่า CGD จะเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวและแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ แต่บริษัทยังคงมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากโครงการที่มีอยู่และการลงทุนในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุนอาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง แต่การบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและการชำระคืนหนี้สินอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณที่ดี
**ข้อสังเกต**
ข้อมูลที่ให้มาไม่ได้ระบุถึงผลประกอบการในไตรมาส 1, 2 และ 4 หรือรอบปี 2567 อย่างชัดเจน ดังนั้นการวิเคราะห์จึงเน้นไปที่ข้อมูลที่มีอยู่ในเอกสารเท่านั้น
(52.48%)
(70.64%)
(45.81%)
(79.20%)
(14.02%)
(29.14%)
(12.65%)
(2.85%)
(264.14%)
(643.65%)
(0.16%)
(108.16%)